กีฬาฟุตบอล

ย้อนไทม์ไลน์ค้าแข้ง รูเบน อโมริม ตำนาน เบนฟิก้า สู่ชายคาทัพ ปีศาจแดง

ruben amorim - ย้อนไทม์ไลน์ค้าแข้ง รูเบน อโมริม ตำนาน เบนฟิก้า สู่ชายคาทัพ ปีศาจแดง

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา คงไม่มีผู้จัดการทีมคนไหนที่ตกเป็นข่าวมากเท่ากับ รูเบน อโมริม อีกแล้ว หลังจากที่กุนซือหนุ่มชาวโปรตุกีสรายนี้กำลังจะเข้ารับงานเป็นกุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่เพิ่งจะปลด เอริค เทน ฮาก ออกจากตำแหน่งไป หลังจากที่พาทีมบุกไปแพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-2 เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา

อโมริม ไหวไหม “ภารกิจกู้ร่าง ปีศาจแดง”

image - ย้อนไทม์ไลน์ค้าแข้ง รูเบน อโมริม ตำนาน เบนฟิก้า สู่ชายคาทัพ ปีศาจแดง

ทั้งนี้ด้วยวัยเพียง 39 ปี ทำให้เกิดเครื่องหมายคำถามขึ้นมากมายว่าบารมีและฝีมือของ รูเบน อโมริม จะสามารถเข้ามากอบกู้สถานการณ์ในรั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้หรือไม่ และต้องใช้เวลานานแค่ไหน ถึงจะทำให้ ปีศาจแดง กลับมากลายเป็นที่หวาดผวาของเหล่าบรรดาทีมคู่แข่งอีกครั้ง

แม้ว่า อโมริม จะมีประสบการณ์การคุมทีมในระดับสโมสรที่ไม่มากนัก แต่หากมองไปที่ประสบการณ์ในฐานะการเป็นผู้เล่นต้องยอมรับว่า อโมริม ถือเป็นอีกหนึ่งในตำนานนักเตะในยุคทองของ เบนฟิก้า ที่ร่วมเล่นเคียงบ่าเคียงไหล่กับผู้เล่นระดับชั้นนำมาแล้วมากมายไม่ว่าจะเป็น ลุยเซา ,ดาวิด ลุยซ์ ,มักซี่ เปเรย์รา ,คอสตาส คัตสูรานิส ,โฆเซ่ อันโตนิโอ ,เรเยส ปาโบล ไอมาร์ ,ออสการ์ คาร์โดโซ่ ,ฟาบิโอ โกเอนเตรา ,อังเคล ดิ มาเรีย ,รามิเรส ,ฮาเวียร์ ซาวิโอล่า ,ฮูลิโอ เซซาร์ ,นิโกลัส ไกตาน

โดย อโมริม อยู่รับใช้ เหยี่ยวลิสบอน นานถึง 6 ฤดูกาล ลงสนามไปทั้งสิ้น 154 เกม ยิงไป 6 ประตูรวมทุกรายการ และผ่านการรวมงานกับ กับกุนซืออย่าง กีเก้ ซานเชซ ฟลอเรส ในซีซั่น 2008-09 และอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของ ฮอร์เก้ เฮซุส ในช่วงระหว่างปี 2009-2015

วันเดอร์คิดแดนฝอยทอง ฟอร์มเข้าตา เบนฟิก้า

image 1 - ย้อนไทม์ไลน์ค้าแข้ง รูเบน อโมริม ตำนาน เบนฟิก้า สู่ชายคาทัพ ปีศาจแดง

รูเบน อโมริม เกิดเมื่อวันที่ 27 มกราคม 1985 ก่อนเริ่มต้นฝึกฟุตบอลกับสโมสร แอตเลติโก้ คัลเจอรัล สโมสรท้องถิ่นในบ้านเกิด กับบทบาทกองกลาง พร้อมกับทำผลงานได้อย่างโดดเด่นจนไปเข้าตาแมวมองของ เบนฟิก้า ยักษ์ใหญ่แดนฝอยทอง ก่อนที่พวกเขาจะดึงตัว อโมริม ไปร่วมทีมในปี 2000 ซึ่งในขณะนั้น อโมริม มีอายุเพียง 16 ปีเท่านั้น

โดย อโมริม อยู่เก็บเลเวลกับทีมเยาวชนของ เบนฟิก้า แต่ก็แทบหาโอกาสลงสนามไม่เจอ ทำให้ต้องมองหาทีมใหม่ เพื่อโอกาสลงสนามที่มากขึ้น สุดท้าย อโมริม ก็ย้ายไปอยู่กับ เบเลเนนซ์ ในปี 2002 และได้รับสัญญาอาชีพครั้งแรกในปีต่อมา (2003) ด้วยวัย 18 ปี

image 2 - ย้อนไทม์ไลน์ค้าแข้ง รูเบน อโมริม ตำนาน เบนฟิก้า สู่ชายคาทัพ ปีศาจแดง

อโมริม ประเดิมสนามในฐานะนักฟุตบอลอาชีพนัดแรก ในเกมที่ เบเลเนนซ์ เจอกับ อัลเวอร์ก้า เมื่อช่วงปลายปี 2003 หลังจากนั้นก็ค่อยๆพัฒนาตัวเอง ได้ลงเล่นมากขึ้นเรื่อยๆจนสามารถกลายเป็นตัวหลักของทีม แถมถูกเรียกตัวติดทีมชาติโปรตุเกสชุดเยาวชนมาแล้วแทบทุกชุดทั้ง U18 U19 U20 U21

ปล่อยของช่วงยืมตัว สัมผัสเกมยุโรป

image 3 - ย้อนไทม์ไลน์ค้าแข้ง รูเบน อโมริม ตำนาน เบนฟิก้า สู่ชายคาทัพ ปีศาจแดง

ฤดูกาล 2007-08 น่าจะเป็นฤดูกาลที่ อโมริม พีคที่สุดกับ เบลเลเนนซ์ โดยได้ลงสนามไปถึง 32 เกมรวมทุกรายการและยังได้สัมผัสกับการเล่นฟุตบอลรายการสโมสรยุโรปเป็นครั้งแรกด้วย ซึ่งจากผลงานดังกล่าว ประกอบกับสัญญาของ อโมริม กับ เบลเลเนนซ์ หมดลงพอดี นั่นทำให้ เบนฟิก้า หวนกลับมาดึงตัว รูเบน อโมริม ไปร่วมทีมเป็นครั้งที่ 2 ในปี 2008 หลังจากที่ก่อนหน้านั้นไม่มีที่ว่างในทีมชุดใหญ่ สำหรับ อโมริม

อย่างไรก็ตามการกลับรัง เบนฟิก้า ของ อโมริม หาใช่ว่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะเจ้าตัวต้องต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริงกับเหล่าบรรดานักเตะซูเปอร์สตาร์ในยุครุ่งเรืองของพลพรรค เหยี่ยวลิสบอน ซึ่งนั่นทำให้สถานการณ์ของ อโมริม เข้าอีหรอบเดิม เมื่อไม่ได้รับโอกาสลงสนามเท่าที่ควรจะเป็น จนต้องย้ายมาอยู่กับ สปอร์ติ้ง บราก้า แบบยืมตัวเป็นเวลา 2 ฤดูกาล ในปี 2011 โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 46 นัดยิงไป 5 ประตูรวมทุกรายการ

กลับ เบนฟิก้า รอบสอง ก็ยังสำรองอยู่ดี 

image 4 - ย้อนไทม์ไลน์ค้าแข้ง รูเบน อโมริม ตำนาน เบนฟิก้า สู่ชายคาทัพ ปีศาจแดง

จนกระทั่งหมดสัญญายืมตัว อโมริม ย้ายกลับสู่ เบนฟิก้า แต่สถานการณ์ของเจ้าตัวก็ยังไม่ดีขึ้น ต้องต่อสู้เพื่อแย่งตำแหน่งตัวจริง มิหนำซ้ำยังโชคร้ายบาดเจ็บหนักที่เอ็นไขว้หน้าหัวเข่าเล่นงานด้วย โดย 2 ฤดูกาลสุดท้ายกับ เบนฟิก้า อโมริม มีสถานะเป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น

และแม้ว่า อโมริม จะหายจากอาการบาด เจ็บและย้ายไปเรียกความฟิตกับทีม อัล วาคราห์ ในกาตาร์ แต่สุดท้ายแผลเก่าของเขาก็กลับมากำเริบอีกครั้ง ซึ่งนั่นนับเป็นอุปสรรคสำคัญต่อชีวิตการค้าแข้งของ อโมริม สุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจขอยกเลิกสัญญากับ เบนฟิก้า พร้อมประกาศแขวนสตั๊ดในวัยเพียง 32 ปี ก่อนเบนเข็มไปเอาดีทางด้านงานโค้ช

ปี 2018 อโมริม ประเดิมชิมลางงานโค้ชเป็นครั้งแรกกับคาซ่าเปีย ในดิวิชั่น 3 ของโปรตุเกส แต่ด้วยปัญหาเรื่องเอกสารและใบอนุญาต ทำให้ อโมริม ถูกแบนห้ามคุมทีม 1 ปี ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวแม้ว่า อโมริม จะยังเป็นกุนซือเต็มตัวไม่ได้ เจ้าตัวก็เลือกที่จะลดบทบาท ไปเป็นโค้ชให้กับทีมสำรองของ สปอร์ติ้ง บราก้า และสุดท้ายหลังพ้นโทษแบน ในช่วงปลายปี 2019 อโมริม ก็ถูกดันขึ้นไปคุมทีมชุดใหญ่ ต่อจาก ริคาร์โด้ ซา ปินโต้ ที่ถูกปลดออกไป

แขวนสตั๊ดเร็ว เก็บเลเวลงานโค้ช

image 5 - ย้อนไทม์ไลน์ค้าแข้ง รูเบน อโมริม ตำนาน เบนฟิก้า สู่ชายคาทัพ ปีศาจแดง

และการคุมทัพ บราก้า นี่เองที่ทำให้ อโมริม กลายเป็นที่รู้จักในวงการฟุตบอลโปรตุเกส จากการสร้างชื่อด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ลีก คัพ ใน ฤดูกาล 2019-20 แถมยังได้รับรางวัลผู้จัดการทีมแห่งปีของ พรีเมียรา ลีกา โปรตุเกส ประจำฤดูกาล 2020-21 ด้วย ความสำเร็จของ อโมริม ไม่ได้มาจากเพียงแค่การชนะในสนามเท่านั้น

แต่ยังมาจากการสร้างสภาพแวดล้อมทีมที่มีความเชื่อมั่นและทัศนคติที่ต้องการคว้าชัยชนะของนักเตะทุกคน อโมริม เน้นไปที่การพัฒนาทีมในระยะยาว รวมถึงการใช้นักเตะจากอะคาเดมีเพื่อสร้างทีมในอนาคต

นอกจากนี้คาแรกเตอร์ความมุ่งมั่นและการเป็นผู้นำของ อโมริม ทำให้เขาได้รับการยกย่องในฐานะโค้ชรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพที่จะกลายเป็นหนึ่งในโค้ชที่มีอนาคตไกลของวงการฟุตบอลยุโรปในอนาคตอันใกล้นี้ โดยจากผลงานอันโดดเด่นกับ บราก้า แม้ แต่ก็ทำให้ สปอร์ติ้ง ลิสบอน ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญามูลค่าถึง 10 ล้านยูโรเป็นสถิติค่าตัวผู้จัดการทีมที่สูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลโปรตุเกส เพื่อคว้าตัว อโมริม ไปเป็นกุนซือคนใหม่

อโมริม แสดงความสามารถในการปรับระบบการเล่นและนำทัพนักเตะอายุน้อยขึ้นมาเป็นกำลังหลักในทีม เช่น เปโดร กอนซาลเวส และ กอนซาโล อินาซิโอ จากนั้นในฤดูกาล 2020-21 อโมริม พา สปอร์ติ้ง คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ทั้งลีกสูงสุดและลีกคัพ โดยเฉพาะในลีกที่เป็นการได้แชมป์สมัยแรกในรอบ 19 ปีของสโมสร

สร้างชื่อกับ ลิสบอน ปีทอง รูเบน อโมริม

image 6 - ย้อนไทม์ไลน์ค้าแข้ง รูเบน อโมริม ตำนาน เบนฟิก้า สู่ชายคาทัพ ปีศาจแดง

ฤดูกาลต่อมา 2021-22 ออร่าของ อโมริม เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆเมื่อเจ้าตัวพา สปอร์ติ้ง ลิสบอน คว้าแชมป์บอลถ้วยได้เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่ผลงานในลีกนั้นจบที่ตำแหน่งรองแชมป์ ต่อมาในซีซั่น 2022-23 ผลงานในลีกของ ลิสบอน เริ่มตกต่ำลงไปเนื่องจากการเสียผู้เล่นตัวหลักทั้ง นูโน่ เมนเดส, ชูเอา ปาลินญ่า และ มาเธอุส นูนเญซ ทำให้ทีมของ อโมริม จบแค่อันดับ 4 ของตารางเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาล 2023-24 สปอร์ติ้ง ลิสบอน ของ อโมริม ก็กลับมาทวงความสำเร็จได้อีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์ลีกไปครอง โดยเก็บไปถึง 90 คะแนน ทิ้งห่าง เบนฟิก้า ทีมรองแชมป์ถึง 10 แต้ม ยิงได้ถึง 96 ประตู ขณะที่ในฟุตบอลถ้วยในประเทศก็ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ไปแพ้ ปอร์โต้ 1-2 ได้แค่รองแชมป์

ขณะที่ผลงานการคุมทีมของ อโมริม ในฤดูกาลนี้ (2024-25) เจ้าตัวพาทีมลงเล่นในลีกไปแล้ว 9 เกม ทำผลงานชนะรวด เก็บได้ 27 แต้มเต็ม ยิงได้ 30 ประตู เสียแค่ 2 ประตู นำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนลีกแดนฝอยทอง

สื่อบ้านเกิดตั้งให้ ฉายาใหม่ นิว มูรินโญ่

image 7 - ย้อนไทม์ไลน์ค้าแข้ง รูเบน อโมริม ตำนาน เบนฟิก้า สู่ชายคาทัพ ปีศาจแดง

ซึ่งจากผลงานที่โดดเด่นที่ผ่านมาของ อโมริม ที่ ทำให้สื่อโปรตุเกส มองว่าเขาควรได้รับโอกาสในการเป็นโค้ชของทีมฟุตบอลที่ใหญ่กว่า ลิสบอน โดยก่อนหน้านี้ตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับหลายๆ ทีมใหญ่ในยุโรป ทั้ง ลิเวอร์พูล, บาร์เซโลน่า, ยูเวนตุส และ บาเยิร์น มิวนิค

อโมริม มีความคล้ายคลึงกับ มูรินโญ่ จนมีสื่อบ้านเกิดตั้งฉายาให้เขาเล่นๆ ว่าเป็น นิว มูรินโญ่ ด้วย ขณะเดียวกันเจ้าตัวก็ยังเคยพูดด้วยความภาคภูมิใจว่าเป็นศิษย์ของ มูรินโญ่ เพราะเจ้าตัวยกให้ มูรินโญ่ เป็รแบบอย่างในการทำทีมมาโดยตลอด

ขณะเดียวกัน โมริม ยังเคยเข้าเรียนคอร์สการเป็นโค้ชที่ ฟาคัลตี้ ออฟ ฮิวแมน คิเนติคส์ ที่มหาวิทยาลัยในกรุงลิสบอน ซึ่งคนที่มาให้การอบรมก็มีทั้ง มูรินโญ่ และ อันโตนิโอ เวโลโซ่ ที่เคยพา เบนฟิก้า ได้แชมป์ลีก 7 หนในช่วงทศวรรษ 1980 ด้วย

นอกจากฝีมือการคุมทีมแล้วนั้น อีกหนึ่งอย่างที่หลายคนมองว่า อโมริม คล้ายกับ มูรินโญ่ คือฝีปากในการให้สัมภาษณ์ รวมไปถึงเกมจิตวิทยา ก็ละม้ายคล้ายกับ มูรินโญ่ โดยเฉพาะการพูดปลุกใจลูกทีมของตัวเอง และการพูดยั่วยุ ทำลายสมาธิคู่แข่งด้วย

ทั้งนี้ คาดกันว่า อโมริม จะดึงทีมงานอย่าง เอ็มมานูเอล เฟอร์โร โค้ชทีมชุดใหญ่ อเดลิโอ กันดิโด และ คาร์ลอส เฟอร์นันเดซ มาร่วมงานด้วย โดยคาดกันว่า อโมริม จะอยู่คุม สปอร์ติ้ง อีก 3 เกม รวมทั้งเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ ลิสบอน จะพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก่อนจะมาประเดิมคุมทีม แมนฯ ยู เกมแรกด้วยการเจอกับ อิปสวิช ทาวน์ ในวันที่ 24 พฤศจิกายน นี้

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันจากต่างประเทศ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค

750x410 WP Cover FCB Partner 2024 - ย้อนไทม์ไลน์ค้าแข้ง รูเบน อโมริม ตำนาน เบนฟิก้า สู่ชายคาทัพ ปีศาจแดง

Share: