กีฬาฟุตบอล

โคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานคนต่อไปแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์

1 10 67 - โคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานคนต่อไปแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์

เรียกได้ว่ากลับสู่ฟอร์มอันยอดเยี่ยมอีกครั้งสำหรับ เชลซี ที่ออกสตาร์ทฤดูกาลใหม่ด้วยผลงานอันไฉไลกว่าเก่า

โดยหลังจากผ่าน 6 เกมแรกของฤดูกาล พลพรรค สิงโตน้ำเงินคราม เก็บชัยชนะได้ถึง 4 เกม เสมอและแพ้ไปอย่างละเกม รั้งอันดับที่ 4 ของตารางคะแนน ช่วงเดือนกันยายน ซึ่งจากผลงานดังกล่าวต้องยกความดีความชอบให้กับ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือชาวอิตาเลียน ที่เพิ่งจะย้ายจาก เลสเตอร์ ซิตี้ มารับงานในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

โคล พาลเมอร์ เดอะ แบก แห่งทัพ สิงโตน้ำเงินคราม

image - โคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานคนต่อไปแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์

โดยนอกจากตัวกุนซืออย่าง มาเรสก้า แล้ว อีกหนึ่งผู้เล่นที่กลายเป็น เดอะ แบก ของ เชลซี ในซีซั่นนี้ ก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก โคล พาลเมอร์ ตัวรุกดาวรุ่งทีมชาติอังกฤษ ที่เพิ่งจะสร้างสถิติยิงคนเดียว 4 ประตูในเกมที่พาพลพรรค สิงโตน้ำเงินคราม เปิดบ้านเอาชนะ ไบร์ทตัน 4-2 เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา

ซึ่งนั่นทำให้ พาลเมอร์ กลายเป็นผู้เล่นคนแรกของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ยิงได้ถึง 4 ประตูในครึ่งแรก และใช้เวลาเพียง 19 นาที 57 วินาทีเท่านั้น โดยจาก 4 ประตูที่เกิดขึ้นทำให้ พาลเมอร์ กลายเป็นผู้เล่นคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่ยิง 4 ประตูในครึ่งแรก ต่อจาก โอเล่ กุนนาร์ โซลชา, เจอร์เมน เดโฟ และ เซร์คิโอ อเกวโร่

นอกจากนี้ยังเป็นแฮตทริกที่เร็วที่สุดที่นักเตะ เชลซี ทำได้ในพรีเมียร์ลีก โดย พาลเมอร์ ยิง 3 ประตูภายในระยะในเวลา 9 นาที 48 วินาที ซึ่งหลังจบเกม ธีโอ วัลค็อตต์ อดีตแข้งทีมชาติอังกฤษของ อาร์เซน่อล ที่รับหน้าที่วิเคราะห์เกมทางสถานีโทรทัศน์ ได้ออกมายกย่องแข้งรุ่นน้องรายนี้ พร้อมกับนำไปเปรียบเทียบกับอดีตเพื่อนร่วมทัพ ปืนใหญ่ อย่าง เดนนิส เบิร์กแคมป์ และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี โดยเปิดเผยว่า

“โคล เป็นนักเตะที่มีความละเอียดอ่อน เหมือนกับ เบิร์กแคมป์ และ ฟาน เพอร์ซี พวกเขามีพรสวรรค์อยู่ในตัว เขาจะสามารถทำให้ผู้เล่นคนอื่น เกรงกลัวเขายามอยู่ในสนามด้วยผลงานของเขาเอง และหากเขายังคงรักษาฟอร์มแบบนี้ไว้ต่อไป เขาจะกลายเป็นตำนานของ พรีเมียร์ลีก อีกหนึ่งคน”

image 1 - โคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานคนต่อไปแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์

สำหรับ โคล พาลเมอร์ เกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2002 ในเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ และเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังจากการเข้าสู่สาระบบของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวัยเพียง 8 ขวบ หลังจากนั้น พาลเมอร์ ก็เริ่มโชว์ฟอร์มโดดเด่นในทุกรุ่นอายุ และได้รับปลอกแขนกัปตันในทีมชุด U18 และมีผลงานที่ยอดเยี่ยม ด้วยการลงสนาม 14 นัด ยิงประตูไป 15 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ ในรายการ พรีเมียร์ลีก U-18 พร้อมช่วยทัพ เรือใบสีฟ้าจูเนียร์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก คัพ ไปครอง

ซึ่งผลงานดังกล่าว แน่นอนว่าไม่รอดพ้นสายตาของ เป๊ป กวาร์ดิโอ กุนซือทีมชุดใหญ่ ก่อนที่ เป๊ป จะมอบโอกาสให้ พาลเมอร์ ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงแบบเต็มเกมครั้งแรก เมื่อปี 2020 ในเกม คาราบาว รอบ 4 กับ เบิร์นลีย์

อนาคตสดใสเจียระไนโดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

image 2 - โคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานคนต่อไปแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์

ณ เวลานั้น เป๊ป ยอมรับว่าประทับใจในฟอร์มการเล่นของ พาลเมอร์ เนื่องจากเล่นได้หลายตำแหน่งในแนวรุก ไม่ว่าจะเป็น แนวรุกริมเส้นทั้งซ้ายและขวา เพลย์เมกเกอร์ กลางตัวอิสระ รวมถึงเล่นเป็นกองหน้าในระบบ False 9ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดย เป๊ป เคยพูดถึง พาลเมอร์ ว่า ประทับใจทัศนคติของ พาลเมอร์ ที่มีความอ่อนน้อมและทำงานหนักเสมอ พาลเมอร์ มีสัญชาตญาณเต็มเปี่ยม

และเป็นนักเตะที่ครบเครื่องแบบเดียวกับ ฟิล โฟเด้น โดย พาลเมอร์ เล่นให้ แมนฯ ซิตี้ ชุดใหญ่ทั้งหมด 3 ฤดูกาล ลงสนามทั้งหมด 28 นัดทุกรายการ ยิงไป 4 ลูก กับ 1 แอสซิสต์ ซึ่ง 2 ประตูที่ยิงเป็นประตูสำคัญในรายการ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ คอมมูนิตี้ ชิลด์

โดยในช่วงซัมเมอร์ปี 2023 เชลซี ยื่นข้อเสนอเข้ามาทาบทามตัว โคล พาลเมอร์ ด้วยมูลค่าสูงถึง 40 ล้านปอนด์ + แอดออนอีก 5 ล้านปอนด์ พร้อมเซ็นสัญญาระยะยาวถึง 7 ปี หรือจนถึงปี 2030 ซึ่งในท้ายที่สุดพวกเขาก็ได้ตัว โคล พาลเมอร์ ไปร่วมทีมสมดั่งใจ ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นของว่าที่ตำนานแห่งถิ่น สแตมป์ฟอร์ด บริดจ์ ที่มีชื่อว่า โคล พาลเมอร์

จนถึงตอนนี้ พาลเมอร์ กลายเป็นผู้เล่นที่ เชลซี ขาดไม่ได้ไปแล้ว หลังจากที่ฤดูกาลแรกของ พาลเมอร์ กับ เชลซี เจ้าตัวได้ลงสนามไปทั้งสิ้น 45 นัดยิงไปถึง 25 ประตู รวมทุกรายการ เริ่มแรกเจ้าตัวได้รับบทบาทตัวรุกทางริมเส้นฝั่งขวา แต่ช่วงครึ่งซีซั่นหลัง พาลเมอร์ ถูกขยับเข้ามารับบทบาทจอมทัพ

หรือตำแหน่งหมายเลข 10  ซึ่ง พาลเมอร์ ก็ยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม แม้ว่าผลงานของต้นสังกัดอย่าง เชลซี ในซีซั่นที่ผ่านมา จะค่อนข้างน่าผิดหวังก็ตาม

โคล พาลเมอร์ เป็นนักเตะที่คล่องแคล่ว สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและหาช่องว่างในแนวรับของฝ่ายตรงข้ามได้ดี มีทักษะการเลี้ยงบอลที่ยอดเยี่ยม สามารถเอาชนะกองหลังด้วยการควบคุมบอลที่เฉียบคม สิ่งนี้ทำให้ พาลเมอร์ เป็นคุกคามต่อกองหลังฝ่ายตรงข้ามอยู่เสมอ นอกจากนี้ พาลเมอร์ ยังมีเทคนิคชั้นสูง ที่สามารถจ่ายบอลได้อย่างแม่นยำและสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้ รวมทั้งการจบสกอร์ที่ทำได้หลายรูปแบบด้วย

หวนร่วมงาน มาเรสก้า & ซานโช่

image 3 - โคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานคนต่อไปแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์

ถึงตอนนี้ พาลเมอร์ ยังมีอายุน้อยและยังมีศักยภาพพัฒนาอีกมาก แถมยังเคยเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาแล้ว ทำให้เจ้าตัวมีประสบการณ์ที่หลากหลายและสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ได้แบบไม่ยากเย็น โดย เอ็นโซ่ มาเรสก้า กุนซือของ เชลซี ก็ออกมาชื่นชมศิษย์เอกรายนี้ หลังเคยร่วมงานกันมาแล้วในถิ่น เอติฮัต สเตเดียม ก่อนโคจรมาร่วมงานกันอีกครั้งในรั้วของ สิงโตน้ำเงินคราม โดยชื่นชม โคล ว่ามีสิ่งที่พิเศษที่เรียกว่าพรสวรรค์ ที่นักเตะหลายๆคนไม่มี และทำไม่ได้

“โคล เป็นนักเตะที่พิเศษ เป็นคนธรรมดา เป็นคนถ่อมตัว เขาไม่จำเป็นต้องบอกใครว่าเขาเก่งแค่ไหน เพราะคุณสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน เมื่อคุณยิงได้ 4 ประตู มันคือฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม แต่ผมบอกกับ โคล ว่าจริงๆเขาควรยิงได้มากกว่านี้ด้วยซ้ำ ดังนั้นมันดีที่เขายังคงหิวกระหายและทะเยอทะยานต่อไป”

“เขาทำประตูได้ จ่ายบอลได้ และได้รับการโหวตให้เป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก แต่สิ่งนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงตัวตนของเขา เขาเป็นคนเรียบง่าย เป็นคนถ่อมตัว และสำหรับผมแล้วนี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุด เราพยายามใช้ โคล ในตำแหน่งหมายเลข 10 เพราะสำหรับผมแล้วนั่นอาจเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา แต่เขาสามารถเล่นได้ทั้งในตำแหน่ง Flase 9 และ ปีก หรือตำแหน่งอื่นๆ ในแบบที่เขากำลังเล่นอยู่ตอนนี้ เขาสามารถเล่นได้หลายตำแหน่งเพราะเขาฉลาดมาก สิ่งเดียวที่ผมพูดได้คือตำแหน่งในสนามคือตำแหน่งที่ดีที่สุดของ โคล”

image 4 - โคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานคนต่อไปแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์

นอกจากนี้อดีตเพื่อนร่วมรุ่นที่เคยเล่นเคียงบ่าเคียงไหล่กันในทีมเยาวชนของ เรือใบสีฟ้า อย่าง เจดอน ซานโช่ ก็ออกมายกย่องเพื่อนเกลอรายนี้ หลังสร้างสถิติมากมายในสีเสื้อของ เชลซี ว่า

“เมื่อคุณมีผู้เล่นอย่าง โคล พาลเมอร์ อยู่ในทีม ทุกอย่างก็เป็นไปได้ ผมรู้จัก โคล มาเป็นเวลานานแล้ว ตั้งแต่สมัยที่เราอยู่ด้วยกันที่ แมนฯ ซิตี้ ผมเฝ้าดูเขามาตลอดและคิดเสมอว่าเขาจะเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมได้ และเขากำลังแสดงให้เห็นตอนนี้ที่ เชลซี เราเห็นว่าเขาทำอะไรได้บ้างในแต่ละวันในการฝึกซ้อม เราเห็นคุณภาพที่เขามี และพูดตามตรงว่าผมไม่แปลกใจเลยที่เห็นเขายิงได้ 4 ประตู”

เจ้าพ่อแฮตทริกแห่งศึกพรีเมียร์ลีก

image 5 - โคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานคนต่อไปแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์

สำหรับแฮตทริกครั้งที่ 3 ของ โคล พาลเมอร์ ในพรีเมียร์ลีก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่ตะบันแฮตทริกได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เชลซี ด้วยก่อนหน้านี้มีเพียง จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์, แฟรงค์ แลมพาร์ด และดิดิเยร์ ดร็อกบา เท่านั้นที่ทำให้แฮตทริกได้ถึง 3 ครั้งจากการค้าแข้งในถิ่น สแตมป์ฟอร์ด บริดจ์

ทั้งนี้หากยังจำกันได้ โคล พาลเมอร์ เคยตะบันถึง 4 ประตูในเกมเดียวมาแล้ว ในเกมที่ เชลซี เจอกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งนั่นทำให้ พาลเมอร์ เป็นแข้งรายที่ 2 ของ เชลซี ต่อจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่ยิง 4 ประตูได้มากกว่า 1 ครั้ง

เท่านั้นยังไม่พอ 4 ประตูของ พาลเมอร์ ในเกมกับ ไบรท์ตัน ยังทำให้เจ้าตัวเป็นนักเตะรายที่ 9 ที่ยิงได้ 4 ประตูมากกว่า 1 ครั้ง ต่อจาก เซร์คิโอ กุน อเกวโร่, แฟร้งค์ แลมพาร์ด,โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์, ดิมิตาร์ เบอร์บาตอฟ, อเย็คเบนี่ ยาคูบู, แอนดี้ โคล, ไมเคิล โอเว่น และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์

สถิติต่อไปที่ โคล พาลเมอร์ กำลังไล่ล่า

image 6 - โคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานคนต่อไปแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์

ถึงตอนนี้ โคล พาลเมอร์ คือนักเตะที่มีส่วนร่วมในการทำประตูมากที่สุดในทีม เชลซี จากผลงาน 6 ประตู 4 แอสซิสต์ โดยจาก 4 ประตูของ พาลเมอร์ ที่เกิดขึ้นในเกมกับ ไบรท์ตัน หนึ่งในนั้นเป็นการสังหารจุดโทษที่ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้แฟนๆ สิงโตน้ำเงินคราม เบาใจได้ เพราะเปอร์เซนต์ความชัวร์และค่าเฉลี่ยการยิงเข้าของ โคล พาลเมอร์ เป็นอะไรที่สูงเอามากๆ ซึ่งประตูจากลูกจุดโทษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้ พาลเมอร์ เข้าใกล้การทำลายสถิติอีกครั้ง

โดยที่ผ่านมา พาลเมอร์ ไดัรับโอกาสสังหารจุดโทษไปทั้งสิ้น 10 ครั้งแลมีสถิติยิงเข้า 100 เปอร์เซอร์ โดยยังยิงไม่พลาดเลยแม้แต่หนเดียว โดยหาก พาลเมอร์ ยิงจุดโทษเข้าอีกครั้ง ก็จะเป็นการทำสถิติยิงจุดโทษแบบไม่พลาดเลยติดต่อกันนานที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เทียบเท่ากับ ยาย่า ตูเร่ อดีตกัปตันทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ยิงจุดโทษเข้าติดต่อกันมากที่สุด 11 ครั้งด้วยกัน

5 นักเตะที่ยิงจุดโทษเข้าติดต่อกันมากที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
1. ยาย่า ตูเร่ (แมนฯ ซิตี้) 11 ประตูติดต่อกัน
2. โคล พาลเมอร์ (เชลซี) 10 ประตูติดต่อกัน
3. ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ (แมนฯ ยู) 9 ประตูติดต่อกัน
4. ราอูล ฆิเมเนซ (วูล์ฟแฮมป์ตัน) 8 ประตูติดต่อกัน
5. รูเบน เนเวส (วูล์ฟแฮมป์ตัน) 8 ประตูติดต่อกัน

สำหรับโปรแกรมการลงสนามของ เชลซี ในช่วงต้อนรับเดือนตุลาคม จะได้เล่นในรัง สแตมฟอร์ด บริดจ์ 2 เกมซ้อน ทั้งเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เกงค์ จาก เบลเยี่ยม ในรายการ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก วันที่ 3 ตุลาคมนี้ ก่อนจะเปิดรังรับการมาเยือนของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในวันเสาร์ที่ 6 ตุลาคมนี้

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันจากต่างประเทศ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค

750x410 WP Cover FCB Partner 2024 - โคล พาลเมอร์ ดาวรุ่งผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานคนต่อไปแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์

Share: