กีฬาฟุตบอล

ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก

12 8 67 - ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก

ในที่สุดก็ได้ทราบกันไปแล้วว่าเจ้าของเหรียญทองกีฬาฟุตบอลชาย ในมหกรรม โอลิมปิก 2024 เป็นใครระหว่างสองชาติยักษ์ใหญ่จากยุโรปอย่าง ฝรั่งเศส และ สเปน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าในเกมส์กีฬาแห่งมวลมนุษยชาติตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ย่อมมีเหตุการณ์ที่เป็นที่สุดในประวัติศาสตร์ของ โอลิมปิก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเหรียญรางวัล สถิติ หรือเหตุการณ์ประทับใจ ให้คอกีฬานึกถึงอยู่เสมอ

ขณะที่ กีฬาฟุตบอล ก็ถือเป็นกีฬาที่ได้รับการจับตามองมากที่สุด โดยในอดีตที่ผ่านมาก็มีหลากหลายเหตุการณ์ที่ติดตราตรึงอยู่ในความทรงจำของหลายๆคน แต่หากจะพูด ฟุตบอลโอลิมปิก ที่พลิกล็อคช็อคโลกที่สุด ก็คงจะหนีไม่พ้น การที่ ทีมชาติไนจีเรีย ผงาดคว้าเหรียญทอง ในศึก โอลิมปิก ที่ แอตแลนต้า สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1996 หรือเมื่อ 28 ปีที่แล้ว โดย ณ เวลานั้น เหล่าบรรดาแฟนบอลต่างเป็นที่รู้กันดีว่า ชาติมหาอำนาจและตัวเต็งที่จะคว้าเหรียญทองคือทีมจากยุโรปและอเมริกาใต้

ฟุตบอลชายโอลิมปิก 1996 กับกติกาที่เปลี่ยนไป

image 14 - ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก

อย่างไรก็ตามใน โอลิมปิก 1996 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ใช้กฏกำหนดอายุผู้เล่นไม่เกิน 23 ปี และอนุญาตให้มีผู้เล่นอายุเกิน 23 ปีได้สูงสุด 3 คนต่อทีม เกิดเหตุการณ์ช็อคโลกเกิดขึ้น เมื่อ อินทรีมรกต ภายใต้การคุมทีมของ โจ บอนเฟร์เร กุนซือชาวดัตช์ หักปากกาเซียนด้วยการเอาชนะได้ทั้ง บราซิล และอาร์เจนตินา ผงาดคว้าเหรีญทองมาคล้องคอแบบที่ไม่มีใครคาดคิด

สำหรับเหล่านักเตะของทัพ อินทรีมรกต ที่ช่วยกันสร้างปรากฏการณ์เอาไว้ในศึกกีฬาโอลิมปิก 1996 นำโดย เอ็นวานโก คานู, เจย์-เจย์ โอโคชา, ตาริโบ เวสต์ ,ซันเดย์ โอลิเซห์, เซเลสติน บาบายาโร่, วิคเตอร์ อิ๊คเปบ้า ,แดเนียล อโมคาชี่ และ ทิจานี่ บาบันกิด้า โดย ไนจีเรีย ผ่านรอบแบ่งกลุ่มในฐานะรองแชมป์กลุ่มได้แบบทุลักทุเล

จากที่มีประตูได้เสียที่ดีกว่า ญี่ปุ่น ที่คุมทัพโดย อากิระ นิชิโนะ อดีตกุนซือทีมชาติไทย ณ เวลานั้น ก่อนที่ลูกทีมของ โจ บอนเฟร์เร ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายไปพบกับ เม็กซิโก ก่อนเอาชนะไปได้ 2-0 จากประตูของ เจย์-เจย์ โอโคชา และ เซเลสติน บาบายาโร่

ปรากฏการณ์ล้มยักษ์สะท้าน แอตแลนต้า

image 15 - ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก

โดยเกมรอบรองชนะเลิศเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ ไนจีเรีย จารึกเอาไว้ใน โอลิมปิก และยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ นั่นก็คือเกมที่พวกเขาโคจรมาพบกับ บราซิล ที่มี โรนัลโด้, ริวัลโด้, โรแบร์โต้ คาร์ลอส และ เบเบโต้ อีกครั้ง หลังจากที่แพ้มาก่อนหน้านี้ 0-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม จากประตูของ โล้นทองคำ โรนัลโด้ อย่างไรก็ตามฟุตบอลลูกกลมๆ แถมในรอบน็อคเอ๊าต์ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งแม้ว่า บราซิล จะออกนำห่างถึง 3-1 และเหลือเวลาอีกเพียง 15 นาทีสุดท้ายเท่านั้น

สุดท้ายกลายเป็น วิคเตอร์ อิ๊กเปบ้า ที่มายิงประตูจุดประกายความหวังให้ ไนจีเรีย ก่อนที่ เอ็นวานโก้ คานู กัปตันทัพ อินทรีมรกต จะสร้างปาฏิหาริย์ด้วยการยิงตีเสมอ โกงความตายได้ในช่วงนาทีสุดท้ายของเกม สร้างขวัญกำลังใจให้กับทัพ อินทรีมรกต ในช่วงต่อเวลาพิเศษในเวอร์ชั่นโกลเด้นโกล กฏการยิงประตูอันโหดร้าย ที่ทำร้ายจิตใจผู้พ่ายแพ้มาแล้วนักต่อนัก

เกมในช่วงต่อเวลาพิเศษดำเนินไปเพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น เอ็นวานโก้ คานู เจ้าเก่าก็โชว์ความเหนือชั้นด้วยการเก็บตกบอลจังหวะ 2 ในกรอบเขตโทษ บราซิล ก่อนกระดกบอล พร้อมตวัดยิงเร็วผ่านมือนายด่านแซมบ้าเข้าไปแบบที่เรียกได้ว่าคนดูอ้าปากค้างกันสนาม พา ไนจีเรีย ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ไปชิงเหรียญทองกับ อาร์เจนติน่า ภายใต้การคุมทีมของ ดาเนียล พาสซาเรลล่า ที่นำโดยแข้งระดับประกาฬทั้ง อาเรียล ออร์เตก้า, เฮอร์นาน เครสโป, เคลาดิโอ โลเปซ, ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ และ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่

สุดท้ายเหมือนฉายหนังซ้ำ ไนจีเรีย สร้างปาฏิหาริย์ได้อีกครั้ง โดยแม้จะโดน อาร์เจนตินา นำไป 2-1 แต่ช่วง 30 นาทีสุดท้ายของเกม ไนจีเรีย พลิกสถานการณ์กลับมาแซงชนะแบบหน้าตาเฉย จากประตูตีเสมอของ ดาเนียล อาโมคาชี่ และประตูชัยในนาทีสุดท้ายของเกมจาก เอ็มมานูเอล อามูนิเก้

ซึ่งประตูดังกล่าวเกิดจากการเช็คล้ำหน้าพลาดของ อาร์เจนติน่า เอง นั่นทำให้ ไนจีเรีย สร้างประวัติศาสตร์คัมแบ็กครั้งใหญ่ที่สุดในโอลิมปิกถึง 2 นัดติดต่อกันเหนือทีมเต็งอย่างทัพำทัพ แซมบ้า และพลพรรค ฟ้า-ขาว และยังเป็นครั้งแรกที่ทีมจากแอฟริกาคว้าเหรียญทองโอลิมปิกได้สำเร็จด้วย

อินทรีมรกต ทีมในตำนานที่ถูกเล่าขานจนถึงปัจจุบัน

image 16 - ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก

สำหรับขุนพล อินทรีมรกต ชุดดังกล่าวได้รับการยกย่องอย่างล้นหลาม ณ เวลานั้น โดยเฉพาะในรายของ เอ็นวานโก้ คานู กัปตันทีมที่มีส่วนสูงถึง 197 เซนติเมตร โดยเจ้าตัวนับเป็นแข้งจอมพเนจรคนหนึ่งของวงการ เริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งกับทีมในบ้านเกิดอย่าง Iwuanyanwu Nationale ในวัย 16 ปี

และทำผลงานได้อย่างโดดเด่นยิงไป 15 ประตูจากการลงสนาม 25 เกม โดยผลงานของ คานู ไปเข้าตาแมวมองของ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ทีมดังในเนเธอร์แลนด์ ก่อนจะดึงตัว คานู ไปวาดลวดลายในลีกแดนกังหันลมในฤดูกาลต่อมา และหลังจากที่ คานู ย้ายมาค้าแข้งในสีเสื้อ อาแจ็กซ์ ได้เพียง 2 ฤดูกาล เจ้าตัวก็คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนลีค ได้สำเร็จ ในฤดูกาล 1994-95 โดย คานู บันทึกสถิติไว้ที่ 27 ประตูจากการลงสนาม 74 เกมรวมทุกรายการ ตลอด 2 ปีครึ่งที่ดาวยิงก้านยาวค้าแข้งกับ อาแจ็กซ์

ด้วยดีกรีแชมป์ยุโรป และสไตล์การเล่นที่แปลกตาออกไป ทำให้ลีกแดนกังหันลมน่าจะเล็กเกินไปสำหรับ คานู จนกระทั่งฤดูกาล 1996-97 เป็นยักษ์ใหญ่แห่งศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อย่าง อินเตอร์ มิลาน ที่ทุ่มเงิน 6 ล้านปอนด์คว้าตัว คานู ไปผลิตสกอร์ในถิ่น จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า

ฝันร้ายกับทัพ งูใหญ่ กับโรคหัวเต้นผิดจังหวะ

image 17 - ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก

อย่างไรก็ตามในช่วงที่ค้าแข้งกับทัพ งูใหญ่ เอ็นวานโก้ คานู ได้รับข่าวร้ายเมื่อถูกตรวจพบกว่า มีอาการหัวใจเต้นผิดปกติ ส่งผลให้เจ้าตัวต้องพักไปเกือบปี และหลุดไปเป็นตัวสำรองถาวร จนแทบไม่มีโอกาสได้โชว์ฝีเท้า แต่ในความโชคร้ายของ คานู ก็ยังมีความโชคดีอยู่บ้าง เมื่อ เดนนิส เบิร์กแคมป์ กองหน้าชาวดัตช์ของ อาร์เซน่อล ณ เวลานั้น ได้เกลี้ยกล่อม อาร์เซน เวนเกอร์ กุนซือทัพ ปืนใหญ่ ให้เอาตัว คานู มาร่วมทีมให้ได้ เนื่องจาก ดิ ไอซ์เบิร์ก รู้ซึ้งถึงพิษสงของ คานู เป็นอย่างดี

จากการที่เจ้าตัวเคยเล่นเคียงบ่าเคียงไหล่กับหัวหอกไนจีเรียนมาแล้วทั้งกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม รวมทั้ง อินเตอร์ มิลาน

และในที่สุด อาร์เซน่อล ก็จัดการเจียดเงินแค่ 3 ล้านปอนด์ เพื่อคว้า คานู มาจาก อินเตอร์ มิลาน และนี่นับเป็นจุดเริ่มต้นของอีกหนึ่งตำนานแข้งของทัพ ปืนใหญ่ ที่กลายขวัญใจเหล่าบรรดาสาวก เดอะ กันเนอร์ส ได้อย่างรวดเร็ว และแม้ว่า คานู อาจจะไม่ได้ยึดตำแหน่งตัวจริงถาวรในยุคของ เวนเกอร์

แต่เมื่อใดก็ตาม คานู ได้รับโอกาสลงสนาม เจ้าตัวก็มักคายพิษสง ปั่นป่วนแนวรับคู่แข่งให้เห็นนับครั้งไม่ถ้วน โดย คานู ลงเล่นในถิ่น ไฮบิวรี่ ไปเพียง 114 นัด จาก 5 ฤดูกาล แต่เขากลับเป็นหนึ่งในตำนานของ ไอ้ปืนใหญ่ ด้วยการกระหน่ำไปถึง 44 ประตูรวมทุกรายการ แถมยังเป็นหนึ่งในนักเตะชุดแชมป์ไร้พ่ายของ อาร์เซน่อล และคว้า แชมป์พรีเมียร์ลีก ได้ถึง 2 สมัย

ครั้งหนึ่ง อาร์แซน เวนเกอร์ เคยออกมายกย่องลูกทีมก้านยาวรายนี้ว่า เป็นหนึ่งในกองหน้าที่สามารถเปลี่ยนพลิกเกมของทีมได้ด้วยการเทคนิคและมันสมองอันปราดเปรื่องของเขา ขณะที่ความมุ่งมั่นและระเบียบวินัยนอกสนาม คานู ก็แทบจะไม่มีข่าวเสียๆหายๆให้เห็น

สู่ตำนานชุดไร้พ่าย แก็งค์เดนตายของ อาร์เซน่อล

image 18 - ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก

อย่างไรก็ตาม กาลเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไป ด้วยวัยมากขึ้น แถม อาร์เซน่อล ได้ตัวกองหน้าเจนใหม่เข้ามาทั้ง เธียร์รี อองรี และตัวรุกอย่าง โรแบร์ ปิแรส นั่นทำให้โอกาสลงสนามของ คานู น้อยลงเข้าไปอีก นั่นทำให้ คานู ต้องบอกลาถิ่น ไฮบิวรี่ โดยเก็บข้าวของไปอยู่กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนส ในฤดูกาล 2004-2005 เล่นให้กับ แบ็กกี้ส์ 2 ฤดูกาลเป็นจำนวน 58 นัดยิงไป 9 ประตูรวมทุกรายการ

ฤดูกาล 2006-07 คานู ย้ายไปอยู่กับ พอร์ตสมัธ ที่กำลังประสบปัญหาทางการเงิน ซึ่งในช่วงบั้นปลายชีวิตการค้าแข้ง คานู ช่วยเหลือต้นสังกัดด้วยการไม่รับค่าเหนื่อยแม้แต่บาทเดียว และอยู่ร่วมหัวจมท้ายกับ เดอะ ปอมปีย์ ตั้งแต่โลดแล่นในพรีเมียร์ลีก จนกระทั่งร่วงลงมาเล่นใน เดอะ แชมเปี้ยนสชิพ คานู ก็ยังคงไม่ทิ้งทีมไปไหน ก่อนที่สุดท้ายกองหน้าไนจีเรียรายนี้จะแขวนสตั๊ดไปในที่สุดเมื่อปี 2012 พร้อมบันทึกสถิติกับต้นสังกัดสุดท้ายอย่าง พอร์ธมัธ ไว้ที่ 167 นัดยิง 28 ประตูรวมทุกรายการ

ขณะที่ผลงานในนามทีมชาติ นอกจากแจ้งเกิดใน โอลิมปิก 1996 แล้ว คานู เริ่มติดทีมชาติไนจีเรียชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 1994 และอยู่รับใช้ทัพ อินทรีมรกต ยาวนานถึง 17 ปีก่อนประกาศเลิกเล่นทีมชาติในปี 2011 หลังจากลงรับใช้ชาติไป 86 นัดตะบัน 12 ประตู

โดยชื่อของ คานู เรียกได้ว่ายังคงติดตราตรึงอยู่ในความทรงจำของเหล่าบรรดาแฟนบอลในยุค 90 ดาวยิงรายนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันและความดุดันภายในตัว ด้วยส่วนสูงทะลุเพดาน แต่กลับมีสเต็ปเท้าที่ยอดเยี่ยม  นั่ทำให้ คานู เป็นที่หวาดผวาของเหล่าบรรดากองหลัง ที่ดูเหมือนว่าจะคาดเดาการเล่นของหัวหอกไนจีเรียรายนี้ไม่ออก

ขุมทรัพย์แห่งวงการฟุตบอลของทวีปแอฟริกา

image 19 - ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก

โดยแม้ว่า คานู อาจไม่ใช่กองหน้าประเภทโป้งปิดบัญชี หรือมือสังหารระดับพระกาฬ แต่หากมองไปที่ประโยชน์ที่เพื่อนร่วมทีมและต้นสังกัดจะได้รับ ดูเหมือนว่า คานู น่าจะเป็นกองหน้าที่มีประโยชน์มากกว่าการผลิตสกอร์ เพราะหากมองไปสถิติการแอสซิสต์ คานู ก็มีตัวเลขที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน ในการจ่ายถวายพานให้เพื่อนร่วมทีมยิงประตู แต่หากถึงเวลาคับขัน หรือจังหวะที่ต้องพึ่งพาความเฉียบขาด คานู ก็ทำได้อย่างไม่มีเขอะเขิน

ดั่งเช่นประตูชัยที่เจ้าตัวยิงใส่ บราซิล ก่อนจะสถาปนาตัวเองคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้กับ ไนจีเรีย ได้อย่างยิ่งใหญ่ใน โอลิมปิก 1996 แถมยังติดทีมยอดเยี่ยมของโอลิมปิกปีนั้นบวกกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา มาครองได้ด้วย นั่นคือ ช่วงเวลาอันสดใสของ คานู อย่างแท้จริง

นอกจากนี้จากการที่เจ้าตัวเคยถูกตรวจพบภาวะหัวใจบกพร่องขั้นรุนแรง โดยหลังจากที่ คานู เข้ารับการรักษาและฟื้นตัวกลับมา เจ้าตัวก็ริเริ่ม ก่อตั้งมูลนิธิ Kanu Heart Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่อุทิศตนเพื่อช่วยเหลือเด็กเล็กชาวแอฟริกันที่มีภาวะหัวใจบกพร่อง

ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่านอกจาก คานู จะเป็นนักเตะผู้เป็นที่รักและเป็นผู้ทรงอิทธิพลของชาวไนจีเรียแล้ว เจ้าตัวยังเปรียบเสมือนขุมทรัพย์แห่งวงการฟุตบอลของทวีปแอฟริกา ในฐานะตำนานนักฟุตบอล รวมทั้งการเป็นผู้ให้ ที่ยังคงสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับเด็กที่มีพรสวรรค์มากมายในไนจีเรียและรวมทั้งทวีปแแอฟริกา มาแล้วมากมาย

Betting Olympic 2024 Thailand 912x1024 - ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก

ดูราคาต่อรอง โอลิมปิก 2024

ช่องทางการติดตาม

LINE - ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก
FB - ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก
YT - ย้อนรอย ไนจีเรีย ช็อคโลก คานู และชาวคณะ ผงาดครองจ้าวลูกหนังโอลิมปิก

Share: