กำเนิดกีฬา MMA
หลายคนอาจจะเคยได้ยินชื่อกีฬา MMA กันมาบ้าง แต่เชื่อว่าคงยังไม่รู้จักกีฬาชนิดนี้อย่างจริงจัง วันนี้เราจะพามาทำความรู้จักที่มาของกีฬาชนิดนี้กัน
MMA หรือ Mixed Martial Arts คือ ศิลปะการต่อสู้แบบผสม เป็นการนำเอาการต่อสู้หลากหลายชนิดมาผสมผสานกันไว้ โดยมีรูปแบบหลักคือ มวย, มวยไทย, มวยปล้ำ, บราซิลเลี่ยน ยิว ยิตสู, ยูโด และ คาราเต้
MMA นั้นมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ในยุคสมัยกรีกโบราณโน้นแล้ว เหล่านักสู้กราดิเอเตอร์ที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหู ได้จำลองการต่อสู้ในสนามรบสู่สนามที่ชื่อว่าโคลอสเซี่ยม จึงถือว่านี่คือการกำเนิดครั้งแรกของ MMA
ซึ่งในปัจจุบัน MMA ก็ได้รับความนิยมแพร่หลายกันมากขึ้น มีหลากหลายรายการให้ร่วมแข่งขัน การต่อสู้ MMA เหมือนเป็นสนามประลองสำหรับผู้ที่อยากต่อสู้ในวิชาที่แตกต่างสาขา เหมือนเป็นความท้าทายอีกขั้นของนักสู้จากทุกสำนัก
บางคนเข้าใจว่า MMA เป็นกีฬาที่ดิบและป่าเถื่อน ไม่มีความเป็นกีฬา ต่อยกันจนตายไปข้างนึง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันเป็นความเข้าใจที่ผิดถนัด
การแข่งขันกีฬา MMA หรือ Mixed Martial Arts
การต่อสู้ MMA เองมีกติการองรับเหมือนกีฬาอื่น ๆ ทั่ว ๆ ไป แตกต่างกับพวกมวยตรงที่จะไม่มีการนับ 1-10 เมื่อโดนต่อยล้ม โดยจะตัดสินแพ้ชนะจากหลายส่วน ทั้งคะแนน จับล็อคให้ยอมแพ้ หรือหากนักกีฬาไม่ไหวก็สามารถตบพื้นขอยอมแพ้ได้ ข้อดีคือนักกีฬาจะมีบาดแผลบาดเจ็บสะสมน้อยมาก เพราะไม่ต้องลุกขึ้นมาสู้ต่อเมื่อล้มโดนนับ
การแข่งขัน MMA ครั้งแรกของโลกและยังคงได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 จนถึงตอนนี้ คือ Ultimate Fighting Championship หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า UFC ซึ่งรายได้ของนักกีฬารายการนี้ไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ค่าตัวของพวกท๊อป ๆ ต่อยนัดเดียวรายได้เข้ากระเป๋าเป็น 10 กว่าล้านบาท ฟังแล้วก็ต้องอิจฉาไปตาม ๆ กัน
จริง ๆ แล้วยังมีรายการแข่งขัน MMA อีกหลายรายการมากมายทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Shooto, One FC หรือ KTMMA
โดยเฉพาะในรายการ KTMMA หรือ Kick-Thai Mixed Martial Arts ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศอังกฤษและทวีปเอเชียขณะนี้ ที่พึ่งได้เซ็นสัญญากับ 188BET ในการเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขัน KTMMA อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเริ่มสนับสนุนครั้งแรกในการแข่งขัน KTMMA 4 ที่จะจัดขึ้น ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในวันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม 2558 นี้
ซึ่งกติกาของ KTMMA จะแตกต่างจากรายการอื่นอยู่นิดหน่อย เพื่อทวีคูณความมันส์และความสนุกยิ่งขึ้น นักสู้จะแข่งทั้งหมด 2 ยก ยกละ 5 นาที ยกแรกจะใช้กติกาคล้าย ๆ มวยไทย แต่ไม่สามารถคลุกวงในได้ กรรมการจะจับแยก สามารถยืนต่อยได้แค่นั้น และในยกที่ 2 นักกีฬาจะต้องเปลี่ยนนวมปกติจากยกแรกมาเป็นแก็ปปิ้งโกล์ฟ และในยกนี้จะสามารถปล้ำเหวี่ยงกันได้ที่พื้นสนามตามอัธยาศัย
นี่เป็นกีฬาอีกรายการหนึ่งที่น่าสนใจมาก แต่น่าเสียดายที่ประเทศไทยอาจจะยังไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร เนื่องมาจากกีฬานี้ได้ถูกแบนห้ามแข่งขันในประเทศไทย ว่าแต่ทำไม MMA ถึงได้ห้ามแข่งขันในประเทศไทย ทำไมต้องแบนกีฬานี้ให้ได้ โปรดติดตามได้ในตอนต่อไป
สมัครตอนนี้ รับโบนัสลองฟรี 277 บาทคลิกที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียด
