เจาะลึก 4 ประเด็น หลังเกม ลิเวอร์พูล ถล่ม แมนฯ ยูไนเต็ด 7-0 แดงเดือดนัดล่าสุด แมนฯ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก เพิ่งประสบกับความปราชัยในเกมแดงเดือดยับเยินที่สุดในประวัติศาสตร์หลังบุกมาแพ้ ลิเวอร์พูล ขาดลอย 7-0 ที่ แอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มี.ค.
188BET ทางเข้า (ล่าสุด)
ประเด็นที่หนึ่ง : พ่ายแพ้ในแทคติก
เกมนี้ เอริก เทน ฮาก กุนซือ แมนฯ ยูไนเต็ด เลือกให้ทีมเล่นในระบบ 4-1-4-1 โดยจัด คาเซมิโร่ ยืนเป็นกองกลางตัวรับเพียงรายเดียว ส่วนกองกลางรายอื่นๆ พยายามขึ้นไปสนับสนุนเกมรุก ผลปรากฏว่ากลายเป็นแดนกลางของ ลิเวอร์พูล ที่ควบคุมจังหวะของเกมได้ดีกว่า
โดยเฉพาะในเกมครึ่งหลัง อีกทั้งแนวรับของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้ ต้องเจอปัญหาในการรับมือกับผู้เล่นแนวรุกของ หงส์แดง ที่พยายามสร้างโอกาสในเกมรุกแทบตลอดทั้งเกม สาเหตุหนึ่ง เนื่องจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ แอนโทนี่ ที่รับบทปีกให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมนี้ ลงมามีส่วนร่วมในเกมรับของทีมน้อยเกินไป
ประเด็นที่สอง : เกมรุก ผี ฝืดสนิท
จากที่กำลังสร้างผลงานยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง แต่สำหรับเกมนี้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด กลับไม่สามารถสร้างความอันตรายแก่แนวรับลิเวอร์พูล ได้เลย เกมนี้ แรชฟอร์ด สัมผัสบอลเพียง 14 ครั้ง นั่นรวมไปถึงผู้เล่นแนวรุกรายอื่นๆ ของ แมนฯ ยูไนเต็ด อย่าง แอนโทนี่, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ เวาท์ เว็กฮอร์สต์ ที่ไร้โอกาสในการยิงประตูในครึ่งหลัง นับเป็นฟอร์มการเล่นที่ผิดคาดและน่าผิดหวังอย่างมากหากเทียบกับผลงานในเกมช่วงหลังของที่ผ่านมา
ประเด็นที่สาม : หงส์แดง ระเบิดฟอร์ม
จุดหนึ่งที่ต้องชื่นชมสำหรับทีม ลิเวอร์พูล ในเกมนี้ นั่นคือความร้อนแรงของแนวรุกที่พาเหรดกันซัดให้ประตูให้ทีมกันอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็น โคดี้ กัคโป, ดาร์วิน นูนเญซ และ โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ ที่ช่วยกันซัดคนละ 2 ประตูให้ทีม หรือแม้แต่กองหน้าตัวสำรองอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ก็ยังสามารถลงมาบวกสกอร์ปิดท้ายให้ทีมได้อีก 1 ประตู ผลงานทั้งหมดจากเหล่าแนวรุกของ หงส์แดง ในเกมนี้ ต้องบอกว่า
นี่คือเกมที่พวกเขาทำได้ดีที่สุดในฤดูกาลนี้ก็ว่าได้ อย่างไรก็ตาม นอกจากแนวรุกแล้ว ในตำแหน่งอื่นๆ ทั้งแดนกลาง และแนวรับชอง ลิเวอร์พูล ก็ช่วยกันจัดการทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ แทบหาจุดบกพร้องไม่เจอเลยทีเดียว
ประเด็นที่สี่ : สมาธิที่สูญหาย
ก่อนเกมนี้ ต้องบอกว่า เป็นเวลานานหลายเดือนที่เรามักไม่ค่อยเห็นสภาพทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เสียประตูให้คู่ต่อสู้ง่ายดายเช่นเกมนี้ หรือแม้แต่การตกเป็นรองคู่ต่อสู้ด้วยสกอร์ 2-0 หรือ 3-0 แต่สำหรับเกมนี้หลังจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูที่สามให้กัลป์ ลิเวอร์พูล
ก็ดูเหมือนสมาธิในเกมของผู้เล่นดูจะสูญหายไป ความยึดมั่นในแนวทางการเล่นหรือแทคติคก็ดูจะลดน้อยถอยลงอย่างเห็นได้ชัด การขาดสมาธิในการเล่นยิ่งเปิดเผยให้เห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ หลังจากประตูที่ 4 ที่ 5 จนถึงประตูสุดท้าย จนที่สุดมันคือความถอดใจ และแน่นอนนี่คือหนึ่งชนวนเหตุสำคัญที่นำไปสู่บทสรุปผลสกอร์ที่ออกมาดูมโหฬาร 7-0 นั่นเอง