กีฬาฟุตบอล

โรนัลดินโญ่ แซมบ้าผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานแห่งทีมชาติบราซิล

ronaldinho cover - โรนัลดินโญ่ แซมบ้าผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานแห่งทีมชาติบราซิล

ในช่วงทศวรรษที่ 20 หากจะเอ่ยถึงนักฟุตบอลสักคนที่สร้างปรากฏการณ์มากมายให้กับโลกฟุตบอล เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะชื่อของจอมทัพจอมเทคนิคทีมชาติบราซิลอย่าง โรนัลดินโญ่ อยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน ซึ่งถึงตอนนี้ ยังคงไม่มีนักเตะคนไหนในโลกที่มีลีลาใกล้เคียงกับ เหยินเล็ก ดังนั้นวันนี้เราจะพามาย้อนเวลา เล่าเรื่องเกี่ยวกับ ตำนานจอมทัพทีมชาติบราซิลอย่าง โรนัลดินโญ่ กัน

จากเกรมิโอ บ้านเกิด ก่อนดังระเบิดกับ ปารีสฯ

image 32 - โรนัลดินโญ่ แซมบ้าผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานแห่งทีมชาติบราซิล

โรนัลดินโญ่ เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 1980 ที่เมือง ปอร์โต อาเลเกร ประเทศบราซิล โดยเริ่มต้นการเล่นฟุตบอลในบราซิล กับทีมเยาวชนของสโมสร เกรมิโอ ในปี 1998 โดย เหยินเล็ก แสดงให้เห็นถึงทักษะและสกิลความสามารถในด้านลูกหนัง จนทำให้ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของ เกรมิโอ ในเวลาอันรวดเร็ว โดยตลอด 3 ซีซั่นในทีมชุดใหญ่ของ เกรมิโม โรนัลดินโญ่ ที่รับบทจอมทัพ สังหารไปถึง 58 ประตูจากการลงสนาม 125 เกมรวมทุกรายการ

ซึ่งฟอร์มของ โรนัลดินโญ่ ณ เวลานั้น นับว่าเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่ เกรมิโอ จะรั้งแข้งรายนี้อยู่ในบ้านเกิดต่อไป สุดท้ายในฤดูกาล 2001-02 เป็น ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ที่ทุ่มเงิน 5 ล้านยูโร คว้าตัว โรนัลดินโญ่ ไปร่ายรำในศึกลีก เอิง ฝรั่งเศส ด้วยอายุเพียง 21 ปี ซึ่งการย้ายมาสู่ลีกแดนน้ำหอม ถือเป็นก้าวสำคัญในอาชีพของแข้งรายนี้ เพราะมันทำให้เจ้าตัวได้โชว์ความสามารถในเวทีระดับฟุตบอลยุโรป

โดยในปีเดียวกัน โรนัลดินโญ่ มีส่วนสำคัญในการพาทีมชาติบราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่น การคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 2002 ถือเป็นหนึ่งในความสำเร็จสูงสุดในอาชีพของแข้งรายนี้ เพราะถือเป็นการพาทัพ เซเลเซา กลับมาสู่ความสำเร็จอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้แชมป์ฟุตบอลโลกมาช้านาน

เปแอสเช ยังเล็กเกินไป สู่สุดยอดความยิ่งใหญ่ในถิ่น คัมป์นู

image 33 - โรนัลดินโญ่ แซมบ้าผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานแห่งทีมชาติบราซิล

โรนัลดินโญ่ สร้างชื่อเสียงจากการแสดงทักษะที่ยอดเยี่ยมทั้งการเลี้ยงบอลที่ดึงดูดสายตาและการยิงประตูที่เหนือความคาดหมาย ลีลาการเล่นสวยงามตามสไตล์แซมบ้า โดยแม้ โรนัลดินโญ่ จะใช้เวลากับ เปแอสเช เพียง 2 ปี อย่างไรก็ตามผลงานของ โรนัลดินโญ่ ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เป็นที่รู้จักในวงการฟุตบอลระดับโลก จากผลงานลงสนาม 77 นัดซัดไป 25 ประตูให้กับทีมดังแดนน้ำหอม

ซึ่ง ณ เวลานั้นผลงานของ เหยินเล็ก ทำให้เจ้าตัวได้รับความสนใจจากสโมสรชั้นนำทั่วทั้งยุโรปมากมาย แต่สุดท้าย โรนัลดินโญ่ ก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ในลา ลีกา สเปน ด้วยค่าตัวราว 30 ล้านยูโร เมื่อปี 2003 และในถิ่น คัมปฺ นู นี่เองที่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่ทำให้ โรนัลดินโญ ได้เป็นซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก

image 34 - โรนัลดินโญ่ แซมบ้าผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานแห่งทีมชาติบราซิล

ในสีเสื้อของ บาร์เซโลน่า โรนัลดินโญ่ ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของ โรนัลดินโญ่หลังจากที่เขาพา เจ้าบุญทุ่ม คว้าแชมป์ลาลีกา 2 สมัย (2004–05, 2005–06) และ แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 1 สมัย (2005–06) นอกจากนี้ โรนัลดินโญ่ ยังประกาศศักดาด้วยคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ในปี 2005

ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำให้ โรนัลดินโญ่ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในตำนานนักฟุตบอลของ บาร์เซโลน่า จากสถิติการลงสนาม 207 เกมตะบันไปถึง 94 ประตูในสีเสื้อ เจ้าบุญทุ่ม

