“มันเป็นเกมที่ไม่สมดุลเลย ลิเวอร์พูล เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ดูเปราะบางเหลือเกิน สิ่งที่น่าประทับใจคือ ลิเวอร์พูล พร้อมจะทำประตูอยู่ตลอดเวลา และมันน่าผิดหวังมากๆ สำหรับ ยูไนเต็ด”
บทสัมภาษณ์ของ รอย คีน อดีตกัปตันทีมผู้ยิ่งใหญ่ของทัพ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่แสดงความคิดเห็น หลังเกมที่อดีตต้นสังกัดแพ้คารังในเกมแดงเดือดล่าสุด ต่อคู่อริตลอดดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล แบบหมดทางสู้ 0-3 ซึ่งจากผลงานและฟอร์มการเล่น รวมทั้งคาแรกเตอร์ของ ยูไนเต็ด ในระยะหลัง แทบไม่มีอารมณ์ร่วมกับเกม และแทบไม่ได้ใกล้เคียงกับคำว่า เอ็นเตอร์เทนแฟนบอล เลยแม้แต่น้อย
ถึงตอนนี้ ยูไนเต็ด แพ้ไปแล้วถึง 2 เกมจาก 3 เกมแรกของฤดูกาล เก็บได้เพียง 3 แต้ม หล่นมาอยู่อันดับที่ 14 ของตาราง ซึ่งนั่นทำให้เหล่าสาวก เร้ด เดวิลส์ เริ่มคิดถึงความบ้าระห่ำทะลุจุดเดือด และความทุ่มเทแบบเกินร้อยของอดีตกัปตันทีมอย่าง รอย คีน ขึ้นมาไม่มากก็น้อย เพราะเชื่อว่าพวกเขาเหล่านี้น่าจะยังติดตากับสไตล์การเล่นของ รอย คีน ที่ได้ไม่ห่างไกลกับคำว่า ฮาร์ดคอร์ เลย
โดย คีน ได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลามจากอดีตเพื่อนร่วมงานและผู้จัดการทีมหลายคน ไม่น้อยไปกว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่แม้ว่าจะจบไม่สวยกับศิษย์รักรายนี้ แต่ก็ยังกล่าวยกย่อง คีน ว่า ถ้าเกิดเขาสามารถเลือกทีมยอดเยี่ยมที่สุดตลอด รอย คีน จะมีชื่ออยู่ในของตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งเหตุผลก็เป็นเพราะว่า คีน เป็นนักเตะที่ยอมวิ่งตายเพราะความเหนื่อยล้าดีกว่าที่จะยอมแพ้ยามอยู่ในสนามนั่นเอง
จุดกำเนิด รอย คีน ถอดนวมมาสวมสตั๊ด
รอย คีน เกิดเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 1971 ทางตะวันออกเฉียงใต้ ของไอร์แลนด์ และเริ่มชกมวยเป็นกีฬาชนิดแรกในชีวิต แถมยังเคยชกบนเวทีมาตรฐานถึง 4 ไฟต์ ก่อนจะเบนเข็มมาให้ความสนใจในกีฬาฟุตบอล และเริ่มต้นจากการเป็นสมาชิกของสโมสรท้องถิ่นอย่าง ล็อคเมาส์ และเล่นให้กับสโมสรแห่งนี้ยาวนานถึงเกือบ 10 ปี
จนกระทั่งปี 1989 ไบร์อัน เคราจ์ ผู้จัดการทีม น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ณ เวลานั้น ดึงตัว รอย คีน ไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 47,000 ปอนด์ ในขณะที่ คีน มีอายุได้ 18 ปี หลังจากนั้นจากผลงานในสนามอันน่าประทับใจ คีน จึงเริ่มที่จะกลายเป็นตัวหลักของทัพ เจ้าป่า นอกจากนี้ คีน ยังได้ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ เป็นครั้งแรก ในปี 1991 ด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น ซึ่งจากฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น ทำให้ แจ็ค ชาร์ลตัน ผู้จัดการทีมสาธารณรัฐไอร์แลนด์ในขณะนั้นเรียก คีน ติดทีมชาติครั้งแรกในเดือน พฤษภาคม ปี 1991
นอกจากผลงานของ คีโน่ จะไปเข้าตาผู้จัดการทีมชาติไอร์แลนด์แล้ว ยังมี แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ให้ความสนใจกองกลางจอมระห่ำรายนี้ โดยในปี 1991 พลพรรค เจ้าป่า มีอันต้องตกชั้นลงไปเล่นในลีกรอง จึงทำให้ ปีศาจแดง ทำสงครามกับ กุหลาบไฟ นอกสนาม เพื่อแย่งตัวมิดฟิลด์ไอริชไปร่วมทีม ก่อนสุดท้ายจะกลายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ได้เซ็นสัญญากับ คีน ด้วยค่าตัว 3.75 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นค่าตัวที่แพงที่สุดของสโมสร และของทีมในเกาะอังกฤษเวลานั้น
จาก เจ้าป่า สู่หัวหน้าเผ่าทัพ ปีศาจแดง
บทบาทของ คีน กับ ยูไนเต็ด ก็คือตัวคุมจังหวะและตัดเกม ทำลายเกมของคู่ต่อสู้ ซึ่งทั้งทักษะ การขับเคลื่อน การตัดสินใจ และความมุ่งมั่นในเกม ทำให้เขากลายเป็นขวัญใจแฟนบอล รวมทั้งเป็นลูกพี่ใหญ่ในทีมอย่างรวดเร็ว โดยหลังจากที่ เอริค คันโตน่า ประกาศแขวนสตั๊ด หลังจบฤดูกาล 1996-97 คีน ได้รับปลอกแขนกัปตันทีมต่อจาก ก็องโต้ อย่างไรก็ตามเจ้าตัวดันมาเจออาการบาดเจ็บ และส่งผลให้ ปีศาจแดง พลาดแชมป์ในปีนั้น
ต่อมาใน ฤดูกาล 1998-99 คีน กลับมาลงสนามด้วยความฟิตเหมือนเดิม และกลายเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ ปีศาจแดง ได้ครองแชมป์พรีเมียร์บีก อังกฤษ ในฤดูกาลนั้น ขณะที่ ฤดูกาล 1999-2000 คีน ยิงได้ถึง 12 ประตู ซึ่งครึ่งหนึ่งเป็นประตูที่ตะบันในรายการฟุตบอลถ้วยยุโรป ซึ่งนั่นทำให้ คีน ได้รับเลือกให้เป็น นักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล ของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ PFA นอกจากนี้ คีน ยังพา ผีแดง คว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก เป็นครั้งที่ 7 ของสโมสรในฤดูกาล 2000-01
วีรกรรมบันลือโลก ฝากรอยเท้าให้ พ่อฮาลันด์ ใน แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้
อย่างไรก็ตามในซีซั่นนั้นเกิดรอยด่างพร้อยในชีวิตการค้าแข้งของเจ้าตัวจากเหตุการณ์ที่ คีน จงใจเปิดปุ่มยันใส่ อัลฟี ฮาลันด์ แข้งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จนมีส่วนให้ ฮาลันด์ ต้องแขวนสตั๊ด ขณะมีอายุเพียง 30 ปีเท่านั้นเท่านั้นยังไม่พอเมื่อ คีโน่ ยังสารภาพในหนังสืออัตชีวประวัติของตัวเองในปี 2002 ว่าจงใจเปิดปุ่มประทับตราฝากรอยเท้าบนหัวเข่าของ อัลฟี เพื่อแก้แค้นที่แข้งนอร์เวย์เจี้ยนรายนี้ ที่เคยตะคอกใส่เขาว่าแกล้งเจ็บ สมัยที่ อัลฟี ยังเล่นที่ ลีดส์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 1997 ซึ่งคำสารภาพดังกล่าวทำให้ คีน ถูก เอฟเอ ลงโทษปรับเงิน 150,000 ปอนด์ และแบนอีก 5 นัด หลังจากเพิ่งโดนปรับมา 5,000 ปอนด์ และแบน 3 นัดจากการโดนไล่ออกในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้
นอกเหนือจากคุณภาพฟุตบอลและความสำเร็จที่ รอย คีน เนรมิตให้กับทัพ ปีศาจแดง มากมายแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่อยู่คู่กับ รอย คีน มาอย่างช้านานก็คือ อารมณ์ร่วมอันคุกรุ่น เดือดดาล จนกลายเป็นภาพจำของเหล่าบรรดาแฟนๆมาจนถึงปัจจุบัน โดยนอกจากวีรกรรมฝากรอยเท้าใส่ อัลฟี ฮาลันด์ แล้ว ยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์สุดคลาสสิคเมื่อปี 2005 ที่ทั้งแฟนบอล ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล น่าจะจดจำกันได้เป็นอย่างดี
ชอตคลาสสิคตลอดกาล คีน ปะทะ วิเอร่า กับเหตุการณ์ในอุโมงค์ก่อนเกม
โดยเป็นเกมพรีเมียร์ลีกที่ ปืนใหญ่ เปิดรัง ไฮบิวรี่ รับการมาเยือนของ แมนฯ ยู โดยก่อนเริ่มเกมกล้องถ่ายทอดสดจับภาพเหตุการณ์ในอุโมงค์ขณะที่ รอย คีน กำลังเดือดดาลและพร้อมบวกกับ พาทริค วิเอร่า ที่มีสถานะเป็นกัปตันทีมของ เดอะ กันเนอร์ส โดยมีผู้ตัดสินอย่าง เกรแฮม โพลล์ พยายามระงับเหตุ ซึ่งมีการเปิดเผยในภายหลังว่าเป็นเพราะ แกรี่ เนวิลส์ ถูก ปาทริค วิเอร่า ปั่นประสาท รอย คีน ในฐานะกัปตันจึงทนดูไม่ได้ เลยออกตัวแทนรุ่นน้อง พร้อมสบถใส่เฟร้นช์แมนในอารมณ์ประมาณว่า “เดี๋ยวมึงไปเจอกูในสนาม”
