ผ่านพ้นกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2017-18 ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของกุนซือ เป๊ป กวาร์ดิโอลา คว้าแชมป์ไปครองได้ตั้งแต่ไก่โห่ แถมยังโกยแต้มได้เกิน 100 เป็นสโมสรแรกของประวัติศาสตร์อีกด้วย แต่นอกจากนี้ยังมีการชิงชัยรางวัลอื่นๆ  ที่น่าติดตามอยู่เหมือนกัน เช่น ดาวซัลโวสูงสุดประจำฤดูกาล ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง แฮร์รี เคน ของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จาก ลิเวอร์พูล โดยสุดท้ายเป็น เทพแห่งอียิปต์ ที่คว้ารองเท้าทองคำไปแต่เพียงผู้เดียว  อย่างไรก็ตาม เรามาดูกันหน่อยดีกว่าว่า ...

ตามปกติแล้ว หน้าที่การทำประตูของทีมฟุตบอลนั้นจะตกอยู่กับผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าเป็นหลัก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่น ๆ นั้นจะทำไม่ได้ เพียงแค่โอกาสนั้นจะลดหลั่นลงไป อย่างไรก็ตาม ในประวัติศาสตร์อันยาวนานของวงการลูกหนังนั้น ก็มีผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์สร้างสรรค์ประตูเจ๋ง ๆ ให้เกิดขึ้นมามากมาย แต่วันนี้เราขอพูดถึงแค่ยุคของ “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” กันก่อนว่า ใครหนอที่คือ 5 สุดยอดมิดฟิลด์จอมถล่มประตูที่ยิงได้เยอะสุดในประวัติศาสตร์

ในเกมกีฬาฟุตบอลนั้น ความสามารถพิเศษส่วนตัวของผู้เล่นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดอย่างหนึ่งนอกจากการทำประตู การจ่ายบอลแล้ว แน่นอนว่าต้องเป็นเรื่องของ “ความเร็ว” ณ จุด ๆ นี้ “สปีดในการวิ่ง” อาจจะเป็นเรื่องของร่างกายที่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันกับเทคนิคฟุตบอล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คืออาวุธร้ายที่จะช่วยสร้างประโยชน์ให้กับตัวนักเตะที่มีความสามารถพิเศษนี้และทีมของพวกเขาอย่างมหาศาล วันนี้เรามาดูกันว่า 7 นักเตะที่ทำความเร็วในการวิ่งได้สูงสุดตลอดทั้งฤดูกาล 2017-18 นี้มีใครกันบ้าง แต่บอกไว้ก่อนว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ซาดิโอ มาเน สองปีกตัวจี๊ดจาก “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล “ไม่ติดโผ !!”

สำหรับคนที่มีอาชีพนักฟุตบอลนั้น โดยปกติแล้วพวกเขาจะเริ่มต้นเส้นทางค้าแข้งของตัวเองด้วยการเซ็นสัญญาครั้งแรกกันตอนอายุ 17 ปี หากใครเก่งหน่อยก็จะโด่งดังได้ก่อนอายุ 20 อย่างช้าคือไม่น่าเกิน 25 ปี เพราะหลังจากนั้นไปถือว่าเข้าสู่ช่วงเลเวลตันกันแล้ว และหลังจากผ่านจุดพีคกันตอนอายุประมาณ 26-29 ปี ก็จะเข้าสู่ช่วงที่กราฟอาชีพจะค่อย ๆ ตกลงจนแขวนสตั๊ดกันที่อายุเฉลี่ย่ราว 35 ปี ซึ่งต้องบอกว่าเป็นอาชีพที่มีอายุการทำงานค่อนข้างสั้น ฉะนั้นหากใครแจ้งเกิดได้ตั้งแต่เด็ก ๆ ก็จะถือครองความได้เปรียบอยู่ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม ยังมีนักเตะอีกส่วนหนึ่งที่ถึงแม้ตอนเป็นเด็ก ตอนเป็นหนุ่ม ๆ จะไม่มีชื่อเสียงอะไรเลย จนกระทั่งอายุมากแล้วถึงเพิ่งมาโด่งดังเปรี้ยงปร้าง เผื่อว่าจะลืมกัน เราเลยหยิบมาเล่าให้ได้อ่านได้ฟังกันสักหน่อย ไหนมีใครบ้างเลื่อนลงไปชม !

ในกีฬาฟุตบอลนั้น ถึงแม้จะมีผู้เล่นมากมายค้าแข้งอยู่ในแต่ละทีม แต่คนที่ถือว่ามีความสำคัญมากที่สุดนั้นย่อมเป็น “กัปตันทีม” ที่ได้รับการแต่งตั้งจากกุนซืออย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่ว่าใครก็ตามที่ถูกมอบหมายงานให้รับบทบาทนี้ หมายความพวกเขามีคุณสมบัติเพียบพร้อม โดยเริ่มจากความเป็นผู้นำ ฝีเท้า เสน่ห์ ความรับผิดชอบ พฤติกรรมที่เป็นแบบอย่างให้กับคนอื่นในด้านดีทั้งในและนอกสนาม ฯลฯ ฉะนั้นบอกเลยว่านี่ไม่ใช่เรื่องง่ายจะมาทำกันเล่น ๆ ! และในประวัติศาสตร์วงการลูกหนังที่เราติดตามข่าวสารกันอยู่ตลอดนั้นก็มีกัปตันทีมอยู่หลายคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งและบทบาทอันทรงเกียรตินี้สุด ๆ จนแฟน ๆ และเพื่อนร่วมทีมรักเคารพมากจนถึงขนาดว่า แม้จะย้ายทีมหรือแขวนสตั๊ดไปแล้ว แต่ก็ยังคงเป็นกัปตันในดวงใจอยู่เสมอมาไม่มีวันเสื่อมคลาย ฉะนั้นวันนี้เรามาดูกันว่า กัปตันทั้ง 7 คนที่มีคุณสมบัติครบถ้วนนั้นจะมีใครกันบ้าง เลื่อนลงไปดูได้เลย 1. จอห์น เทอร์รี – เชลซี นับตั้งแต่ เทอร์รี ...

ณ เวลานี้ต้องยอมรับจริง ๆ ว่ากระแสของละคร “บุพเพสันนิวาส” นั้นกำลังมาแรงสุด ๆ โดยเฉพาะความแซ่บของบรรดาหนุ่มหล่อแต่ละคนที่ออกมาประชันรูปร่างหน้าตากันสุดฤทธิ์จนสาว ๆ กรี๊ดสลบอยู่หน้าจอกันทั่วทั้งประเทศ ทีนี้ลองหันกลับมาดูในวงการลูกหนังของเรากันบ้างว่า จะมีใครบ้างหนอที่หล่อพอเทียบชั้น “พี่หมื่นสองหมื่น” แต่ละคนได้บ้าง เรียกว่าเห็นแล้วต้องบอกเลยว่า “แทบน้ำเดิน !!!”

ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว ผู้เล่นในตำแหน่งดาวยิง No.9 นั้นถือเป็นคนที่แฟน ๆ อยากเห็นฟอร์มการเล่นของพวกเขามากที่สุดในทุก ๆ เกมการแข่งขัน เพราะนี่คือผู้ที่มีโอกาสส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สูงกว่าคนอื่น ๆ ฉะนั้นแล้วจึงไม่แปลกเลยว่านักเตะที่มีบทบาทเป็น สไตรเกอร์ นั้นจะได้รับความสำคัญจากทุกฝ่ายมากกว่า ทั้งจากสโมสร แฟนบอล สปอนเซอร์ เพื่อนร่วมทีม รวมถึงสื่อทั้งหลายทั้งปวงอีกด้วย และในลีกฟุตบอลยุโรปฤดูกาลนี้ก็มีศูนย์หน้าตัวเป้าเก่ง ๆ หลายคนย้ายทีมด้วยค่าตัวมหาศาล อาทิ อัลวาโร โมราต้า (เชลซี), โรเมลู ลูกากู (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด) แต่พวกเขากลับยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มให้ประทับใจได้มากเท่าไหร่นัก วันนี้เราเลยจะขอยกเอา 5 สุดยอดกองหน้าผู้สวมชุดแข่ง No.9 ที่ทำผลงานได้ร้อนแรงสุดในลีกยุโรป ...

สำหรับนักฟุตบอล ทักษะต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้นั้นถือว่าจำเป็นและสำคัญมากที่จะต้องฝึกฝนจนพัฒนาขึ้นมาเป็นอาวุธเด็ดประจำตัว ซึ่งแต่ละคนก็จะแตกต่างกันไป บ้างก็โดดเด่นเรื่อง ทำประตู, การส่งบอล, ความแข็งแกร่ง, การตั้งรับ ฯลฯ และอีกอย่างที่สำคัญและเป็นเนื้อหาหลักของบทความเราวันนี้ก็คือ “การเลี้ยงบอล” นั่นเอง การเลี้ยงบอล เป็นทักษะที่มีความสำคัญมากสำหรับนักฟุตบอล เพราะทุกคนต้องทำสิ่งนี้กันบ่อยสุดยามอยู่ในสนาม (ยกเว้นผู้รักษาประตู) แต่หากใครทำได้ดีมาก ๆ ก็จะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อทีมเช่นกัน และนี่ก็คือ 5 สุดยอดแข้งระดับท็อปที่สามารถเลี้ยงบอลได้ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการลูกหนัง ณ เวลานี้

สำหรับวงการลูกหนังแล้ว การซื้อขายย้ายทีมนั้นเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้เล่นทุกคน (เรียกว่าคนไม่เคยย้ายทีมนั้นน้อยจนแทบนับนิ้วได้เลยดีกว่า) และก็มีอยู่อีกมากมายที่เติบใหญ่ขึ้นมาจนกลายเป็นผู้เล่นระดับตำนานของสโมสรตัวเอง ก่อนจะย้ายออกไปค้าแข้งที่อื่นตามวิถีของอาชีพนักฟุตบอล ซึ่งในจำนวนนั้นเราจะเห็นว่ามีบางคนที่ได้รับโอกาสกลับคืนสู่บ้านเดิมอันแสนอบอุ่นของตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่มันทำให้แฟน ๆ มีความสุขกันจนแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แน่ กับการได้เห็นคนที่พวกเขารักสวมชุดแข่งของทีมอีกครั้ง ทั้งที่ไม่คิดว่าจะมีวันนีอีกแล้ว และนี่ก็คื 5 ตำนานผู้หวนคืนสู่สโมสรรักของตัวเอง

ลิสต์ก่อนหน้านี้เราได้ทำการจัดอันดับสุดยอด 5 มิดฟิลด์ที่ดีสุดแห่งปี 2017 กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะตรงใจผู้อ่านมากน้อยแค่ไหน เพราะบางทีก็มีบ้างที่จะใส่ความชอบส่วนตัวของผู้เขียนเองลงไปหน่อย ๆ แต่สำหรับลิสต์วันนี้ “5 สุดยอดสไตรเกอร์แห่งปี 2017” นั้นเราได้เอาข้อมูลมาจากการจัดอันดับของ “บัลลงดอร์” ที่จัดงานมอบรางวัลแข้งยอดเยี่ยมในสาขาต่าง ๆ มากมายเป็นประจำทุกปี ซึ่งถือได้ว่าเป็นงานอันทรงเกียรติที่ได้รับเครดิตสูงกว่าของฟีฟ่ามาอย่างยาวนานตั้งแต่เมื่อหลายทศวรรษก่อนแล้ว ส่วนจะออกมาตรงใจคอลูกหนังกันมากน้อยแค่ไหน อันนี้ก็ต้องบอกตามตรงว่าช่วยไม่ได้ ไปไล่เรียงเอาจาก บัลลงดอร์ เองแล้วกัน ไอ้ย่าห์ ชิช่ะ เห้ยยยยย !!