การที่พี่น้องจากครอบครัวเดียวกันนั้นจะถือสัญชาติต่างกัน ถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ใช่อะไรที่เราจะพบเห็นกันได้บ่อย ๆ โดยเฉพาะกับวงการกีฬาระดับนานาชาติ เพราะหากประเทศของพวกเขาต้องโคจรมาเจอกัน มันทำให้เกิดความรู้สึกที่แปลก ๆ อยู่มิใช่น้อย
ในวงการลูกหนังของเราเองก็เช่นกัน มีคู่พี่น้องที่ไม่ยอมเลือกเล่นให้ทีมชาติเดียวกันอยู่ และนี่คือทั้ง 10 ที่เราอยากพามาให้ผู้อ่านทุกท่านได้ทำความรู้จักกัน
1. สามพี่น้องตระกูล “ป็อกบา”
หลายคนอาจจะทราบกันดีอยู่แล้วว่า พอล ป็อกบา ซูเปอร์สตาร์จากทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นก็มี พี่ชายที่เป็นนักฟุตบอลอาชีพอยู่อีก 2 คน ชื่อว่า มาเธียส กับ ฟลอเรนติน และทั้งคู่ก็เป็นนักเตะของทีมชาติ กินี ไม่ใช่ฝรั่งเศสอย่างน้องชาย
ฟลอเรติน ป็อกบา มีตำแหน่งเป็นเซ็นเตอร์แบ็ค เริ่มต้นค้าแข้งกับทีมเยาวชนของ เซลตา บีโก ก่อนจะไปเล่นให้ เซดาน ในดิวิชั่น 3 ประเทศฝรั่งเศส ก่อนจะยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นนักเตะของ แซงต์-เอเตียน ที่ลีกเอิง
ส่วน มาเธียส ป็อกบา นั้นเป็นกองหน้าของสโมสร สปาร์ตา ร็อตเทอร์ดัม ในลีกฮอลแลนด์ แต่ก่อนหน้านั้นเขาตระเวนเล่นให้กับหลาย ๆ สโมสรใน UK แล้วไป เปสคารา ที่ อิตาลี เคยติดทีมชาติแล้ว 3 นัด
แต่สำหรับ พอล ป็อกบา ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฝรั่งเศสนั้น สามารถเลือกถือสัญชาตินั้นได้อย่างถูกกฏหมาย และเขาก็ไม่พลาดที่จะทำเช่นกันด้วยเช่นกัน
2. สองพี่น้องตระกูล “อัลคันทารา”
ธิอาโก้ อัลคันทารา นั้น ณ เวลานี้เขาคือหนึ่งมิดฟิลด์ที่มีคลาสบอลสูงส่งจนได้รับการยกย่องในฝีเท้ามากที่สุดคนหนึ่งของโลกไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าหากใครเคยเล่นเกม FM ภาคเก่า ๆ ก็จะคุ้นเคยมากเป็นพิเศษ เพราะในยุคนั้น ธิอาโก้ มีอายุเพียง 16 ถือสัญชาติบราซิล และเราสามารถดึงมาร่วมทีมได้ในราคาไม่กี่แสนปอนด์ตอนเปิดเซฟใหม่ ๆ
จากนั้นพอเจ้าตัวเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ คนที่เคยรู้จักติดตามมาก็จะแอบงงเล็กน้อยว่า อ้าวเห้ย ทำไมอยู่ ๆ ไปโผล่ในทีมชาติสเปน ได้ละนั่น ! เหตุผลก็ง่าย ๆ เลยคือ ธิอาโก้ สามารถเปลี่ยนสัญชาติมารับใช้ทัพกระทิงดุได้ เพราะย้ายมาอยู่ สเปน ตามคุณพ่อตั้งแต่ 4 ขวบทำให้ได้สิทธิ์พลเมืองอย่างถูกกฏหมายนั่นเอง
แต่สำหรับน้องชายที่มีอายุห่างกัน 2 ปีอย่าง ราฟินญา ถึงจะเติบโตขึ้นมาจาก ลา มาร์เซีย เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้คิดที่จะเปลี่ยนสัญชาติของตัวเองตามพี่แต่อย่างใด จนตอนนี้ถึงแม้จะไม่ค่อยได้ลงเล่นให้ บาร์เซโลนา มากนัก แต่ก็ติดทีมชาติ บราซิล ไปแล้ว 2 เกมด้วยกัน
3. สองพี่น้องตระกูล “วิเอรี”
ย้อนกลับมายังผู้เล่นในยุคคลาสสิกกันบ้างสำหรับข้อนี้ และคนที่เรากำลังจะกล่าวถึงก็แน่นอนว่าต้องเป็น “คริสเตียน วิเอรี” อดีตกองหน้าระดับตำนานชาวอิตาลี ที่มีจำนวนสโมสรในการค้าแข้งมากถึง 15 ทีม !
ถึงแม้ วิเอรี จะมีโปรไฟล์เหมือนคนตกงานตลอดชาติแบบนี้ แต่ฝีเท้า ความคม ศักยภาพในการทำลายล้างแนวรับคู่แข่งของเขานั้น ถูกกล่าวขานไปทั่วหล้า เรียกว่าเก่งจนคนรู้จักทั้งโลกเลยก็ยังได้
ส่วน มัสซิมิลาโน วิเอรี นั้นก็มีโปรไฟล์เจ๋งใช้ได้ โดยเริ่มต้นจากการเล่นให้ทีมดังอย่าง ยูเวนตุส ย้ายไป นาโปลี แต่แล้วก็ไม่ได้ไปไกลกว่านั้น เพราะเอาแต่ค้าแข้งอยู่กับทีมใน เซเรียบี นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่สองพี่น้องคู่นี้เติบโตขึ้นมาในประเทศออสเตรีย จึงมีสิทธิ์ติดธงเล่นให้ทีมชาติ ขณะที่ มัสซิมิลาโน ยอมรับคำเชิญ แต่ คริสเตียน เลือกไปเล่นให้ อิตาลี แทน
4. สองพี่น้องตระกูล “ชาก้า”
สำหรับ กรานิท ชาก้า นั้น เขาเริ่มสร้างชื่อเสียงให้กับวงศ์ตระกูล มาได้ตั้งแต่เมื่อราว ๆ 2 ปีก่อนกับ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ก่อนจะดังหนักเข้าไปอีกจากการย้ายมาอยู่ อาร์เซนอล
และหากใครจำกันได้ในศึกฟุตบอล ยูโร 2016 มีประเด็นที่ใคร ๆ ต่างต้องพูดถึงคือการปะทะฝีเท้ากันระหว่าง กรานิท และ ทัวลันท์ ชาก้า ที่อยู่กันคนละทีมชาติ !!
โดย ชาก้า คนพี่ “ทัวลันท์” นั้น ไม่ได้ติดทีมชาติ สวิตเซอร์แลนด์ เหมือนกับน้องชาย นั้นเพราะเขาเลือกที่จะตกลงเล่นให้กับ อัลแบเนีย มาตั้งแต่ปี 2013 โน่นแล้ว ซึ่งเจ้าตัวเองก็ไม่เคยเสียดายเลยแม้สักนิดเดียว
5. สองพี่น้องตระกูล “เคฮิลล์”
พอพูดถึง ทิม เคฮิลล์ ปุ๊บ เชื่อเถอะว่ามีหลายคนแอบคิด เห้ย หรือว่าพี่น้องต่างสัญชาติของเขาจะคือ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ของเรา ! ผ่าง ! แต่ความจริงไม่ใช่อย่างนั้น แค่เขาหน้าเหมือนกันเฉย ๆ
ซึ่งทาง ทิม นั้นเราคงรู้จักกันดีอยู่แล้วว่าชายคนนี้คือสุดยอดตำนานลูกหนังของทั้ง เอฟเวอร์ตัน และทีมชาติออสเตรเลีย ที่มีลีลาการบุกทะลวงแนวรับได้สุดสะแด่ว แถมยังโขกบอลตุงตาข่ายอย่างคมกริบ ทั้ง ๆ ที่ร่างกายไม่ได้สูงใหญ่อะไรมากนัก
แต่สำหรับ คริส เคฮิลล์ นี่สิ เป็นใครมาจากไหน แทบไม่มีคนรู้จัก แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังถือว่าเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่มีช่วงเวลาค้าแข้งอยู่ในปี 2004-2012 พร้อมติดทีมชาติ ซามัว ไปแล้ว 3 นัดด้วย (ยิงได้ 2 ประตู)
ส่วนเหตุผลนั้นก็เป็นเพราะเจ้าตัวได้รับคำเชิญจากสมาพันธ์ฟุตบอลในประเทศบ้านเกิดของคุณแม่ แล้วก็ตอบตกลงไปอย่างหน้าตาเฉย จนทำให้เขาไม่ได้เล่นให้ ออสเตรเลีย เหมือนกับ ทิม นั่นเอง