เท่านั้นยังไม่พอ ในฤดูกาลเดียวกันนั้น หลังจบเกมที่ แมนฯ ยู บุกไปแพ้ มิดเดิลสโบรช์ 1-4 คีน ออกมาทิ้งบอมบ์ลูกใหญ่ ด้วยการวิจารณ์ฟอร์มการเล่นของนักเตะในทีมทั้ง จอห์น โอเช ,อลัน สมิธ ,เคียแรน ริชาร์ดสัน รวมทั้ง ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ แบบสาดเสียเทเสีย โดยเฉพาะในรายของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ที่ คีน ออกมาสับแบบไม่ไว้หน้า โดยระบุว่า “คุณได้รับเงิน 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์และเล่นได้ดีเป็นเวลา 20 นาทีในเกมกับ สเปอร์ส คุณก็คิดว่าคุณเป็นซุปเปอร์สตาร์ซะแล้ว”
การระเบิดอารมณ์ดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการประณามเพื่อนร่วมทีมอย่างรุนแรง จนทำให้ฝ่ายบริหารต้องถอดบทสัมภาษณ์ดังกล่าวออกจากสถานีโทรทัศน์ของสโมสร หลังจากนั้นดูเหมือนว่าสถานการณ์ของ รอย คีน กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รวมทั้ง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
หลังจากนั้นความตึงเครียด ระหว่าง คีน กับฝ่ายบริหารและนักเตะของ ยูไนเต็ด ก็เพิ่มมากขึ้น ไล่ตั้งแต่รอยร้าวกับ เฟอร์กูสัน เกี่ยวกับคุณภาพของการจัดสถานที่ในแคมป์ฝึกซ้อม แถม คีน ยังยอมรับกลางรายการของสโมสรว่า พร้อมที่จะไปเล่นที่อื่นหลังจากสัญญาปัจจุบันของเขากับ ยูไนเต็ด สิ้นสุดลงเมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ซึ่งนั่นทำให้ คีน กับ เฟอร์กี้ แทบจะมองหน้ากันไม่ติด โดย 2 สัปดาห์หลังจากทะเลาะกับ เฟอร์กูสัน คีน ก็ตกลงแยกทางกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อเดือน พฤศจิกายน 2005 ในระหว่างที่เขาต้องพักรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บที่เกิดจากการเข้าปะทะกับ หลุยส์ การ์เซีย แข้ง ลิเวอร์พูล อย่างรุนแรง
ยอมหักไม่ยอมงอ ฟางเส้นสุดท้าย คีโน่ กับ เฟอร์กี้
รอย คีน กล่าวในบทสัมภาษณ์กับบริษัทสื่อไอริช Off the Ball เมื่อเดือนกันยายน 2019 ว่า แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด พยายามผลักดันให้เขาออกจากสโมสรเพราะเขาแก่ตัวลง และความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับ คาร์ลอส เคยรอซ ผู้ช่วยผู้จัดการทีมในขณะนั้น และต่อมากับ เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งนั่นเท่ากับว่า คีน จารึกตัวเลขการลงสนามกับทัพ ปีศาจแดง ไว้ที่ 480 นัดซัดไป 51 ประตูรวมทุกรายการ
โดยหลังจากบอกลารั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อช่วงต้นปี 2006 คีน ก็ย้ายไปเล่นให้กับ กลาสโกว์ เซลติก ทีมที่เขาเป็นแฟนบอลตั้งแต่วัยเด็ก โดยมีรายงานว่า คีน ได้รับเงินเพียง 15,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม คีน ค้าแข้งให้กับทัพ ม้าลายเขียว-ขาว ได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น เจ้าตัวก็ฝืนสังขารไม่ไหว ประกาศอำลาวงการฟุตบอลอาชีพตามคำแนะนำของแพทย์ในที่สุด
แม้ว่าอดีตหัวหน้าเผ่าโรงละครแห่งความฝันจะจบเส้นทางกับ ปีศาจแดง ไม่ค่อยสวยงามนัก เนื่องจากมีปัญหาไม่ลงรอยกับกุนซือชั้นบรมครูอย่าง เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อย่างไรก็ตามแข้งจอมทรนงก็ยังถือว่าเป็นผู้มีอิทธิพลต่อ ยูไนเต็ด มาจนถึงปัจจุบัน ในฐานะคอมเม้นต์เตเตอร์ฝีปากกล้า ที่พร้อมจะสาดวลีในเวอร์ชั่นกำปั้นทุบดินแทบจะทุกครั้งที่ ยูไนเต็ด ผลงานออกทะเล
สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันจากต่างประเทศ
เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค