กีฬาฟุตบอล

ชาบี เอร์นานเดซ : โคตรบอลแดนกลาง วาทยากรบาสนามหญ้า

%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B9%89 - ชาบี เอร์นานเดซ : โคตรบอลแดนกลาง วาทยากรบาสนามหญ้า

ปฐมบทแห่งยอดกองกลาง

“ครอบครัวของเราคลั่งไคล้ฟุตบอลกันสุด ๆ” ชาบี เอร์นานเดซ เอ่ยย้อนความทรงจำในวัยเด็ก

สมัยนั้น เขาและพี่ชายเคยช่วยกันสะสมสติ๊กเกอร์รูปนักฟุตบอลในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก และเป็นประจำทุกเย็น ทั้งคู่มักจะออกไปวิ่งเล่นเตะฟุตบอลกันจนค่ำมืด

อีกทั้งการมีพ่อเป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพที่ผันตัวมาเป็นโค้ช นั่นคือสิ่งที่ช่วยเกื้อหนุนให้เด็กชายชาบีสนใจในกีฬาฟุตบอลรวมทั้งแท็คติกการเล่นต่างๆ ก่อนวัยเรียน

เย็นวันหนึ่ง ขณะที่คุณพ่อฆัวกิม นั่งมองลูกชายวัย 5 ขวบ เล่นฟุตบอลกับเพื่อน  เขาเรียกลูกชายให้เดินมาหาพร้อมกับแนะนำว่าให้ลูกวิ่งขึ้นไปเติมเกมรุก เพราะมั่นใจว่าจะได้เห็นลูกชายยิงประตูได้สำเร็จ แต่สิ่งที่พ่อได้รับกลับมาคือรอยยิ้มจากลูกชาย พร้อมคำพูดว่า “ถ้าผมวิ่งเติมขึ้นไป แล้วใครจะทำหน้าที่ป้องกันก่อนถึงผู้รักษาประตูล่ะครับพ่อ”

มันเป็นคืนวันแรก ๆ กับความพยายามค้นหาความหมายของการเล่นฟุตบอลจากมันสมองของชาบี เอร์นานเดซ ก่อนที่ในเวลาต่อมา เขาสามารถถ่ายทอดความคิดที่ตกผลึกออกมาจากปลายเท้าตลอดชีวิตของการเป็นนักฟุตบอล…

บ้านของ ชาบี อยู่ห่างจากใจกลางเมืองบาร์เซโลน่าไปทางเหนือ โดยใช้เวลาเดินทางราว 45 นาที ความทรงจำครั้งแรกที่ได้เข้าไปชมเกมที่ คัมป์ นู ในวัยเพียง 5 ขวบ ความสมบูรณ์แบบทั้งบรรยากาศและรูปแบบฟุตบอลของบาร์เซโลน่า ช่วยหล่อหลอมหัวใจที่หลงรักลูกหนังของเด็กคนนี้จนกลายเป็นความฝันที่เขามุ่งมั่นไขว่คว้า

image - ชาบี เอร์นานเดซ : โคตรบอลแดนกลาง วาทยากรบาสนามหญ้า

นอกจากไปที่สนามแล้ว เขายังเฝ้าชมเกมถ่ายทอดสดฟุตบอลทางจอโทรทัศน์ รวมถึงรายการไฮไลต์ฟุตบอลประจำสัปดาห์จากอังกฤษ นักเตะในดวงใจของเขาคือ แม็ทธิว เลอ ทิสซิเอร์ ผู้เล่นระดับตำนานแห่ง ‘นักบุญ’ เซาท์แธมป์ตัน

“ทุก ๆ สัปดาห์ เลอ ทิสซิเอร์ จะมีผลงานยอดเยี่ยมมาฝากเสมอ แต่ละประตูที่เขาทำได้ล้วนเต็มไปด้วยทักษะ และความครบเครื่อง สำหรับผม นักเตะ ‘พ่อมด’ คนนี้เจ๋งมาก ๆ และไม่เคยคิดอยากย้ายไปสโมสรใหญ่ ๆ เขาอยู่กับเซาท์แธมป์ตัน จนเลิกเล่น นั่นเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริง ๆ”

อุปสรรคในเรื่องสรีระร่างกายที่เป็นคนรูปร่างเล็ก ทำให้พ่อและแม่ของเขาค่อนข้างกังวลกับเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของลูกชาย

จนเมื่อ ชาบี อายุได้ 11 ปี พ่อจึงตัดสินใจให้ลูกชายได้ไปทดสอบฝีเท้ากับ บาร์เซโลน่า ในเดือนกรกฎาคม ปี 1991

ระหว่างทางขณะขับรถไปส่งลูกชายทดสอบฝีเท้า พ่อของเขาบอกว่า “โอกาสแบนี้มีไม่กี่คนหรอกที่จะได้รับ ดังนั้นลูกจงทำมันให้เต็มที่นะ หากทำได้ดี บางทีพวกเขาอาจจะเซ็นสัญญากับลูก”

คำพูดของพ่อทำให้ลูกชายรู้สึกประหม่าไม่น้อย แต่ก็ไม่มีสิ่งใดอีกแล้วที่เขาต้องกังวลกับโอกาสที่รออยู่ตรงหน้า

“ผมเคยเล่นเป็นศูนย์หน้าอยู่บ่อย ๆ และพวกเขาก็ให้ผมสวมบทหมายเลข 9 เต็มตัว ซึ่งในจังหวะที่ทีมได้ลูกจุดโทษ ไม่มีเด็กคนไหนกล้าที่จะรับหน้าที่สังหาร ดังนั้นผมจึงคิดว่าน่าจะจัดการให้จบสิ้นได้ด้วยตนเอง สุดท้ายผมยิงแฮตทริกได้ในเกมนั้น และผมมีความสุขมาก”

ระหว่างทางกลับบ้านวันนั้น ชาบี ได้รู้ความจริงจากพ่อว่า บาร์เซโลน่า ได้คุยตกลงเรื่องสัญญาของชาบี เรียบร้อยแล้วก่อนหน้านี้ เพียงแต่พ่ออยากให้เขาลงไปเล่นฟุตบอลอย่างเต็มที่ก็เท่านั้น

ความจริงอีกอย่างในเกมวันนั้น ชาบีได้เจอเด็กชายที่มีรูปร่างสูงใหญ่อีกคน แต่สามารถจ่ายบอลทะลุช่องได้ตลอด แถมยังไม่มีใครสามารถแย่งบอลจากเขาได้ ใครหลายคนที่ ศูนย์ฝึก ลา มาร์เซีย ต่างรู้จักเด็กฝีเท้าดีคนนั้นในเวลาต่อมาในชื่อ การ์เลส ปูโยล

image 1 - ชาบี เอร์นานเดซ : โคตรบอลแดนกลาง วาทยากรบาสนามหญ้า

ชาบี ยังคงเดินทางกลับบ้านที่ แตร์ราสซ่า ทุกเย็นเพื่อรับประทานอาหารกับครอบครัว เพราะแม่ของเขาไม่ต่องการให้ลูกชายอยู่กินนอนที่แค้มป์ ลา มาร์เซีย เบี้ยเลี้ยงก้อนแรกที่เขาได้รับจากการลงเล่นให้ทีมเยาวชนบาร์เซโลน่าจำนวน 4,000 เปเซต้า(950บาท) เขานำเงินนั้นไปซื้อเครื่องปิ้งขนมปังให้แม่

ปี 1997 ชาบี ก้าวขึ้นไปเป็นตัวจริงของทีมบาร์เซโลน่า บี ก่อนที่ในปีต่อมา เขาก็ได้สัมผัสประสบการณ์กับทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ในเกมซุปเปอร์ โกปา กับ เรอัล มายอร์ก้า และ ชาบี สามารถทำประตูให้ทีมได้ด้วย

บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน ฤดูกาล 1998/99 พร้อมกับ ชาบี เอร์นานเดซ ถูกโหวตให้เป็นผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมประจำปี

จนในเดือนเมษายน ปี 1999 ชาบี สร้างความประทับใจให้กับวงการฟุตบอลทีมชาติสเปน รวมถึงกระตุ้นความสนใจจากสโมสรดังในกัลโช่ เซเรียอา อย่าง เอซี มิลาน เมื่อเขาสามารถพาทีมชาติสเปน ชุดอายุไม่เกิน 20 ปี คว้าแชมป์โลก ที่ประเทศไนจีเรีย

เกือบอำลาคัมป์นู

“พ่อของผมบอกว่ามันคงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าหากจะย้ายทีม”

ลำดับต่อมา สถานการณ์ภายในทีม บาร์เซโลน่า เวลานั้นล้วนเต็มไปด้วยความสมบูรณ์แบบในตัวผู้เล่น การมีห้องเครื่องบัญชาเกมกลางสนามอย่าง เป๊ป กวาดิโอล่า นั่นเท่ากับโอกาสของนักเตะหนุ่มวัย 20 ปี อย่าง ชาบี ดูมืดมนลงทันที

อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ รองประธาน เอซี มิลาน เตรียมทุ่มเงินกระชากกองกลางเด็กหนุ่มพรสวรรค์สูงคนนี้ไปยืนคู่กับ เดเมตริโอ อัลแบร์ตินี่ มันมีความเป็นไปได้สูงที่ชาบีจะได้ย้ายออกไปจากบาร์เซโลน่า

คำสนับสนุนจากพี่ชายก็เป็นแรงจูงใจหนึ่ง แต่สำหรับแม่ คือผู้เดียวที่ต้องการให้ลูกชายอยู่กับบาร์เซโลน่าต่อไป แต่ท้ายสุดนั้นคือยึดเอาการตัดสินใจของลูกชายเป็นหลัก

ชาบี เลือกอยู่เป็นตัวเสริมในแผนการทำทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล ต่อไป จนในปี 2001 เป๊ป กวาดิโอล่า ในวัย 30 ปี ก็อำลาทีมไปเล่นกับ เบรสชา ในอิตาลี ชาบี จึงก้าวขึ้นมาเป็นแกนหลักของทีมอย่างเต็มตัว

image 2 - ชาบี เอร์นานเดซ : โคตรบอลแดนกลาง วาทยากรบาสนามหญ้า

พิสูจน์ตนเอง


“ผมช้า และเล่นฟุตบอลแบบสมัยเก่า บาร์เซโลน่า ไม่มีทางอยูในนระดับท็อปของยุโรปได้หากยังมีผมลงเล่นเป็นมิดฟิลด์”

6 ฤดูกาลที่ไร้ความสำเร็จ บาร์เซโลน่า ถูกสับละเอียดจากบรรดาสื่อต่าง ๆ และหนึ่งในนักเตะที่ถูกเซ่นสังเวยในความล้มเหลวหนักที่สุดคือ ชาบี เอร์นานเดซ กองกลางร่างเล็กของทีม

เขาถูกวิจารณ์ราวกับเป็นนักเตะที่หาจุดดีไม่ได้เลย สื่อในสเปนตั้งฉายาให้ว่า “ชาบี คนเช็ดกระจก” เพราะเอาแต่จ่ายบอลขวางออกซ้ายทีขวาที

แต่ความเปลี่ยนแปลงที่บาร์เซโลน่าก็เกิดขึ้นในปี 2003 หลังการเข้ามาของ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด กุนซือชาวดัตช์ พร้อมกับประธานสโมสรคนใหม่ โจน ลาปอร์ต้า

ไรจ์การ์ด เซ็นสัญญาคว้าตัวนักเตะดีกรีทีมชาติเข้าทีม ทั้ง เดโก้, โรนัลดินโญ่ และ ซามูเอล เอโต้ บาร์เซโลน่า หวนกลับไปสู่ยุคของกุนซือ โยฮันน์ ครัฟฟ์ ด้วยระบบ 4-3-3 พร้อมกับการเน้นครอบครองบอล

บาร์เซโลน่า จบด้วยอันดับ 2 ในฤดูกาลแรกของ ไรจ์การ์ด โดยแชมป์เป็นของบาเลนเซีย แต่ในฤดูกาลถัดมา ความสำเร็จที่รอคอยก็เดินทางมาถึง

บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ ลาลีกา สเปน สำเร็จ และหลังจากนั้นรูปแบบฟุตบอลที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานก็ช่วยให้พวกเขาคว้าได้ทั้งแชมป์ลีก และถ้วยยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก ฤดูกาล 2005/06 แม้ ชาบี จะต้องพบกับอาการบาดเจ็บจนพลาดการลงสนามหลายนัด แต่เขาก็ยังมีส่วนช่วยทีมในการเติมขึ้นไปเล่นเกมรุกและช่วยแอสซิสต์ให้เพื่อนยิงประตูได้อย่างมากมาย

เส้นทางระหว่าง ไรจ์การ์ด และ บาร์เซโลน่า มาถึงจุดแยกทางในปี 2008 ก่อนหน้านั้นไม่นาน บรรยากาศภายในห้องแต่งตัวนั้นเต็มไปด้วยปัญหา นักเตะไร้แรงกระตุ้น และยังล้นไปด้วยอีโก้

image 3 - ชาบี เอร์นานเดซ : โคตรบอลแดนกลาง วาทยากรบาสนามหญ้า

กวาดความสำเร็จ

การจากไปของ แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด กับการมาสู่ของกุนซือคนใหม่นาม เป๊ป กวาดิโอล่า ชายผู้เคยเป็นขวากหนามบนเส้นทางนักเตะของชาบี เมื่อ 7 ปีก่อน ความหวั่นใจในอนาคตของตนเองภายใต้กุนซือคนใหม่ นำไปสู่คำถามระหว่างช่วงเก็บตัวฝึกซ้อมวันแรก ๆ

“คุณยังนับผมเป็นหนึ่งในนักเตะของทีมฤดูกาลนี้หรืเปล่า” ชาบี เอ่ยถาม เป๊ป แบบตรงไปตรงมา
คำตอบที่กองกลางคนนี้ได้รับจากอดีตกองกลางรุ่นพี่ในทีมคือ “ชาบี ผมยังจินตนาการไม่ออกจริง ๆ ถ้าทีมนี้ไม่มีคุณอยู่ด้วย”

เป๊ป กับปรัชญาฟุตบอลเน้นการครองบอลที่เหนียวแน่นตลอด 90 นาที เข้าบีบเพรสซิ่งคู่แข่งรวดเร็ว รวมถึงการเอาใจใส่นักเตะของเขา สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ช่วยทำให้เกิดเรื่องราวที่น่ามหัศจรรย์กับ บาร์เซโลน่า ในฤดูกาล 2008/09 เมื่อ บาร์เซโลน่า คว้าทั้งแชมป์ ลา ลีกา สเปน, เป็นแชมป์โกปา เดลเรย์ รวมถึงถ้วยใบใหญ่สุดของสโมสรยุโรป

นั่นเป็นเพียงปีแรกหลังการเข้ามาของเป๊ป ในฟอร์มส่วนตัวของ ชาบี  ก็นับได้ว่าเขาระเบิดฟอร์มการเล่นเลิศหรูที่สุดในชีวิตการค้าแข้งที่ผ่านมาก็ว่าได้ เขายิงได้ 9 ประตู และทำแอสซิสต์รวมทั้งหมด 27 ครั้ง โดยบาร์เซโลน่า ยังคว้าได้อีก 3 ถ้วย ทั้ง ซูเปร์โกปา, ยูฟ่า ซุปเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิล์ด

“เราฝึกซ้อมหนักเพื่อการครองบอล 80% ในทุก ๆ นัด และครองเกมแบบหมดจดตั้งแต่นาทีแรก พร้อมกับโอกาสในการทำประตู 20-25 ครั้งต่อเกม มันคือทีมฟุตบอลที่มหัศจรรย์ที่สุด” ชาบี กล่าว

ชาบี คือเสาหลักของทีมบาร์เซโลน่า ภายใต้ยุคสมัยแห่งความก้าวหน้าของเป๊ป และทีมเป็นแชมป์ ลา ลีกา 3 สมัยซ้อน รวมถึงการเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 ในนัดชิง แชมป์เปี้ยน ลีก ปี 2011 ที่สนามเวมบลีย์

image 4 - ชาบี เอร์นานเดซ : โคตรบอลแดนกลาง วาทยากรบาสนามหญ้า

นอกจากผลงานอันโดดเด่นกับสโมสรแล้ว ในเกมระดับชาติ ชาบี ก็ได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะกำลังหลัก เขาคือหัวใจในแดนกลางของทีมชาติสเปน คอยคุมจังหวะของเกมไม่ต่างจาก วทายากรในวงออเครสต้า

สเปน คว้าแชมป์ ยูโร ปี 2008 โดยกุนซือ หลุยส์ อราโกเนส ให้สัมภาษณ์หลังความสำเร็จว่า เขาต้องการให้ ชาบี สัมผัสบอลในทุก ๆ เกม มากกว่าคนอื่น

ในเกมนัดชิงยูโร 2008 ระหว่าง สเปน กับ เยอรมัน ชาบี คือคนจ่ายให้ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ยิงประตูชัย พร้อมกับการสร้างชื่อให้ตนเองกลายเป็นมิดฟิลด์ระดับชั้นแนวหน้าของโลก

2 ปี ต่อมา บิเซนเต้ เดล บอสเก้ เข้ามาสานงานทีมชาติต่อจาก อราโกเนส และ ชาบี ก็ยังคงเป็นหัวใจในแดนกลางกระทิงดุเช่นเคย พวกเขาพลิกล็อคพ่ายต่อ สวิตซ์ ในเกมเปิดสนาม จากนั้นจนถึงนัดชิง สเปนกลายเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก ปี 2010 อย่างยิ่งใหญ่และสมศักดิ์ศรี

อำลาสเปน และ บาร์ซ่า

ปี 2012 สเปน สามารถป้องกันแชมป์ ยูโร ได้อย่างสบาย ๆ แต่ทุกสิ่งกลับตาลปัตรในทัวร์นาเม้นต์ เวิลด์ คัพ 2014 การกระเด็นตกรอบแรกอย่างพลิกความคาดหมายบ่งบอกถึงความล้มเหลวอย่างชัดเจน ผลจากความผิดหวังในผลงานทีมชาติทำให้ ชาบี ประกาศอำลาทีมชาติหลังจบศึกฟุตอบลโลก 2014 ที่บราซิล

ส่วนกับทางต้นสังกัด บาร์เซโลน่า ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อ คาร์เลส ปูโยล ประกาศแขวนสตั๊ด บิคตอร์ บัลเดส ย้ายออกจาก คัมป์ นู และ ชาบี ก็มีความคิดที่จะย้ายไปหาความท้าทายใหม่ ๆ

แต่ด้วยคำขอจาก หลุยส์ เอ็นริเก้ ที่ต้องการให้นักเตะกองหลกงตัวเก๋าอยู่กับทีมต่อไปอีกปีเพื่อช่วยล่าความสำเร็จ ฤดูกาลดังกล่าว ชาบี จึงคล้ายศูนย์กลางเพื่อช่วยดึงนักเตะทุกคนเข้าเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แม้ไม่ได้เป็นตัวจริง แต่เขายังทำประโยชน์ให้ทีมในทุกเกมที่ได้ลงอยู่เสมอ

บาร์เซโลน่า ชนะ 12 จาก 14 เกมหลังสุด แซงคว้าแชมป์ลีก หลังจากคะแนนตามหลัง เรอัล มาดริด ในเดือนมกราคม

ต่อมาในนัดชิงถ้วยโกปา เดลเรย์ ชาบี ได้ชูถ้วยร่วมกับเพื่อนแท้อย่าง อันเดรส อิเนียสต้า ในรังคัมป์ นู และฉากสุดท้ายก่อนอำลาสีเสื้อบาร์เซโลน่า ภาพที่ไม่มีความประทับใจใดเกินกว่านี้อีกแล้วคือการได้ชูถ้วย ยูฟ่า แชมป์เปี้ยน ลีก ฤดูกาลสุดท้ายของตนเองกับสโมสรอันเป็นที่รักแห่งนี้

image 5 - ชาบี เอร์นานเดซ : โคตรบอลแดนกลาง วาทยากรบาสนามหญ้า

ปรัชญาแห่งกองกลาง

“สำหรับผม แอสซิสต์ สำคัญกว่าการทำประตู และผมรู้สึกดีอย่างยิ่งที่ได้ทำเช่นนั้น”

“แน่นอนว่าร่างกายก็สำคัญในยุคสมัยของการเล่นฟุตบอล แต่พรสวรรค์ของนักเตะสามารถสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นได้ อย่างน้อยผมหวังว่าชีวิตการค้าแข้งของผม จะเป็นตัวบ่งบอกได้อย่างชัดเจน”

188BET ทางเข้า (ล่าสุด)

Share: