หากจะกล่าวถึงนักฟุตบอลระดับตำนานสักคน ที่ยังคงไล่หวดลูกหนังโชว์ลวดลายอยู่ในสนามหญ้า ณ ปัจจุบัน หลายคนอาจจะนึกถึงเหล่าบรรดาแข้งจอมเก๋า
เหล่าตัวพ่อมากประสบการณ์ที่มีอายุอานามเกิน 30 ปี แต่สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึง คีเลียน เอ็มบัปเป้ กหน้าทีมชาติฝรั่งเศส ที่ตอนนี้ได้สถาปนาตัวเองกลายเป็นตำนานนักเตะของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยวัยเพียง 25 ปีเท่านั้น
เอ็มบับเป้ ยิงสั่งลา ลงสนามเกมสุดท้ายให้ ปารีส
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เอ็มบัปเป้ ลงสนามเกมสั่งลาทัพ เปแอสเช ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในเกมที่ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แพ้ ตูลูส 1-3 ซึ่ง เอ็มบัปเป้ ก็บอกลา เปแอสเช ด้วยการยิง 1 ประตูในเกมนี้ พร้อมกับฉลองแชมป์ลีก เอิง เป็นสมัยที่ 12 ของสโมสร พร้อมกับจารึกสถิติในซีซั่นไว้ที่ 44 ประตู 10 แอสซิสต์จากการลงเล่น 47 เกมรวมทุกรายการ โดยหลังจบเกมหัวหอกทีมชาติฝรั่งเศสออกมาเปิดใจถึงการอำลาถิ่น ปาร์ค เดส์ แพร็งส์ว่า
“สวัสดีทุกคน ผมคิเลียน เอ็มบัปเป้ ผมอยากจะพูดกับคุณ ผมบอกเสมอว่าผมจะพูดกับคุณเมื่อถึงเวลา ดังนั้นผมจึงอยากประกาศให้คุณทราบว่านี่เป็นปีสุดท้ายของผมที่ ปารีส แซงต์ แชร์กแมงผมจะไม่ต่อสัญญา และการผจญภัยจะสิ้นสุดในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ผมจะเล่นเกมสุดท้ายที่ปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ ในวันอาทิตย์ มันคงเต็มไปด้วยอารมณ์ และความรู้สึก หลายปีกับโอกาสและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นสมาชิกของสโมสรที่ใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส หนึ่งในทีมที่ดีที่สุดในโลก”
“ซึ่งทำให้ผมมาถึงที่นี่ ผมได้มีประสบการณ์ครั้งแรกกับสโมสรที่มีความกดดันอย่างมากมาย แน่นอนว่าได้เติบโตในฐานะนักเตะ ได้พบปะผู้คนมากมาย ได้คว้าชัยชนะ ได้เรียนรู้ถึงความผิดพลาด เพื่อที่จะเติบโตในฐานะผู้ชายกับความสำเร็จทั้งหมดและความผิดพลาดที่ผมทำลงไป” ได้อยู่เคียงข้างกับเหล่าแชมเปี้ยนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์”
“ผมอยากขอบคุณเพื่อนร่วมทีมทุกคน ขอบคุณโค้ชที่ผมได้ร่วมงานทุกคน อูไน เอเมอรี่, โธมัส ทูเคิล, เมาริซิโอ โปเชตติโน่, คริสตอฟ กัลติเยร์ และ หลุยส์ เอ็นริเก้ มันยาก มันยากทีเดียว ผมไม่เคยคิดว่ามันจะยากขนาดนี้สำหรับการประกาศสิ่งนั้น การอำลาประเทศของผม, ฝรั่งเศส, ลีก เอิง, แชมป์เปี้ยนที่ผมรู้จักมาตลอด แต่ผมคิดว่าผมต้องการสิ่งนี้ กับความท้าทายใหม่หลังจาก 7 ปี”
สำหรับ คิเลียน เอ็มบัปเป้ เคยถูกวาดิม วาซิลเยฟ รองประธานสโมสร โมนาโก ณ เวลานั้นได้ทำนายทายทักกองหน้าดาวจรัสแสงรายนี้ว่าเป็น ปรากฏการณ์ของวงการลูกหนังแดนน้ำหอมเลยทีเดียว หลังจากที่หัวหอกนินจาเก่า อยู่ในทีมชุดแชมป์ลีก เอิง มาแล้วในฤดูกาล 2016-17 ก่อนจะย้ายจากโมนาโก มาอยู่กับ เปแอสเช เมื่อปี 2017 ด้วยรูปแบบยืมตัวและเซ็นสัญญาถาวรในฤดูกาลต่อมา
ไทม์ไลน์ตำนาน นินจาเต่า คีเลียน เอ็มบัปเป้
หากย้อนกลับไปเกมแรกที่ เอ็มบัปเป้ ในวัย 19 ปี ลงสนามให้ เปแอสเช เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2017 เป็นเกมที่บุกไปเยือน เม็ตซ์ ซึ่ง 11 ตัวจริงในวันนั้นเหลือเพียง มาร์ควินญอส กับ เพรสแนล คิมเพมเบ้ ที่ยังคงอยู่กับสโมสรจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งเกมดังกล่าว เอ็มบัปเป้ สามารถประเดิมประตูแรกกับทีมได้ในทันที พร้อมชัยชนะเหนือ เม็ตช์ 5-1 และเพียงซีซั่นแรกกับ ปารีสฯ เอ็มบัปเป้ กระหน่ำไปถึง 21 ประตูจากการลงสนาม 44 เกมรวมทุกรายการ พร้อมกับคว้าแชมป์ลีก เอิง ครั้งแรกกับ เปแอสเช และเป็นครั้งที่ 2 สำหรับตัวเองด้วยวัยเพียง 20 ต้นๆ
หลังจากนั้น เอ็บบัปเป้ ก็ยิงประตูถล่มทลายกลายเป็นเครื่องจักรผลิตสกอร์ผู้นำความความสำเร็จมาสู่ถิ่น ปาร์ค เดส์ แพร็งส์ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลีกเอิง 6 สมัย ในฤดูกาล 2017–18 ,2018–19 ,2019–20 ,2021–22 2022–23 ,2023–24 รวมไปถึงรายการฟุตบอลถ้วยในประเทศอีก 8 รายการ และรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2020
โดยตลอด 7 ปีในถิ่น พาร์ค เดส์ แพรงซ์ กองหน้าวัย 25 ปี สร้างสถิติเป็นดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรที่จำนวน 255 ประตู จากการลงสนาม 306 นัด 96 แอสซิสต์ กวาดแชมป์ไปทั้งหมด 14 แชมป์ ในขณะที่ในนาม ทีมชาติฝรั่งเศส ก็เคยผ่านประสบการณ์ทั้งเป็นแชมป์โลกในปี 2018 และ รองแชมป์โลกในศึก เวิลด์คัพ 2022 ที่ผ่านมา
บิ๊กเอียร์ โทรฟี่เดียวที่ผมต้องการ
ดังนั้นว่ากันโทรฟี่เดียวที่ เอ็มบัปเป้ กำลังตามไล่มาประดับตู้โชว์ ก็เห็นจะเป็นโทรฟี่ บิ๊กเอียร์ ของรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่หัวหอกนินจาเต่ารายนี้ทำได้ดีที่สุดเพียงแค่รองแชมป์ในฤดูกาล หลังจากที่แพ้ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ในนัดชิงชนะเลิศ 0-1 ในฤดูกาล 2019-20 ที่ผ่านมา
ซึ่งก่อนหน้านี้ เอ็มบัปเป้ ยืนยันมาตลอดว่าจะไม่ใช้ออปชั่นการต่อสัญญากับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ออกไปอย่างแน่นอน นั่นก็หมายความว่า เอ็มบัปเป้ สามารถย้ายทีมได้แบบอิสระทันที หลังจบฤดูกาลนี้
ซึ่งกระแสข่าวของ เอ็มบัปเป้ ก็มีหลุดออกมาสักพักใหญ่แล้วว่าเจ้าตัวได้เลือก ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ของ เรอัล มาดริด เป็นสถานีต่อไปในการค้าแข้ง โดยจากรายงานระบุว่า เอ็มบับเป้ จะเซ็นสัญญา 5 ปี และมีรับรายได้ 15 ล้านยูโรต่อฤดูกาล บวกกับโบนัสการเซ็นสัญญา 150 ล้านยูโร
และหาก ลูกา โมดริช กองกลางทีมชาติโครเอเชีย ออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ เอ็มบัปเป ก็จะได้รับเสื้อหมายเลข 10 ต่อจากจอมทัพทีมชาติโครเอเชียทันที และยังถือเป็นเบอร์โปรดของหัวหอกเฟร้นช์แมนที่สวมลงเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศสด้วย
สำหรับสถิติของ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ กับ เปแอสเช ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ถือว่าไม่ธรรมดา ด้วยการลงสนามไป 73 นัด หวดไป 48 ประตู และอีก 3 แอสซิสต์ ดังนั้นหากทัพ ราชันชุดขาว ได้ตัว เอ็มบัปเป้ ไปร่วมทีมในฤดูกาลหน้าจริง ก็จะถือเป็นยุค กาลาติกอส เวอร์ชั่น 3 เลยก็ว่าได้ เพราะลำพังแค่ตอนนี้ มาดริด ภายใต้การคุมทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ก็ไร้เทียมทานเหลือเกิน ผ่านเข้าไปลุ้นแชมป์ UCL สมัยที่ 15 กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปแล้วในซีซั่นนี้
เอ็มบัปเป้ – วินิซิอุส ว่าที่คู่หูนรกแรกแห่ง กาลาคติกอส ภาค 3
นอกจากนี้หากไม่มีอะไรพลิกล็อค เอ็มบัปเป้ ก็จะได้เปิดตัวกับทัพ ราชันชุดขาว เสียที ซึ่งมีแฟนบอลจำนวนไม่น้อย เริ่มจินตนาการถึงอนาคตแนวรุกของ มาดริด ในฤดูกาลหน้าไว้บ้างแล้ว โดยการได้ เอ็มบัปเป้ เข้ามาเป็นอีกหนึ่งอาวุธหลักในมือของ คาร์โล อันเชล็อตติ จะทำให้ มาดริด มีสปีดในแนวรุก ที่เร็วกว่านรกก็เป็นได้
แผงแนวรุกที่จะเป็นการขับเคลื่อนโดย เจ้าแห่งลมกรด บนสนามหญ้าอย่าง วินิซิอุส จูเนียร์ เจ้าของสถิติความเร็วสูงสุด 34.71 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขณะที่ เอ็มบัปเป เจ้าของความเร็วสูงสุด 36.1 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ดังนั้นหากทั้งคู่มาแท็คทีมร่วมงานกัน เชื่อว่าคงไม่มีกองหลังทีมไหนอยากดวลกับแนวรุกของทัพ ราชันชุดขาว เวอร์ชั่นใหม่ ที่กำลังจะกลายเป็น กาลาคติกอสภาค 3 ในฤดูกาลใหม่ที่กำลังมาถึงนี้
สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ
เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค
