ลาลีกา ในวันที่ไม่มี “โด้” แต่ยังมี…?

ในฤดูกาล 2018-19 เวทีการแข่งขันฟุตบอลที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดของโลกอย่าง “ลาลีกา สเปน” ได้สูญเสียสุดยอดผู้เล่นอันดับหนึ่งของโลกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ ไปให้กับ ยูเวนตุส กัลโช เซเรียอา อิตาลี แบบที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นจริง

และถึงแม้ทีมราชันย์ชุดขาวจะได้รับเงินค่าตัวของแข้งวัย 33 ปีคนนี้สูงถึง 100 ล้านยูโร แต่ก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนหลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องของศักยภาพเกมรุกที่หลายคนมองว่าถูกลดประสิทธภาพลงจากเดิมมาก รวมไปถึงเสน่ห์มนต์ขลังและฐานแฟนบอลมากมายด้วย

นอกจากนี้ การที่ โรนัลโด้ ย้ายออกไปอยู่ในลีกอื่น ย่อมส่งผลกระทบต่อไปถึง ลาลีกา ด้วยทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะมีแฟนบอลส่วนหนึ่งซึ่งจำนวนไม่น้อย เลิกดูบอลสเปนแล้วหันไปเพิ่มเรตติ้งให้ทางฝั่งอิตาลีแทน

อย่างไรก็ตาม CR7 เองก็ไม่ใช่ทั้งหมดของ วงการลูกหนังลีกสเปน แม้เขาจะค้าแข้งจนประสบความสำเร็จมากมายในดินแดนกระทิงดุมานานเกือบ 10 ปีก็ตาม เพราะนี่คือ 5 เหตุผลที่ยืนยันกับพวกเราว่า ลาลีกา ยังคงเป็นเวทีที่น่าดู น่าจับตามองมากที่สุดเหมือนเดิม

1. ยังมีเมสซี !

นับตั้งแต่ปี 2009 ที่ คริสเตียโน โรนัลโด้ ย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาอยู่กับ เรอัล มาดริด เขาก็สถานปนาตัวเองขึ้นเป็นคู่แข่งคนสำคัญของ เจ้าหนูมหัศจรรย์ ลีโอเนล เมสซี จาก บาร์เซโลนา ได้ทันที

ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของตำนาน 2 ยอดแข้งผู้เก่งสุดในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังยุคใหม่ที่มาพร้อมสถิติอันน่าทึ่งมากมายที่ไม่มีใครสามารถทำผลงานเฉียดเข้าใกล้พวกเขาอีกเลย ซึ่งรวมถึงการพาต้นสังกัดคว้าแชมป์ไปครองได้อีกเพียบ

ฉะนั้นจงอย่าลืมว่า ถึงแม้ โรนัลโด้ จะย้ายจาก สเปน ไปค้าแข้งที่ อิตาลี แล้วแต่ ลาลีกา ก็ยังคงมีสมบัติล้ำค่าอย่าง เมสซี ให้แฟน ๆ ได้เสพย์ลีลาอันน่าตื่นตาตื่นใจอยู่เหมือนเดิม

แถมยังน่าสนใจมากขึ้นกว่าเก่าอีกด้วยซ้ำ เพราะต้องมาลุ้นกันว่าหลังจากคู่แข่งคนสำคัญไม่อยู่แล้ว เมสซี จะเหงาจนหมดอารมณ์เล่น หรือรู้สึกชิลขึ้นจนระเบิดฟอร์มเทพออกมามากกว่าเก่าให้เราร้องอู้หูกันอีก

2. มี ฆูเลน โลเปเตกี กุนซือสดใหม่ไฟแรง

แน่นอนว่า ถึงแม้ มาดริด จะเป็นสโมสรระดับมหาอำนาจที่รวมเอาแข้งดังฝีเท้าระดับโลกมารวมกันอยู่จนแน่นครบทุกตำแหน่งทั้งตัวจริง-ตัวสำรอง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า CR7 นั้นเป็นทุกอย่างของทีมนี้จริง

ฉะนั้น เมื่อพวกเขาขาดคนสำคัญที่มีอิทธิพลสูงทั้งในและนอกสนาม รวมถึงต่อแฟนบอลยันบอร์ดบริหารออกไปแบบนี้ ย่อมเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างมากในทุก ๆ ทางแน่

แถม มาดริด เองก็ยังเปลี่ยนกุนซือใหม่จาก ซีเนอดีน ซีดาน ไปเป็น ฆูเลน โลเปเตกี ตอนซัมเมอร์ ยิ่งน่าสนใจว่าฤดูกาลใหม่นี้ผลงานจะเป็นเช่นไร

แต่เดี๋ยวก่อน ! เพราะในขณะที่หลายคนคาดไว้ว่า ทัพนักเตะชุดขาวจะออกอาการเป๋ พวกเขากลับทำผลงานได้โดดเด่นร้อนแรงแบบหักปากกาเซียนด้วยการเอาชนะคู่แข่งได้ครบ 3 เกมแรกของซีซั่นใหม่ แถมยังยิงประตูรวมถึง 10 ลูกอีกด้วย

ที่เจ๋งกว่านั้นคือฟอร์มของ คาริม เบนเซมา ที่เคยถูกมองว่าอ่อนสุดในสามประสาน BBC จัดการตะบันไปแล้ว 4 ลูก แถม แกเร็ธ เบลล์ ปีกผู้ไม่เคยมีความสุขกับการตกอยู่ใต้เงาของ CR7 ก็ยิง 3 แอสซิสต์ 1 ด้วยเช่นกัน

3. มี นักเตะสดใหม่ไฉไลกว่าเดิม รอคิวขึ้นแท่นแทน CR7

“เมื่อคนเก่าย้ายออกไป แน่นอนว่าต้องมีคนใหม่เข้ามา” นี่คือสัจธรรมที่เกิดขึ้นตลอดมาของวงการฟุตบอลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และแน่นอนว่า คำถามที่คอลูกหนังทั้งโลกอยากรู้มากสุดก็น่าจะเป็น “ใครคือตัวแทนของ โรนัลโด้ ในทีม เรอัล มาดริด”

หลังจากที่ โลเปเตกี ได้เงินมา 100 ล้านยูโรแล้ว หลายคนเห็นพ้องต้องกันว่าเขาจะเอาเงินก้อนนั้นไปสอยซูเปอร์สตาร์ค่าตัวแพงจากทีมอื่นมาอยู่ด้วยแน่ แต่ผิดถนัด เพราะแข้งระดับโลกที่ซื้อคือ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ นายทวารจาก เชลซี ในราคา 35 ล้านปอนด์เท่านั้น

และนั่นก็ทำให้ดีกรีการลุ้นแข้งแนวรุกคนใหม่ที่จะเป็นตัวแทนของ โรนัลโด้ ยิ่งพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิมอีก แต่อย่างที่เราเห็นกันจากข่าวลือมากมายว่าน่าจะเป็น เนย์มาร์ จูเนียร์ จาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

อย่างไรก็ตาม กูรูผู้วิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า สุดท้ายแล้วอาจเป็น คีเลียน เอ็มบัปเป ว่าที่ยอดแข้งอันดับหนึ่งของโลกที่เป็นเพื่อนร่วมทีมคนปัจจุบันของ เนย์มาร์ ใน PSG ได้เช่นกัน

4. มี ประวัติศาสตร์หน้าใหม่แห่งวงการลูกหนัง

อย่างที่บอกไปว่า นับตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน วงการลูกหนังก็แทบจะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลความเก่งกาจของนักเตะเพียงสองคนคือ โรนัลโด้ กับ เมสซี

เพราะนอกจากจะหาไม่มีใครเทียบพวกเขาได้ในแง่ของผลงานแล้ว รางวัลบัลลงดอร์ ที่จะมอบให้กับนักเตะผู้มีฝีเท้าโดดเด่นสุดในโลกของแต่ละปียังถูกเหมาโดยทั้งคู่มาต่อเนื่องยาวนาน 11 ปีเลยทีเดียว

ฉะนั้นหากจะบอกว่าช่วงเวลา 1 ทศวรรษที่ผ่านพ้นไปคือยุคสมัยของ สองสุดยอดอมนุษย์คู่นี้ก็คงไม่ผิดเท่าไหร่นัก

แต่เมื่อเวลาผ่านพ้นไป ไม่มีใครเอาชนะสังขารได้ โรนัลโด้ ย้ายออกจาก มาดริด มุ่งสู่ดินแดนใหม่ใน กัลโช เซเรียอา ทำให้บรรยากาศการแข่งขันส่วนตัวระหว่างเขากับ เมสซี เบาบางไปอย่างชัดเจน

ทำให้เราทุกคนน่าจะรู้สึกตรงกันทั้งโลกว่า วงการลูกหนังกำลังก้าวเข้าสู่ยุคสมัยใหม่ไปแล้วครึ่งตัวสินะ

5. ลาลีกา 2018/19 มีของดีน่าติดตามอย่างนี้ คอบอลห้ามพลาด

188BET TV เปิดถ่ายทอดสด ลาลีกา ทุกแมตซ์ ผ่านคอม และมือถือ iOS & Android แต่ยังต้องทำอย่างไรบ้าง ถึงจะสามารถรับชมไป เราไปดูกันได้เล้ยยยยยยยยย !!!!!!