สำหรับคอกีฬาอย่างเรา ๆ คงคุ้นเคยกับคำว่า “การเป็นแชมป์เฉย ๆ ก็ว่ายากแล้ว แต่การรักษาแชมป์นั้นยากลำบากมากกว่า” และมันก็เป็นเรื่องจริงเสมอมา เพราะผู้ท้าชิงทุกหมู่เหล่าจ้องจะล้มคุณอยู่ตลอดเวลา แถมผู้ชมเองก็อยากเห็นคนเป็นแชมป์พ่ายแพ้กันเป็นธรรมชาติอยู่แล้วด้วย
แต่รู้ไหม ว่าอะไรที่ “ยาก” กว่าการรักษาแชมป์ในวงการลูกหนัง ?
คำตอบก็คือ การเป็นแชมป์ติดต่อกันสองสมัย แต่ไม่ใช่ในสโมสรเดิมยังไงล่ะ !
เพราะทันทีที่คุณย้ายออกจากทีมแชมป์ไปเล่นให้กับสโมสรอื่นแล้ว มันแทบไม่มีอะไรมาการันตีเลยว่าจะคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ติดต่อกัน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนที่ทำสำเร็จอยู่จำนวนหนึ่ง มาดูกันว่ามีใครบ้าง !
1. มาร์ค ชวาร์เซอร์
เป็นแชมป์ติดกันกับทีม : เชลซี ต่อด้วย เลสเตอร์
มือกาวชาวออสเตรเลียคนนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งตำนานของวงการลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพราะเขาค้าแข้งอยู่กับทีมมีชื่อเสียงที่นี่มาแล้วมากมาย แถมยาวนานร่วม 20 ปี
แต่หลังจากที่สภาพร่างกายเริ่มโรยรา ชวาเซอร์ ยอมลดบทบาทตัวเองเป็นแค่นายทวารสำรองไปจนถึงมือวางลำดับที่สามให้กับ เชลซี แต่ถึงกระนั้นก็ยังได้แชมป์ลีกร่วมกันเมื่อฤดูกาล 2014-15 ก่อนจะไปรับบทเป็นพระรองให้ แคสเปอร์ ชไมเคิล ที่ เลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมขึ้นเถลิงบัลลังก์ พรีเมียร์ลีกแบบสุดเซอร์ไพร์สร่วมกันในซีซั่นถัดมา
2. เอริค คันโตนา
เป็นแชมป์ติดกันกับทีม : ลีดส์ ต่อด้วย แมนฯ ยูไนเต็ด
ในช่วงวันสงกรานต์ที่ผ่านมา แฟนบอลชาวไทยน่าจะได้เฮฮากับการมาเยือนบ้านเราแบบสุดเซอร์ไพร์สของ เอริค “เดอะคิง” คันโตนา กันไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ต้องบอกว่าใครได้เจอตัวจริงนั้นถือว่าโชคดีสุด ๆ เพราะชายคนนี้คือผู้เปิดประตูสู่ความยิ่งใหญ่ให้กับทัพปีศาจแดงในฤดูกาล 1992-93 นั่นเอง
แต่อีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนแทบไม่รู้มาก่อนก็คือ ซีซั่นก่อนหน้า (1991-92) เจ้าก็องโต นี่แหละที่เป็นแม่ทัพคนสำคัญในการพา ลีดส์ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ลีกสูงสุดมาครองได้แบบเซอร์ไพร์ส จนกลายเป็นแชมป์ดิวิชั่น 1 สโมสรสุดท้ายก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น “พรีเมียร์ลีก”
3. อันเดรีย ปิร์โล
เป็นแชมป์ติดกันกับทีม : เอซี มิลาน ต่อด้วย ยูเวนตุส
มิดฟิลด์จอมวางบอลยาวชาวอิตาลีอย่าง ปิร์โล นั้น ถึงแม้จะถูกยอมรับในเรื่องของฝีเท้ามาตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม ๆ แล้ว แต่หากนับช่วงพีคที่เจ้าประสบความสำเร็จพร้อมมีชื่อเสียงโด่งดังสุด ๆ นั้นก็คือช่วงบั้นปลายเส้นทางอาชีพกับ ยูเวนตุส เมื่อไม่กี่ปีก่อนนั่นเอง
อย่างไรก็ตามในฤดูกาล 2010-11 ที่ เอซี มิลาน เป็นแชมป์ลีกนั้น ผลงานของ ปิร์โล ไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่นัก แถมยังได้ลงเล่นเพียงแค่ 17 เกมลีกเท่านั้น จึงทำให้เขาไม่ตัดสินใจต่อสัญญาแล้วย้ายไปเล่นให้ ยูเวนตุส ซึ่งเหมือนกับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะกราฟชีวิตทะยานขึ้นพรวด ๆ แบบไม่มีใครมาหยุดอยู่ ขณะที่ ปีศาจแดงดำ ถอยหลังลงคลองจนกลายเป็นยักษ์หลับแบบไม่ฟื้นถึงทุกวันนี้
4. คีเลียน เอ็มบัปเป
เป็นแชมป์ติดกันกับทีม : โมนาโก ต่อด้วย เปแอสเช
ในฤดูกาลที่แล้ว แข้งดาวรุ่งอายุแค่ 18 อย่าง เอ็มบัปเป แจ้งเกิดขึ้นมาในวงการลูกหนังแบบสุดเซอร์ไพร์ส เพราะเขายกระดับตัวเองขึ้นจากเด็กน้อยที่ไม่มีใครรู้จักมาเป็นกองหน้าค่าตัว 100 ล้านปอนด์ได้ในระยะเวลาไม่กี่เดือน
และหลังจากที่พา โมนาโก คว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ เอ็มบัปเป ก็ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซึ่งเขาประสานงานกันกับ เนย์มาร์ และ เอดินสัน คาวานี จนเป็นแชมป์ลีกเอิงฝรั่งเศสติดต่อกันสองปีกับสองสโมสรตั้งแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะเลยทีเดียว
5. แบร์นาโด ซิลวา
เป็นแชมป์ติดกันกับทีม : โมนาโก ต่อด้วย แมนฯ ซิตี้
เช่นเดียวกันกับ เอ็มบัปเป ที่กล่าวถึงในข้อก่อนหน้า แบร์นาโด ซิลวา นั้นคืออีกหนึ่งคีย์แมนที่พา โมนาโก คว้าถ้วยแชมป์ลีกเอิง ฝรั่งเศส มาครองได้ในซีซั่นก่อน จากนั้นจึงย้ายมาทำงานร่วมกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่อังกฤษ
และถึงแม้หลายคนจะบอกว่า แบร์นาโด ซิลวา เป็นนักเตะที่โชคดีมาก เพราะซีซั่นนี้เขาได้รับโอกาสลงสนามค่อนข้างน้อย แถมฟอร์มไม่แจ่ม แต่ยังได้แชมป์ร่วมกันกับทัพเรือใบสีฟ้า แต่ข้อเท็จจริงที่สุดก็คือเขาเป็นหนึ่งองค์ประกอบของทีมชุดนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้
6. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
เป็นแชมป์ติดกันกับทีม : บาร์เซโลนา ต่อด้วย เอซี มิลาน
สุดยอดสไตรเกอร์ชาวสวีเดนคนนี้ ถูกมองว่าล้มเหลวกับทีมระดับมหาอำนาจอย่าง บาร์เซโลนา หลังย้ายไปในฤดูกาล 2009-10 ด้วยค่าตัวแพงหูฉี่ แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังยิงได้ 16 ประตูในลีก พร้อมคว้าแชมป์ลาลีกา มาครองสมความตั้งใจ
อย่างไรก็ตาม ซีซั่นถัดมา ซลาตัน ยอมย้ายไปเล่นให้กับ เอซี มิลาน ด้วยการยืมตัว ซึ่งก็โชว์ฟอร์มเทพจนคว้าสคูเด็ตโต มาประดับโปรไฟล์เพิ่มได้อีก ซึ่งสุดท้ายได้เป็นแข้งปีศาจแดงดำแบบถาวรสมใจ
7. เอ็นโกโล ก็องเต
เป็นแชมป์ติดกันกับทีม : เลสเตอร์ ต่อด้วย เชลซี
ย้อนกลับไปมอง มาร์ค ชวาร์เซอร์ ที่เราพูดถึงไปคนแรกแล้ว เขาได้แชมป์ลีกติดกันกับ เชลซี ต่อด้วย เลสเตอร์ แต่สำหรับ ก็องเต้ ของเรานั้นกลับกัน เพราะได้กับ เลสเตอร์ ก่อนไปสอยต่อที่ เชลซี
และไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าเพียงแค่ปีแรกที่ ก็องเต้ ถูกซื้อมาอยู่ในถิ่น คิง พาวเวอร์ สเตเดียม แบบโนเนม เขาก็ระเบิดฟอร์มเทพจนพาทีมคว้าแชมป์มาได้แบบสุดเซอร์ไพร์ส ซึ่งนั่นก็มากพอที่จะทำให้บรรดาทีมใหญ่ ๆ พยายามดูดไปอยู่ด้วย และเป็น เชลซี ที่ทำสำเร็จ
จากนั้นจึงระเบิดความร้อนแรงต่อเนื่องจนพา ทัพสิงโตน้ำเงินคราม ที่เพิ่งได้ อันโตนิโอ คอนเต้ มาคุมทีมหมาด ๆ ครองแชมป์ลีกได้อีก ซึ่งผลงานแจ่ม ๆ แบบนี้แหละคือตัวการันตีว่าเขาคือ “แข้งระดับโลก” อย่างแท้จริง
แถม
คิงสลีย์ โกมอง
“ทำไมต้องแถม ?” หลายคนอาจสงสัย แต่นั่นเป็นเพราะว่าหัวข้อบทความของเราคือพูดถึงคนที่ได้แชมป์ลีกติดต่อกัน 2 สมัยกับ 2 สโมสร แต่เจ้าปีกตัวจี๊ดมาดกวนคนนี้มีดีกว่านั้นคือ คว้าแชมป์ลีก 3 สมัยซ้อนกับ 3 สโมสร ! เรียกว่าเหนือไปอีกขั้นแล้ว
และทีมที่ โกมอง เป็นแชมป์ด้วยติดต่อกันสามปีคือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (2013-14) ต่อด้วย ยูเวนตุส (2014-15) และ บาเยิร์น มิวนิค (2015-16) แถมถ้าเรานับแชมป์ที่เจ้าหนุ่มคนนี้คว้ามากับทัพเสือใต้ด้วยแล้ว จะมีแชมป์ลีกรวมถึง 5 สมัยติดต่อกันเลยทีเดียว เอ้า ! ธรรมดาซะที่ไหนละเนี่ย !!