แม้ชื่อชั้นจะไม่ได้ถูกจัดให้อยู่ในระดับเดียวกับยอดตำนานดาวยิงของโลกหลาย ๆ คน แต่ ปิแอร์ ฟาน ฮอยดองค์ ศูนย์หน้าชาวดัตช์ ก็ได้พิสูจน์ให้แฟนบอลได้เห็นมาตลอดอาชีพค้าแข้งแล้วว่า เขาสามารถพังประตูได้กับทุกสโมสร ไม่ว่าจะลงเล่นให้สโมสรเล็กที่ ไร้กองกลางระดับสตาร์ช่วยเปิดป้อนโอกาส
ฟาน ฮอยดองค์ เริ่มต้นเล่นฟุตบอลกับสโมสร NAC Breda ในตำแหน่งมิดฟิลด์ ตั้งแต่อายุ 11 ปี เขาถูกปล่อยตัวออกจากทีมด้วยเหตุผลว่าเป็นนักเตะที่ไม่มีอนาคตไร้ประโยชน์ต่อทีมตอนอายุ แค่ 14 ปี
ต่อมาเขามาอยู่กับสโมสร RBC Roosendaal โดยเปลี่ยนมาเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้า ขณะที่สโมสรกำลังประสบปัญหาทางการเงิน จึงจำเป็นต้องพึ่งบริการจากนักเตะเยาวชนในทีม ฟาน ฮอยดองค์ จึงถูกเรียกขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เวลาไม่นานเขาก็สามารถยิง 3 ประตูให้ทีมได้ในฐานะตัวสำรอง เวลานั้นประจวบเหมาะกับกองหน้าตัวหลักของทีมบาดเจ็บ ฟาน ฮอยดองค์ จึงได้ลงเล่นในช่วงครึ่งหลังทั้งหมดของฤดูกาล
ในวัย 20 ปี เขายิงให้ทีมได้ 6 ประตู และก็ได้รับสัญญาอาชีพฉบับแรกในชีวิต ก่อนที่ฤดูกาลถัดมา แววของยอดกองหน้าในร่างสูงโปร่งกว่า 190 เซนติเมตร ก็ได้จุดระเบิดขึ้น ฟาน ฮอยดองค์ ซัดให้ RBC รวม 27 ประตู จากทั้งหมด 37 เกม หลายสโมสรในฮอลแลนด์กำลังจับตาเด็กหนุ่มคนนี้ และสุดท้ายเมื่อจบฤดูกาล เขาก็ตัดสินใจย้ายกลับไปเล่นให้กับ NAC ที่ดึงเด็กเก่าคนนี้กลับรังด้วยค่าตัว 400,000 กิลดอร์
ที่ NAC กับการหวนคืน เขาปล่อยวางอดีต พร้อมกับความเป็นศูนย์หน้าที่เจนจัดในการทำประตูยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างต่อเนื่อง ฟาน ฮอยดองค์ ยิงได้เกิน 20 ประตู ใน 3 ฤดูกาลติด ในปี 1993 เขายิง 26 ประตู พา NAC เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดฮอลแลนด์สำเร็จ
ต่อมาเขาบันทึกสถิติยิง 25 ประตู บนลีกสูงสุดของประเทศในปีแรก แม้ต้องเล่นให้สโมสรเล็ก ๆ อย่าง NAC แต่ ฟาน ฮอยดองค์ ก็สามารถมีชื่อสอดแทรกอยู่ในทีมชาติฮอลแลนด์เป็นครั้งแรกในเดือนธันวาคม ปี 1994 ในปี 1995 ขณะลงเล่นให้ทีมไปเพียง 16 เกม ยิง 10 ประตู ก็ถูก เซลติก สโมสรใหญ่จากสก็อตแลนด์ดึงตัวไปร่วมทีม เขาฝาก สถิติ 81 ประตู จาก 115 เกม ไว้ที่ NAC Breda
“ศูนย์หน้าที่ดีต้องยิงประตู…” ประโยคซื่อ ๆ ที่ครบในความหมาย
ฮอยดองค์ เดินหน้าไล่ยิงประตูในลีกสก็อตติช เขาพาเซลติกคว้าแชมป์สก็อตติช คัพ ด้วยการยิงประตูชัยในนัดชิง ฤดูกาล 1994/95 ในวันที่ เซลติก ไม่เคยสัมผัสถ้วยแชมป์ใด ๆ มายาวนานถึง 6 ปีต่อมา ฤดูกาล 1995/96 ฮอยดองค์ ก็คว้ารางวัลดาวยิงสูงสุดของลีกสก็อตแลนด์ด้วยการยิงเฉพาะในลีกรวม 26 ประตูเน้น ๆ
สองฤดูกาลครึ่งในลีกฟุตบอลสก็อตแลนด์ ยิง 56 ประตู จาก 92 เกม จากนั้น ปัญหาเรื่องค่าเหนื่อยที่เขาต้องการเพิ่มขึ้นให้เท่ากับ เปาโล ดิ คานิโอ สตาร์ของทีม และสุดท้ายเมื่อไม่ได้ตามต้องการ เขาตัดสินใจเดินทางสู่อังกฤษด้วยการย้ายมาเล่นให้กับ “เจ้าป่า” น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์
ฟาน ฮอยดองค์ ย้ายมายังทีม ฟอเรสต์ ในช่วงทีมจมอยู่ก้นตาราง และก็หล่นชั้นไปในปีนั้น แต่พอฤดูกาล 1997/98 ฮอยดองค์ ยิงไป 29 ประตู สามารถช่วยพา ฟอเรสต์ กลับสู่ พรีเมียร์ลีก สำเร็จ หลังจากตกชั้นไปปีเดียว
สถิติการยิงที่ดีพอจะส่งให้เขาเป็นตำนานแห่งทีม “เจ้าป่า” แต่ท้ายสุดแล้ว ฟาน ฮอยดองค์ กลายเป็นแข้งที่ถูกตราหน้าว่าคนอัปยศ เมื่อเขาร้องขอให้ทีมปล่อยตัวเขาไปยังสโมสรที่เขาต้องการย้ายไปอย่าง พีเอสวี หรือ นิวคาสเซิ่ล แต่ ฟอเรสต์ ไม่ต้องการขายกองหน้ารายนี้ต่ำกว่า 10 ล้านปอนด์
นั่นเองนำไปสู่จุดแตกหักในฤดูกาล 1998/99 เมื่อ ฮอยดองค์ เลือกที่จะสไตรก์ทีมด้วยการนอนอยู่บ้าน ไม่ไปซ้อม สุดท้าย ฟอเรสต์ ต้องตกชั้นฤดูกาลนั้น เขาถูกกล่าวหาว่าเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุ
ฮอยดองค์ ย้ายกลับไปเล่นกับ วิเทสส์ อาร์เน่ม ในฮอลแลนด์ ด้วยราคาเพียง 3.5 ล้านปอนด์ เขายิง 25 ประตู จาก 29 เกม ในลีก กับทีมอย่าง วิเทสส์ ความคมที่ยังคงรักษาระดับ เพียงปีเดียว ฮอยดองค์ ก็ย้ายไป เบนฟิก้า แล้วก็ฝากการยิงประตูไว้ได้อีกที่ 23 ประตู จาก 35 เกม
ฤดูกาลเดียวที่โปรตุเกส แม้ยิงได้เป็นกอบเป็นกำ แต่ ฟาน ฮอยดองค์ ก็ถูกขายทิ้งจากทีมแบบขาดทุน(ซื้อมา 3.5 ล้านปอนด์ ขาย 800,000 ปอนด์) ด้วยข้อหาไม่เป็นที่รักของประธานสโมสรคนใหม่ เขาย้ายกลับมา ฮอลแลนด์ ยังยิงได้ตลอดแต่ก็เบื่อกับการเล่นที่ไหนนาน ๆ เหมือนจะมีปัญหาโน้นนี่เป็นระยะ แต่ก็ไม่เคยส่งผลให้ผลงานในสนามของเขาถดถอยลง
ฤดูกาล 2001/02 จุดสูงสุดของดาวยิงที่ถูกยกให้เป็นจอมปัญหา เขาพา เฟเยนูร์ด คว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ มาครอง ทั้งที่ในรอบรองปีนั้นมีทั้ง ดอร์ทมุนด์, เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน โดยที่ขุมกำลังของ เฟเยนูร์ด เวลานั้นไร้ซึ่งสตาร์เด่นในทีม
แม้ทีมจะถูกมองว่าอยู่ต่างระดับจากทั้ง 4 ทีมที่ผ่านสู่รอบรอง แต่ ฮอยดองค์ ยิง 2 ประตู ในเกมนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า คัพ ที่พบกับ ดอร์ทมุนด์
ฟาน ฮอยดองค์ ย้ายไปเล่นฟุตบอลในตุรกีในช่วงปลายอาชีพ แล้วก็กลับมาที่ NAC ก่อนจะแขวนสตั๊ดกับสโมสร เฟเยนูร์ด ฮอยดองค์ สรุปนิยามสั้น ๆ ให้ตนเองว่า “ทุก ๆ ทีม ที่จ่ายค่าแรงให้กับผม จะได้เห็นประตูที่ผมยิงได้ ถ้านักเตะได้รับเงินมาก แต่ยิงประตูได้น้อยนิด คุณจะรู้สึกว่าคุณจ่ายเงินเยอะเกินไป มันไม่คุ้ม แต่ไม่มีใครพูดแบบนั้นกับผมได้”
“นักเตะที่มีปัญหากับผมมักจะพูดว่า ผมไม่ใช่คนดี แต่พวกเขาไม่เคยบอกว่า ผมเป็นมืออาชีพที่แย่”
สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ
เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค