หลายคนอาจทราบแล้วว่า เอเชียนเกมส์ 2018 ได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม เป็นต้นมา โดยมหรรมกีฬาครั้งนี้อาจจะไม่ได้เป็นที่สนใจหรือคุ้นหูเรามากสักเท่าไหร่ แต่เชื่อเถอะว่าสนุกไม่แพ้บรรดามหกรรมกีฬาอื่น ๆ แน่นอน

และสิ่งที่ทำให้เรายิ่งต้องติดตาม เอเชียนเกมส์ครั้งนี้ เพราะว่ามีประเด็นเด็ด ๆ หลายหัวข้อเหลือเกินให้เราได้พูดถึง ยิ่งเมื่อเราได้เห็นชื่อของนักกีฬาบางคน ยิ่งต้องอ๋อออออออ….. เลยทีเดียว เพราะพวกเขาเองก็ได้มาร่วมมหกรรมกีฬานี้ด้วยเช่นกัน

แต่จะมีใครและประเด็นอะไรบ้าง เราไปอ่านกันได้เลย…. ที่สำคัญอย่าลืมติดตามเชียร์และเอาใจช่วย ทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ด้วยล่ะ ลุ้นให้นักกีฬาทุกคนกวาดเหรียญทองกลับผืนแผ่นดินไทยเราให้เยอะ ๆ ไปเล้ยยยยย !!!!

“ซอน เฮืองมิน” กับเดิมพันเหรียญทอง เลี่ยงเกณฑ์ทหาร

ซอน เฮืองมิน ลุยศึก เอเชียนเกมส์ หลัง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สโมสรต้นสังกัดอนุญาตให้กองหน้าคนเก่งช่วยทีมชาติ เกาหลีใต้ ล่าเหรียญทองใน เอเชียนเกมส์ 2018

ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สโมสรชื่อดังจากพรีเมียร์ลีกอังกฤษประกาศปล่อยตัว ซอน เฮืองมิน ดาวยิงคนเก่งให้มารับใช้ทีมชาติเกาหลีใต้ ในการสู้ศึก เอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย โดยทาง ซอน เฮืองมิน วัย 25 ปี อยู่ในช่วงผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร

ซึ่งหากเขาสามารถพาทีมคว้าเหรียญทองได้ เขาก็จะได้สิทธิไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร ซึ่งการติดทีมชาติเกาหลีใต้ชุดลุยศึกเอเชียน เกมส์ 2018 ครั้งนี้ จะทำให้ ซอน เฮืองมิน พลาดโอกาสลงเล่นรับใช้ สเปอร์ส ประมาณ 4 นัดแรก ในช่วงเปิดฤดูกาล

ส่วนผลงานของทีม เกาหลีใต้ ในเวลานี้ถือว่าอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์อยู่เช่นกัน โดยพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบต่อไปพบกัน อิหร่าน และหากเอาชนะและผ่านไปได้ ก็มีสิทธิ์พบได้ทั้ง ปาเลสไตน์ ซีเรีย ฮ่องกง และ อุซเบกิสถาน (แชมป์เก่า) ซึ่งบอกเลยว่าการหวังจะคว้าเหรียญทองนี้ของ ซอน เฮืองมิน ต้องทำงานอย่างหนักมากจริง ๆ หากหวังจะได้มาครอง

จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อ “เกาหลี” รวมเป็นหนึ่งเดียว

จับตาช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของสัญญาณแห่งสันติภาพอีกครั้ง ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งนี้ เมื่อสองชาติเกาหลีจะร่วมเดินลงสนามในพิธีเปิดด้วยกัน ภายใต้ “ผืนธงคาบสมุทรเกาหลี หรือ Korea Unification” และตัวแทนประเทศ “เกาหลี” พร้อมๆ 3 ประเภทกีฬาที่จับมือลงสนามในทีมเดียวกันด้วย

ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งนี้  3 ประเภทชนิดกีฬาที่สองเกาหลี จะลงสนามเป็นทีมเดียวกัน คือ “บาสเก็ตบอลหญิง เรือพาย และเรือแคนู” โดยประเดิมนัดแรกที่ บาสเก็ตบอลหญิง และเป็นนัดประเดิมสนามของทีมเกาหลี ที่รวมกันภายใต้ธงคาบสมุทรเกาหลี เมื่อวันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยทีมบาสหญิงเกาหลี ถล่มเจ้าภาพขาดลอย 108-40 แต้ม

NBA ไฟเขียว “คลาร์กสัน” เล่นเอเชียนเกมส์ให้กับ ฟิลิปปินส์

บาสเก็ตบอลชาย ถือเป็นชนิดกีฬาที่มีเรื่องราวให้พูดถึงมากมายในมหกรรมกีฬาครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย โดยเฉพาะทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่มีทั้งการประกาศถอนทีมจากการแข่งขัน ก่อนตัดสินใจกลับมาลงแข่งใหม่ รวมถึงเรียกเสียงฮือฮาด้วยการเรียกตัว จอร์แดน คลาร์กสัน ผู้เล่นจากทีม คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส หวังให้ประเดิมสนามในนามทีมชาติเป็นครั้งแรก

แม้ทาง NBA จะไม่อนุมัติในตอนแรก แต่ที่สุดแล้วพวกเขาก็เปลี่ยนใจยอมเปิดไฟเขียว นั่นทำให้ คลาร์กสัน จะได้ลงเล่นให้กับชาติตามเชื้อสายของคุณแม่เป็นครั้งแรกในรายการนี้ทันที

ซึ่งเขาพลาดลงช่วยทีมในเกมแรกกับ คาซัคสถาน แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาที่จะทำให้ ฟิลิปปินส์ พลาดเก็บชัยในเกมแรก และเอาชนะไปได้แบบสบาย ๆ  96 –  59 และการันตีเข้าสู่รอบต่อไปแน่นอนแล้วและ คลาร์กสัน น่าจะได้ลงช่วยทีมในเกมต่อไปกับ จีน

ส่วนผลการแข่งขันจะเป็นอย่างไร จอร์แดน คลาร์กสัน จะมีส่วนช่วยทีมและเล่นได้ดีมากแค่ไหน เราคงได้เห็นกัน…..

“ทัพช้างศึก” ตกรอบแรกเอเชียนเกมส์ในรอบ 24 ปี

สำหรับทีมชาติไทย ถูกจัดอยู่ใน กลุ่มบีร่วมกับ อุซเบกิสถาน , บังคลาเทศ , กาตาร์ สำหรับเงื่อนไขการเข้ารอบ ในส่วนของฟุตบอลชายมีทีมเข้าร่วมแข่งขัน 24 ทีม แบ่งเป็น 6 กลุ่ม ทีมที่ได้คะแนนมากที่สุดเป็นอันดับ 1 และ 2 ของกลุ่ม รวมถึงอันดับ 3 ที่มีผลงานที่ดีที่สุด 4 ทีม จะผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายต่อไป

ผลงานในปีนี้ของพวกเขาต้องบอกเลยว่าน่าเสียดายเอาจริง ๆ เนื่องจากไม่สามารถควานหาชัยชนะได้เลยแม้แต่นัดเดียว โดยทำได้เพียงเสมอ 2 และ แพ้ 1 จบอันดับที่ 3 ของกลุ่ม การผ่านเข้ารอบต่อไปนั้นก็ริบหลี่จนแถบมองไม่เห็น ซึ่งต้องไปลุ้นเป็นทีมอันดับ 3 ที่ทำผลงานได้ดีที่สุดอีก

แต่ปาฏิหาริย์ก็ไม่ได้เกิดขึ้น เพราะว่าผลจากอีกกลุ่มนั้นไม่เป็นใจให้กับ ทัพช้างศึกไทย และต้องตกรอบ เอเชียนเกมส์ กลับบ้านไปก่อน ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 24 ปีด้วยที่ ทีมฟุตบอลไทย ต้องตกรอบแรกในศึกนี้

โดยทางสมาคมฯ เองก็ได้พูดถึงผลงานของ ทีมชาติไทย ว่าเป็นไปในทางที่ไม่ดีนัก แต่การปลดโค้ชอย่าง โค้ชโย่ง วรวุฒิ ศรีมาฆะ เองก็ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีนัก อีกทั้งทาง โค้ชเฮง วิทยา เลาหะกุล ประธานฝ่ายเทคนิคฯ ยังเห็นพ้องต้องพวกว่า โค้ชโย่ง เองก็ทำได้ดีแล้ว และอาจต้องใช้เวลาอีกสักพักในการทำทีมชาติไทยให้แข็งแกร่งต่อไป

“ทัพชบาแก้ว” 0 แต้ม แต่เข้ารอบต่อไป !!!

เอเชียนเกมส์ สำหรับฟุตบอลหญิงเป็นเหมือนอาถรรพ์ เพราะที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่มีประวัติการเข้าร่วมแข่งขัน ฟุตบอลหญิงไทยเรายังไม่เคยชนะเวียดนามได้เลย มาครั้งนี้ ก็ยังมาอยู่กลุ่มซีด้วยกัน ซึ่งมีญี่ปุ่นอีกทีม การเอาชนะญี่ปุ่น ทีมอันดับ 6 ของโลกคงเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ดังนั้น การหวังเข้ารอบต่อไปถือว่าเป็นเรื่องที่ยากพอสมควร

ซึ่งผลออกมาก็ต้องเศร้ายิ่งนัก เมื่อทัพชบาแก้ว จบรอบแบ่งกลุ่มโดยแข่ง 2 นัดแพ้ 2 นัดมี 0 คะแนน ลูกได้เสีย -3 พ่ายให้ทั้ง ญี่ปุ่น 2-0 และพ่ายต่อ เวียดนาม 3-2 โดยมองจากตรงนี้ ทัพฟุตบอลหญิง คงต้องเก็บกระเป๋ากลับบ้านตามระเบียบ หากแต่ลุ้นให้อีกกลุ่มมีผลเป็นใจ ซึ่งก็ไม่ง่ายนัก

แต่สำหรับกฎการคัดทีมเข้ารอบของฟุตบอลหญิง เอเชียนเกมส์ 2018 คือนำทีมอันดับ 1 และ 2 ของแต่ละกลุ่มเข้ารอบ และ อันดับ 3 ที่ดีที่สุดอีก 2 ทีม

อย่างไรก็ตามเนื่องจากปีนี้มีทีมลงแข่งขัน 11 ทีม และมีหนึ่งกลุ่มที่มีเพียง 3 ทีม (กลุ่ม ซี) คือกลุ่มของทีมชาติไทย นั่นทำให้อันดับ 3 ของกลุ่ม เอ และ บี จะต้องตัดการพบกันกับทีมอันดับสุดท้ายออก และมาวัดที่ประตูได้เสีย

ทีมชาติไทยเองขณะนี้มีประตูได้เสีย -3 ขณะที่ อินโดนีเซีย หากตัดนัดที่ถล่ม มัลดีฟส์ 6-0 ประตูได้เสียของพวกเขาจะอยู่ที่ -4 และ ฮ่องกง เพิ่งเตะไป 1 นัดก่อนวันนี้ ขณะนี้ประตูได้เสียอยู่ที่ -7

อย่างไรก็ตาม วันนี้ ฮ่องกง แพ้ให้กับ เกาหลีเหนือ ไปด้วยสกอร์ 0-8 ส่งผลให้สองนัด ที่ยังไม่ได้เจอกับทาจิกิสถาน อันดับสุดท้าย ประตูได้เสียของพวกเขาอยู่ที่ -15 ส่วนประตูได้เสียของไทย อยู่ที่ -3 และอินโดนีเซีย หากตัดเกมที่ถล่ม มัลดีฟส์ อันดับสุดท้ายออก จะเหลือ -4

ฉะนั้นไม่ว่าผลระหว่าง เกาหลีใต้ กับ อินโดนีเซีย ในกลุ่ม เอ ผลจะเป็นอย่างไร ทีมชาติไทย จะมีผลงานเป็นอันดับ 3 ที่เหนือกว่า ฮ่องกง และจะเป็นหนึ่งในสองทีม ร่วมกับ อินโดนีเซีย ที่จะผ่านเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศอย่างแน่นอน

“วอลเลย์บอลหญิงไทย” จะคว้าเหรียญได้อีกครั้งหรือไม่ ?

เอเชียนเกมส์ มีเหรียญรางวัลเป็นเดิมพัน มีผลต่อตารางรวมเหรียญของทัพนักกีฬาไทย ที่สำคัญหนนี้แต่ละชาติส่ง ชุดใหญ่มาเต็มทีม ต่างจาก 4 ปีที่แล้วไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ ส่งผลให้ทีมหญิงไทยสามารถคว้าอันดับ 3 เป็นเหรียญรางวัลครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าแข่งขัน ส่วนทีมชายได้อันดับ 7

เส้นทาง เอเชียนเกมส์ 2018 ประเภททีมหญิงรอบแรก สาวไทย อยู่กลุ่มเอ ร่วมกับ อินโดนีเซีย (เจ้าภาพ), ญี่ปุ่น, ฮ่องกง และฟิลิปปินส์ ส่วน กลุ่มบี เกาหลีใต้, จีน, ไชนีส ไทเป, คาซัคสถาน, เวียดนาม และอินเดีย รอบแรกหากไม่มีอะไรผิดพลาด สาวไทย น่าจะจบอันดับ 2 ของกลุ่ม

ทะยานสู่รอบ 2 หรือรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยจะนำเอา “อันดับ 1 พบกับ อันดับ 4” และ “อันดับ 2 พบกับ อันดับ 3” รอบนี้คู่ต่อสู้ทีมไทย เป็นไปได้ทั้ง ไชนีส ไทเป, คาซัคสถาน และเวียดนาม เชื่อมั่นในมาตรฐานทีมไทย ไม่พลาดที่จะเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ คาดว่าคงไม่พ้นที่จะเจอสาวหมวยอย่างจีน

แม้จะเป็นงานที่หนักแต่ถึงตรงนี้ทีมไทยเข้าใกล้เหรียญรางวัลมากขึ้น เชื่อว่าสาวไทยใส่เต็มร้อยแน่นอน ที่สำคัญอาจเป็นเอเชียนเกมส์ครั้งสุดท้ายและครั้งแรกของนักกีฬาบางคน

เช่นเดียวกับทีมชาย เส้นทางค่อนข้างวุ่นวาย เพราะมีถึง 6 กลุ่ม “หนุ่มไทย” อยู่กลุ่มอี ร่วมกับ จีน, ศรีลังกา และเวียดนาม ส่วนจะไปในเส้นทางไหนรอบแรกเป็นตัวกำหนด

ดนัย ศรีวัชรเมธากุล ผู้จัดการทีมในชุดนี้ พาทีมกลับมาลงสนามซ้อมอีกครั้ง และเป็นการคุมทีมแข่งขันในเอเชียนเกมส์เป็นครั้งแรก โดยรายการนี้จะได้ ทัดดาว นึกแจ้ง พร้อมกลับมาลงสนามเป็นครั้งแรก

โดยผลงานนัดเปิดสนามของ ทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ในเอเชียนเกมส์ 4 ครั้งหลังสุด ชนะ 2 แพ้ 2 โดย 4 ปีที่ปีที่แล้ว ไทย ประเดิมด้วยการเอาชนะ ญี่ปุ่น ไป 3 – 1 เซต และมาในปีนี้ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ก็เอาชนะ ทีมชาติฟิลิปปินส์ ไป 3-0 เซต ประเดิมชัยนัดแรกในศึก เอเชียนเกมส์ 2018

“ทีมลูกขนไก่” หวังได้เหรียญติดมือ

ทีมนักกีฬาแบดมินตัน มุ่งมั่นที่จะหยิบเหรียญรางวัลเหรียญใดเหรียญหนึ่งให้ได้จากการแข่งขันในครั้งนี้ โดยคู่แข่งสำคัญแน่นอนเวลานี้ คือ ญี่ปุ่น, จีน และเจ้าภาพอินโดนีเซีย ในอดีต 8 ปีก่อนทีมหญิงเราคว้าเหรียญเงินมาได้ ส่วนทีมชายได้เหรียญทองแดง แต่ครั้งที่แล้ว เราไม่มีเหรียญรางวัลอะไรติดมือกลับมาเลย

ดังนั้นในครั้งนี้ จะเป็นโอกาสดีที่เราจะนำเหรียญรางวัลประเภทใดประเภทหนึ่งกลับมาให้ได้ โดยความหวังสูงสุดคงอยู่ที่ทีมหญิง หลังจากคว้ารองแชมป์โลก อูเบอร์ คัพ มาได้ รองลงมาคือ หญิงเดี่ยว และหญิงคู่ ส่วนของชายเดี่ยว ชายคู่ และคู่ผสม น่าจะทำผลงานได้ดีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีปัจจัยหลายอย่าง โดยเฉพาะกองเชียร์ของเจ้าภาพ ที่เคยสัมผัสมาแล้วในกีฬาซีเกมส์ เมื่อ 7 ปีที่แล้วแต่ยังหวังลึกๆ ว่าเราจะสร้างปาฏิหาริย์ได้เหมือนในครั้งนั้นเช่นเดียวกัน

โดยครั้งสุดท้ายที่ นักแบดมินตันไทย คว้าเหรียญรางวัลในประเภทบุคคลในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ต้องย้อนไปถึงการแข่งขันครั้งที่ 15 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ในปี 2006 จาก สุดเขต ประภากมล-สราลีย์ ทุ่งทองคำ ที่ได้เหรียญทองแดงในประเภทคู่ผสม ส่วนเหรียญทองเดียวที่ไทยได้จากการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ คือ ทีมชายในครั้งที่ 5 เมื่อปี ค.ศ. 1966

“เจ้าภาพ อินโดนีเซีย” เล่นเข้าให้แล้ว…

หากหวังจะได้ความสำเร็จ ศักยภาพนักกีฬาอย่างเดียวคงไม่พอ แต่เล่ห์เหลี่ยมเล็กๆ น้อยๆ ก็อาจจะเป็นคีย์แมนสำคัญ ที่นำพาพวกเขาสู่ความสำเร็จ เพราะพวกเขามีเป้าประสงค์ที่จะคว้าความสำเร็จ และไม่ขายหน้าชาวเอเชีย ดังนั้น อิเหนาจึงต้องวางกลยุทธ์บางอย่าง

ทีมฟุตบอลชายเวียดนาม เป็นชาติล่าสุดที่ต้องเจอกับปัญหาความไม่พร้อมของ อินโดนีเซีย เจ้าภาพจัด เอเชียนเกมส์ 2018 หลังจากโดนจัดให้ไปฝึกซ้อมที่ สนามบาบิก สเตเดี้ยม ซึ่งห่างจากโรงแรมที่พักของนักเตะถึง 50 กิโลเมตร จนทำให้ พาร์ค ฮาง โซ กุนซือชาวเกาหลีใต้ของเวียดนาม ต้องติดต่อไปยังบริษัท ซัมซุง ซึ่งเป็นบริษัทชาติเดียวกับเขาเพื่อขอร้องให้หาสนามซ้อมให้

แต่ปรากฏว่า ถึงแม้จะได้สนามที่ใกล้กับโรงแรมที่พัก แต่สภาพสนามกลับไม่มีหญ้าเลย ทำให้ พาร์ค ฮาง โซ ตัดสินใจให้ลูกทีมซ้อมในสนามหญ้าเทียมแทน ซึ่งเรื่องดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับทัพนักเตะเวียดนามเป็นอย่างยิ่ง

ไม่ปฏิเสธว่า ในฐานะเจ้าภาพต้องชิงความได้เปรียบบ้าง แต่ก็ขอให้อย่ามากเกินพอดีหรือน่าเกลียดจนเกินไป เหมือนกับในซีเกมส์ 2017 ที่มาเลเซีย เพราะนานๆ ครั้ง อาเซียนจะได้รับหน้าจัดการแข่งขัน ก็ขออย่าให้ชาวเอเชียเขามีภาพจำว่า อาเซียน = โกง เท่านี้ก็พอครับ