ส่งต่อแรงบันดาลใจให้ ลิโอเนล เมสซี่

image 35 - โรนัลดินโญ่ แซมบ้าผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานแห่งทีมชาติบราซิล

นอกจากฝีเท้าอันโดดเด่นที่สร้างภาพจำให้กับแฟนบอล อาซูลกราน่า แล้ว โรนัลดินโญ่ ยังทิ้งมรดกสำคัญที่สุดไว้ที่ บาร์เซโลน่า นั่นก็คือการรับบทเป็นพี่เลี้ยงให้กับ ลิโอเนล เมสซี่ แข้งอาร์เจนไตน์ของ บาร์ซ่า ณ เวลานั้นโดยในปี 2003 ถือเป็นจุดเริ่มต้นการแท็คทีมกันของ โรนัลดินโญ่ กับ เมสซี่ ที่ตอนนั้นยังเป็นนักเตะเยาวชนที่เพิ่งก้าวขึ้นมาจากทีมเยาวชนของ บาร์เซโลนา

ซึ่งการมี ดินโญ่ อยู่ในทีมช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและสร้างแรงบันดาลใจให้กับ เมสซี่ ที่ได้รับการถ่ายทอดจาก โรนัลดินโญ่ ในขณะที่ เมสซี่ ก็เริ่มโชว์ฟอร์มการเล่นที่ทำให้ทุกคนเห็นถึงศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของเขาในอนาคต โดยหลังจากที่ โรนัลดินโญ่ ย้ายไปอยู่กับ เอซื มิลาน ในปี 2008 ด้วยค่าตัวราว 18 ล้านยูโร เมสซี่ ก็กลายเป็นดาวเด่นของ บาร์เซโลน่า

และกลายเป็นผู้นำของทีมในทันที ก่อนจะคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ได้อีกหลายสมัย พร้อมกับพา บาร์เซโลน่า ไปสู่ความสำเร็จมากมายนับไม่ถ้วน

ชีวิตช่วงท้าย บั้นปลายการค้าแข้ง

image 36 - โรนัลดินโญ่ แซมบ้าผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานแห่งทีมชาติบราซิล

ขณะที่ โรนัลดินโญ่ เจ้าตัวยังคงนำความสำเร็จสู่ถิ่น ซาน ซิโร่ ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์กัลโช่ เซเรียอา ฤดูกาล 2010–11 ร่วมกับนักเตะชื่อดังหลายคน เช่น อเลสซานโดร เนสต้า ,อันเดรีย ปีร์โล ฯลฯ ก่อนที่ฟอร์มการเล่นจะเริ่มดร็อปลงไปด้วยวัยที่มากขึ้น และสภาพร่างกายที่เริ่มโรยราลงไป โดยแม้ว่าผลงานของ โรนัลดินโญ่ จะไม่ได้โดดเด่นเท่ากับที่ บาร์เซโลนา แต่ โรนัลดินโญ่ ยังคงสร้างความประทับใจให้กับแฟนบอล มิลาน

ด้วยการแสดงทักษะการเล่นที่เต็มไปด้วยความสร้างสรรค์และความบันเทิง ทั้งการจ่ายบอลที่แม่นยำ การเลี้ยงบอลที่ดึงดูด และการยิงประตูที่ยอดเยี่ยม ตลอด 2 ปีในถิ่น ซาน ซิโร่ โรนัลดินโญ่ เล่นให้กับ เอซี มิลาน 95 นัดรวมทุกรายการ ยิงไป 26 ประตูกับอีก 14 แอสซิสต์

หลังจากที่ โรนัลดินโญ่ สร้างชื่อเสียงและความสำเร็จมากมายในเส้นทางอาชีพนักฟุตบอล โรนัลดินโญ่ ตัดสินใจย้ายกลับบ้านเกิดไปอยู่กับ ฟลาเมงโก้ ในปี 2011 พร้อมช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จในระดับท้องถิ่น เหยินเล็ก ยังคงยิงประตูได้เป็นกอบเป็นกำ และสร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลในลีกบราซิล ก่อนที่ ในปี 2012 โรนัลดินโญ่ จะย้ายไปเล่นกับ แอตเลติโก มิไนโร ซึ่งเจ้าตัวก็ยังไว้ลายด้วยการพาต้นสังกัดคว้าแชมป์โคปา ลิเบอร์ตาโดเรส ในปี 2013

ปี 2014 โรนัลดินโญ่ ย้ายไปเล่นกับ ควอเตโร ในเม็กซิโก  ซึ่งเป็นอีกก้าวหนึ่งในช่วงบั้นปลายของอาชีพ และนับเป็นสโมสรสุดท้ายในชีวิตการแข้งของเจ้าตัว ก่อนจะประกาศอำลาวงการลูกหนังอย่างเป็นทางการในปี 2015

โดยหลังจากเลิกเล่นฟุตบอลอาชีพ โรนัลดินโญ่ หันไปทำกิจกรรมต่างๆ เช่น การเป็นทูตฟุตบอลและร่วมงานกับองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกีฬา เขายังได้ทำกิจกรรมต่างๆ ในวงการบันเทิงและการส่งเสริมกีฬาในประเทศบราซิล ซึ่งยังคงเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วโลก

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันจากต่างประเทศ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค

750x410 WP Cover FCB Partner 2024 - โรนัลดินโญ่ แซมบ้าผู้สร้างปรากฏการณ์ ตำนานแห่งทีมชาติบราซิล
Share: