ทำไปทำมาดูเหมือนว่าสถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคของ รูเบน อโมริม อาจจะหนักหนาสาหัสกว่าในยุคของ เอริค เทน ฮาก ซะแล้ว หลังจากที่ล่าสุดเจ้าตัวพาพลพรรค ปีศาจแดง แพ้คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อทีมรองบ่อนอย่าง คริสตัล พาเลซ

สุดท้ายก็สามารถผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ศึก ยูฟ่า ยูโรปา ลีก โดยอัตโนมัติจนได้ สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม ที่ล่าสุดบุกไปเอาชนะ สเตอัว บูคาเรสต์ ถึงประเทศโรมาเนียด้วยสกอร์ 2-0 อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าในยุคของกุนซือโปรตุกีสรายนี้ กองหน้าของทัพ ปีศาจแดง จะผลิตสกอร์ได้น้อยนิดอย่างน่าใจหาย หากเทียบกับยุคของกุนซือคนก่อนๆ

เรียกได้ว่ากลายเป็นทีมที่เดาผลการแข่งขันยากที่สุดทีมนึงเลยทีเดียว สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ รูเบน อโมริม ที่ก่อนหน้านี้ แพ้มารัวๆมา 4 เกมติดต่อกัน รวมทุกรายการ ก่อนจะมาฟื้นไข้ในเกม แดงเดือด ที่สามารถบุกไปหยุดความร้อนแรงและแบ่งแต้มจาก ลิเวอร์พูล ด้วยสกอร์ 2-2 เมื่อคืนวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากผลงานอันน่าละเหี่ยใจของ แมนเชสเตอร์ ภายใต้การคุมทีมของ รูแบน อโมริม ที่กล้าๆแพ้คาบ้านต่อ บอร์นมัธ มาด้วยสกอร์ขาดถึง 0-3 แล้ว อนาคตของ มาร์คัส แรชฟอร์ด หัวหอกลูกหม้อของของทีมในรั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานาไม่แพ้กัน ว่าอาจกำลังถึงวันที่ต้องอำลากันในเร็ว ๆ นี้

เรียกได้ว่าเกือบหลับ แต่กลับมาได้ของจริง สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมริม ที่ปฏิบัติการณ์โกงความตาย พลิกแซงกลับมาเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ในช่วงนาทีบาปของศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เรียกได้ว่าดราม่ากันทั่วบ้านทั่วเมือง สำหรับการทำหน้าที่ของ ทีมงานผู้ตัดสิน ในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกไปแพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยเกมที่สนาม ลอนดอน สเตเดี้ยม ช่วง 45 นาทีแรก แมนยู มีโอกาสขึ้นนำหลายครั้ง โดยเฉพาะจังหวะหลุดเดี่ยวของ ดิโอโก้ ดาโลต์ ที่แตะหลบโกล ขุนค้อน ไปแล้ว แต่ยิงออกไปแบบน่าเหลือเชื่อ จบครึ่งแรกยังไม่มีสกอร์เกิดขึ้น เสมอกันอยู่ 0-0

“มันเป็นเกมที่ไม่สมดุลเลย ลิเวอร์พูล เต็มไปด้วยประสิทธิภาพ ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ดูเปราะบางเหลือเกิน สิ่งที่น่าประทับใจคือ ลิเวอร์พูล พร้อมจะทำประตูอยู่ตลอดเวลา และมันน่าผิดหวังมากๆ สำหรับ ยูไนเต็ด”

เสร็จสิ้นกันไปแล้วสำหรับโปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลภายใต้ปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ ในช่วงเดือนกันยายน ที่เหล่าบรรดานักเตะที่ถูกเรียกตัวติดทีมชาติ ต้องเดินทางกลับไปรับใช้บ้านเกิดของตัวเอง และถือเป็นการพักหายใจหายคอ ในช่วงออกสตาร์ฤดูกาล 2024-25 สำหรับลีกลูกหนังอันดับ  1 ของโลก อย่างศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยหลังจากที่รูดม่านเปิดฉากซีซั่นใหม่ได้ 3 เกม ผลปรากฏว่า แชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล เป็นเพียง 2 ทีมที่เก็บได้ 9 แต้มเต็ม แถม หงส์แดง ยังไม่เสียประตูเลยแม้แต่ประตูเดียว

จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับศึก แดงเดือด ภาคแรกของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 โดยผลการแข่งขันปรากฏว่า ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เอริค เทน ฮาก แพ้แบบหมดสภาพต่อคู่ปรับอย่าง ลิเวอร์พูล 0-3 ต่อหน้าเหล่าบรรดาสาวก เร้ด เดวิลส์ ณ รัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ของตัวเอง

เดินทางมาถึงสัปดาห์ที่ 3 กันแล้ว สำหรับศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2024-25 โดยเกมการแข่งขันสุดสัปดาห์นี้ คงไม่มีเกมไหนน่าสนใจไปกว่าศึก แดงเดือด ที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เอริค เทน ฮาก จะเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล ที่มี อาร์เน่อ สล็อต คุมทีม ในวันอาทิตย์ที่ 1 กันยายนนี้