มหกรรมการฟาดแข้งในศึกฟุตบอลลีก โดยเฉพาะลีกชั้นนำของยุโรป ที่หลายๆชาติได้บทสรุปทีมที่คว้าแชมป์ไปแล้ว ไม่ว่าเป็นศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ที่ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน คว้าแชมป์ไปแล้วแถมยังครองสถิติไร้พ่ายอยู่ในตอนนี้ ขณะที่ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ก็เป็น อินเตอร์ มิลาน ที่ซิว สคูเด็ตโต ได้สำเร็จ ข้ามมาทางฝั่งของ ลา ลีกา สเปน ก็เป็นพลพรรค ราชันชุดขาว เรอัล มาดริด ที่คว้าแชมป์ลีกเป็นสมัยที่ 36 ส่วน ลีก เอิง ฝรั่งเศส ก็เป็น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่คว้าแชมป์ไปครองตามคาด
ลีกสุดท้ายจาก 5 ลีกยักษ์ใหญ่ที่ยังไม่ได้คำตอบ
จะเหลือก็แค่ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ ณ เวลานี้ก็ยังดูไม่ออกว่าทีมใด จะเป็นฝ่ายเข้าป้ายคว้าแชมป์ในซีซั่นนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้มี 3 ทีมที่ได้ลุ้นแชมป์ประกอบไปด้วย อาร์เซนอล ,แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล แต่จากผลงานอันน่าผิดหวังในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของพลพรรค หงส์แดง ทำให้ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ หลุดโค้ง หมดลุ้นแชมป์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กับฤดูกาลสุดท้ายในถิ่น แอนฟิลด์ ของกุนซือชาวเยอรมัน
สถานการณ์ ณ เวลานี้ แม้ว่า แมนฯ ซิตี้ (82 แต้ม) จะมีสถานะเป็นรองจ่าฝูงด้วยการมีแต้มหลัง อาร์เซนอล 1 แต้ม (83 แต้ม) แต่หากมองไปที่ภาพรวม ดูเหมือนว่าพลพรรค เรือใบสีฟ้า จะได้เปรียบจ่าฝูงอยู่เล็กน้อย จากโปรแกรมที่ลงเตะน้อยกว่า ปืนใหญ่ 1 เกม ซึ่งหากมองไปที่โปรแกรม 2 เกมที่เหลืออยู่ของ ปืนใหญ่ พวกเขาจะต้องเจอศึกหนักด้วยการบุกไปเยือนถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และนัดส่งท้ายฤดูกาลจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน
ในขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือโปรแกรมอีก 3 เกมในลีก โดยเป็นการบุกไปเยือน ฟูแล่ม และ สเปอร์ส ก่อนจะกลับมาเปิด เอติฮัต สเตเดี้ยม พบกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล นอกจากนี้ เรือใบสีฟ้า ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังเหลือนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อีกหนึ่งเกมด้วย
เทียบไทม์ไลน์ อาร์เซน่อล VS ซิตี้ กับซีซั่นที่บี้กันมันส์หยด
ย้อนกลับไปในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล อาร์เซน่อล ออกตัวได้อย่างยอดเยี่ยม เกาะกลุ่มบนของตารางจากการไร้พ่าย 10 ติดต่อกัน ก่อนจะมาสะดุดแพ้ นิวคาสเซิ่ล แต่หลังจากนั้น ปืนใหญ่ ก็กลับมาชนะ 4 เกมติดต่อกัน พร้อมยึดตำแหน่งจ่าฝูงของตารางมาครองได้เป็นครั้งแรก ในช่วงเดือนธันวาคม
แต่ด้วยโปรแกรมลงสนามที่เตะกันสัปดาห์ละ 3 นัดในช่วงปีใหม่ ส่งผลให้ อาร์เซน่อล ฟอร์มสะดุด แพ้ไป 3 เกม เสมออีก 1 เกม จากการลงสนาม 7 เกมในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่ง ณ เวลานั้นพวกเขาตกลงมารั้งอันดับที่ 3 ของตาราง ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล
อย่างไรก็ตามหลังจากเปิดศักราชใหม่ปี 2024 มิเกล อาร์เตตา ก็พา อาร์เซน่อล ติดเครื่องเก็บแต้ม ชนะ 14 เกมจาก 16 หลังสุด โดยมีเกมที่พลาดท่า ก็คือการบุกไปแบ่งแต้ม ซิตี้ 1-1 และแพ้ให้ แอสตัน วิลล่า 0-2 เท่านั้น
กระสุนของทัพ ปืนใหญ่ ในฤดูกาลนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ บูกาโย่ ซาก้า ที่ซัดไปแล้ว 16 ประตู นำเป็นดาวซัลโวประจำทีม แถมยังนำเป็นดาวแอสซิสต์จากการถวายพานให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตูอีก 9 ครั้ง ขณะที่รายอื่นๆก็ถือว่าทำผลงานได้ดีไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ไค ฮาร์แวร์ตซ ที่ยิงไป 12 ประตู 9 แอสซิสต์ รวมไปถึง มาร์ติน โอเดการ์ด จอมทัพคนสำคัญที่ตะบันไป 8 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์
แดนกลางของ อาร์เซน่อล การได้ ดีแคลน ไรซ์ เข้ามา ถือเป็นการเติมผู้เล่นที่ตอบโจทย์ ซึ่ง ณ ตอนนี้ ไรซ์ กลายเป็นตัวคุมจังหวะชั้นดีของ ปืนใหญ่ ไปแล้ว นอกจากนี้จากสถิติยิง 7 ประตู 9 แอสซิสต์บ่งชี้ว่าเจ้าตัวมีทีเด็ดในการเติมเกมรุกขึ้นไปสร้างสรรค์โอกาสด้วย ขณะที่แนวรับของทัพ เดอะ กันเนอร์ส พวกเขาคือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล โดยเสียไปเพียง 28 ประตูในขณะที่เหลือโปรแกรมลงสนาม 2 เกมสุดท้ายของฤดูกาล
สลับฝั่งมากันที่การออกสตาร์ทของ เรือใบสีฟ้า ในซีซั่นนี้ พวกเขา ทำผลงานได้อย่างร้อนแรงชนะ 6 นัดติดต่อกัน และขึ้นจ่าฝูงเป็นครั้งแรกตั้งแต่สัปดาห์ที่ 3 ของฤดูกาล อย่างไรก็ตามช่วงเดือนพฤศจิกายนต่อเนื่องธันวาคม ซิตี้ ฟอร์มหลุดเสมอ 4 แพ้ 1 และชนะเกมเดียวจาก 6 เกมทำให้พวกเขาหลุดวงโคจรไปในเวลานั้น อย่างไรก็ตามหลังจากนั้ ซิตี้ ก็แพ้ใครอีกเลยจนถึงปัจจุบัน แถมยังชนะรัวๆมาแล้ว 6 เกมติดต่อกันในช่วงท้ายซีซั่น และมีถึง 5 เกมที่ยิงประตูใส่คู่แข่งได้มากกว่า 2 ประตู
สำหรับคีย์แมนคนสำคัญในแนวรุกของ ซิตี้ ในซีซั่นนี้คงหนีไม่พ้น เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ ผู้นำดาวซัลโวของศึกพรีเมียร์ลีกที่ตะบันไปแล้ว 25 ประตู รวมไปถึง เควิน เดอ บรอยน์ ลมหายใจของ เรือใบสีฟ้า ที่ผลงานยังคงยอดเยี่ยมทำไปแล้ว 8 แอสซิสต์ ไหนจะมี ฮูเลียน อัลวาเรซ กองหน้าอาร์เจนไตน์ที่ยิงไป 10 ประตู 9 แอสซิสต์
ขณะที่ผู้เล่นอีกหนึ่งรายที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้นั่นก็คือ ฟิล โฟเด้น แนวรุกคนสำคัญที่ทำผลงานเฉิดฉายร้อนแรงเกินห้ามใจด้วยการยิงไป 16 ประตูกับอีก 8 แอสซิสต์ ส่วนแดนกลางนอกจาก เควิน เดอ บรอยน์ แล้วก็ยังมี โรดรี้ ที่เป็นมิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะที่อีกหนึ่งรายที่ยังรักษามาตรฐานได้อย่างต่อเนื่อง โดยมิดฟิลด์ชาวสเปนเป็นเจ้าของสถิติผ่านบอลมากที่สุดในลีกฤดูกาลนี้ด้วยจำนวน 3,306 พาสด้วยกัน
เปิดตัวเลขการเข้าทำ ปืนใหญ่ เรือใบ ใครคมกว่า
สิ่งที่หนึ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนสำหรับสองทีมลุ้นแชมป์นั่นก็คือการสร้างสรรค์โอกาสการเข้าทำของทั้ง อาร์เซน่อล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เกมเกมหนึ่งพวกเขาสร้างโอกาสได้มากมาย โดยทีมที่สร้างโอกาสเข้าทำมากที่สุดในซีซั่นนี้คือ ลิเวอร์พูล ด้วยจำนวน 715 ครั้ง (ยิงได้ 81 ประตู) รองลงมาคือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่สร้างโอกาส 641 ครั้ง (ยิงได้ 87 ประตู) ขณะที่ อาร์เซน่อล สร้างโอกาสเข้าทำมาเป็นอันดับ 3 ด้วยจำนวน 620 ครั้ง
แต่เปลี่ยนเป็นประตูได้ถึง 88 ประตู ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่ยิงประตูมากที่สุดในลีก ณ เวลานี้ เรื่องที่น่าสนใจไปกว่านั้นก็คือปรัชญาลูกหนังจากสเปน ที่เข้ามามีอิทธิพลกับศึกลูกหนังแดนผู้ดี โดยมีเหล่ากุนซือเลือดกระทิงดุมากมายที่มาสร้างชื่อในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งหากนับตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา
มีกุนซือชาวสเปนที่คว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนของศึกพรีเมียร์ลีก ได้ถึง 7 ครั้งจาก 13 ครั้งที่มีการประกาศผล โดยนอกจาก เป๊ป และ อาร์เตตา แล้วยังมี อูโน อเมรี กุนซือของ แอสตัน วิลล่า รวมไปถึง อันโดนี อิราโอล่า ของ บอร์นมัธ เป็นกุนซือจากสเปนรายล่าสุดที่คว้ารางวัลดังกล่าวมาครองได้สำเร็จ
เหลือเชื่อ เป๊ป ไม่เคยสัมผัสรางวัลกุนยอดเยี่ยมในซีซั่นนี้
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อในฤดูกาลนี้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็คือ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไม่เคยคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนเลยแม้แต่หนเดียวในซีซั่นนี้ ขณะที่ มิเกล อาร์เตตา กุนซือเพื่อนร่วมชาติของ อาร์เซน่อล คว้ารางวัลดังกล่าวมาครองได้ 1 ครั้งเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จากการผลงานชนะ 4 เกมรวดในลีก แถมตะบันไปถึง 24 ปะตูในช่วงปีใหม่
และจนถึงตอนนี้ 2 กุนซือชาวสเปน ติดอยู่ในลิสต์ TOP10 สำหรับกุนซือที่คว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนของศึกพรีเมียร์ลีกมากที่สุด โดยอันดับที่ 1 ยังคงเป็นของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน อดีตบรมกุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่คว้ารางวัลดังกล่าวไปนอนกอดถึง 27 ครั้ง อันดับ 2 รองลงมาคือ อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตกุนซือผู้ยิ่งใหญ่ของ อาร์เซน่อล ที่กวาดรางวัลไป 15 ครั้ง
ขณะที่อันดับ 3 คือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือคนปัจจุบันของ เรือใบสีฟ้า ที่มีโอกาสทำสถิติแซงหน้า เวนเกอร์ จากการคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนไปแล้ว 11 ครั้ง ขณะที่ มิเกล อาร์เตตา การคว้ารางวัลเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งที่ 7 ครั้งเข้าไปแล้ว นับตั้งแต่เข้ามาคุมทัพ ปืนใหญ่
ดังนั้นสุดท้ายเชื่อว่าเกมชี้ชะตาแชมป์พรีเมียร์ลีก น่าจะอยู่โปรแกรมการแข่งขันสัปดาห์หน้าที่ อาร์เซน่อล ของ มิเกล อาร์เตตา จะต้องบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เอริค เทน ฮาก ในวันที่ 12 พฤษภาคมนี้ เพราะหากทัพ ปืนใหญ่ พลาดท่าทำแต้มหลุดมือเมื่อไหร่ ก็น่าจะเป็นการยกแชมป์ให้กับทัพ เรือใบสีฟ้า ทันที
สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ
เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค