ปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบ 2 เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งการซื้อขายในช่วงเวลานี้ โดยปกติแล้วจะไม่ค่อยมีการย้ายทีมที่สร้างความฮือฮามากนัก แต่สำหรับตลาดซื้อขายรอบที่ผ่านมา

เรียกได้ว่าคึกคักพอสมควร โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวของทัพ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีการปล่อยตัวรุกออกจากทีมถึง 2 ราย ประกอบไปด้วย มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าชาวอังกฤษ ที่ถูกปล่อยไปให้ แอสตัน วิลล่า ในรูปแบบการยืม เช่นเดียวกับแนวรุกบราซิเลียนอย่าง อันโตนี่ ที่ถูก เรอัล เบติส ในศึกลา ลีกา ยืมตัวไปร่วมทีม

อนาคตของ แรชฟอร์ด ขึ้นอยู่กับฟอร์มที่ แอสตัน วิลล่า

สำหรับ แรชฟอร์ด วัย 27 ปี เคยเป็นกำลังสำคัญของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ แต่ในฤดูกาลนี้เจ้าตัวไม่ได้ลงสนามนับตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2024 ซึ่งเป็นเกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ วิคตอเรีย เปลเซน ในศึกยูฟ่า ยูโรปา ลีก 2-1 อย่างไรก็จตาม ในระยะหลัง แรชฟอร์ด ไม่ได้ลงสนามเลย จาก 12 เกมหลังสุดรวมทุกรายการ หรือราวๆ 6 สัปดาห์ ภายใต้การคุมทีมของ รูเบน อโมอรีม

ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้อนาคตของเจ้าตัวในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สั่นคลอน ท่ามกลางกระแสข่าวเรื่องการย้ายทีม

รายงานจาก The Guardian ระบุว่าทั้ง อโมริม และ แรชฟอร์ด ไม่ได้พูดคุยกันเป็นการส่วนตัวอีกต่อไป โดยอโมริมจะสื่อสารกับแรชฟอร์ดเฉพาะเมื่อพูดกับทีมโดยรวมเท่านั้น โดยหลังจบเกมกับ ฟูแล่ม ช่วงปลายเดือนมกราคม รูเบน อโมริม ได้ตั้งคำถามถึงทัศนคติและความมุ่งมั่นของ แรชฟอร์ด พร้อมให้สัมภาษณ์แบบขวานผ่าซากว่า โค้ชผู้รักษาประตูของทีม ยังมีแรงกระตุ้นและแรงกระหายมากกว่าลูกทีมรายนี้เสียอีก

และแม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีรายงานว่า แรชฟอร์ด พร้อมจะทำทุกวิถีทางเพื่อกลับมาอยู่ในทีมให้ได้ แต่ความสัมพันธ์ระหว่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ รูเบน อโมริม ผู้จัดการทีม มีความตึงเครียดอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

แนวรุกอาวุธครบมือของกุนซือ อูไน อเมรี

ขณะเดียวกัน แอสตัน วิลล่า ที่กำลังมองหากองหน้าคนใหม่หลังจากปล่อย จอน ดูราน ไปให้กับ อัล นาสเซอร์ ในลีกของ ซาอุดิอาระเบีย ก็พร้อมที่จะปลุกเสก แรชฟอร์ด ให้กับสู่ฟอร์มอันยอดเยี่ยมอีกครั้ง โดยมี อูไน อเมรี เป็นผู้ขันอาสาเค้นฟอร์ม แรชฟอร์ด กลับมา

ดังนั้นการย้ายทีมครั้งนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอาชีพของ แรชฟอร์ด เพราะหากเขาสามารถปรับตัวและเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ จะเป็นประโยชน์ทั้งต่อเขาเองและ แอสตัน  วิลล่า ในช่วงเวลาที่เหลือของฤดูกาล ดังนั้นการย้ายไป แอสตัน วิลล่า อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ แรชฟอร์ด

เนื่องจากเขาจะได้ร่วมงานกับเพื่อนใหม่ในแนวรุกของ แอสตัน วิลล่า ไม่ว่าจะเป็น โอลี วัตกิ้น ,มอร์แกน โรเจอร์ ,จาค็อบ แรมซีย์ และ ลีออน ไบลีย์ รวมทั้ง ดอนเยล มาเล่น นอกจากนี้ยังมีนักเตะใหม่อย่าง อันเดรส การ์เซีย และ มาร์โก อเซนซิโอ ที่ย้ายมาจาก ปารีส แซงต์ แชร์กแมง อีกหนึ่งราย

อันโตนี่ 100 ล้านยูโร แต่กลับโชว์ไม่ออก

ขณะที่อีกหนึ่งผู้เล่นที่ถูกปล่อยยืมตัว เมื่อช่วงเปิดตลาดซื้อขายรอบ 2 เดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็คือ อันโตนี่ ปีกบราซิเลียนเจ้าของค่าตัว 100 ล้านยูโร ที่ถูกปล่อยให้กับ เรอัล เบติส ยืมตัวไปใช้งานจนจบฤดูกาล ซึ่ง อันโตนี่ ได้ลงประเดิมสนามให้กับ เบติส ไปแล้ว 2 เกม ซึ่งผลปรากฏว่า แข้งจอมลีลา สามารถร่ายฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมคว้าตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยม 2 เกมติดต่อกัน ในการลงเล่นในสีเสื้อ เบติส

อันโตนี่ ยังไม่สามารถปรับตัวได้เลย นับตั้งแต่ย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 100 ล้านยูโรเมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2023 โดยลงสนามไป 96 นัดยิง 12 ประตูรวมทุกรายการ และ ได้ “แมน ออฟ เดอะ แมตช์” แค่ครั้งเดียว ซึ่งเกิดขึ้นในเกมที่ “ปีศาจแดง” บุกสอย น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 2-0 เมื่อเดือน 16 เมษายน ปี 2023

โดยการเข้ามาของ รูเบน อโมริม ในช่วงกลางฤดูกาล ส่งผลกระทบกับโอกาสของ อันโตนี่ โดยตรง เนื่องจากกุนซือชาวโปรตุกีส ใช้ระบบกองหลัง 3 ตัว ทำให้โอกาสการลงสนามของ อันโตนี่ น้อยลงกว่าเดิม ก่อนที่ทัพ ปีศาจแดง จะตัดสินปล่อย อันโตนี่ ไปอยู่กับ เรอัล เบติส เมื่อช่วงเปิดตลาดรอบ 2 เดือนมกราคมที่ผ่านมา ด้วยรูปแบบสัญญายืมตัว

ดังนั้นย้ายทีมของ อันโตนี่ จึงถือเป็นการตัดสินใจที่มีความสำคัญสำหรับอนาคตของเจ้าตัว รวมถึงสถานะของเขาที่ แมนฯยูไนเต็ด ด้วย

ปล่อยของลีกสเปน ลงเล่น 2 นัด จัด 2 MOM

ซึ่งดูเหมือนว่าปีกวัย 22 ปี น่าจะมีความสุขกับการย้ายทีมในครั้งนี้ หลังจากที่ทำผลงานได้น่าประทับใจไล่ตั้งแต่เกมที่ เบติส เปิดบ้านเสมอ แอธเลติก บิลเบา 2-2 ที่ อันโตนี่ คว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง รวมถึงเกมลา ลีกา สเปน นัดล่าสุดที่แม้ว่า เรอัล เบติส จะแพ้ เซลต้า 3-2 เมื่อวันเสาร์ที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา

แต่ปีกบราซิล วัย 22 ปี ก็สามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ ให้ เบติส ด้วยการยิงประตูแรกให้กับทีม ตั้งแต่นาทีที่ 10 ของเกม พร้อมกับคว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครอง หลังจบเกม ปีกเจ้าของค่าตัว 100 ล้านยูโร กล่าวถึงผลงานส่วนตัว และภาพรวมของทีม พร้อมกับโพสต์แคปชั่นในไอจีแอคเคาท์ของตัวเองว่า

“มันลำบากมาก เราเริ่มเกมได้ดีด้วยการยิงได้ 2 ประตู แต่สภาพจิตใจของเราเปลี่ยนไป เราต้องโฟกัสเกมตลอด 90 นาที เราต้องทำงานให้หนักขึ้น และมองหา 3 แต้มให้ได้มันเป็นเรื่องปกติที่นักเตะทุกคนจะโมโหหลังจาก แพ้ เซลต้า บีโก้ เราไม่มีเป้าหมายอื่น เราต้องโฟกัสการคว้าชัยชนะเท่านั้น”

“มันเป็นวันที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย ดีใจที่ยิงประตูแรกของตัวเองให้ เบติส ได้ แต่เศร้าไปกับผลลัพธ์หลังจากเรานำก่อน เราสมควรได้มากกว่านี้ เราต้องการมากกว่านี้ เราจะทำงานหนักกันต่อเพื่อคว้าชัยชนะและแก้ไขความผิดพลาดของเราในเกมหน้า”

ด้าน มานูเอล เปเนกรินี กุนซือของ เรอัล เบติส ก็ออกมากล่าวถึงผลงานอันร้อนแรงของปีกแซมบ้า รายนี้ว่า

“ผมคิดว่าการประเดิมสนามของ อันโตนี่ เป็นไปในทางบวกมาก ๆ อันโตนี่ เป็นผู้เล่นที่มีคุณภาพ ผมคุยกับเขาก่อนเกม ผมคิดว่าผู้เล่นที่ดีไม่จำเป็นต้องแสดงทักษะด้วยลูกฟุตบอลตลอดเวลา เขาต้องเล่นให้ดี ทำผิดพลาดให้น้อยที่สุด และทำสองหรือสามอย่างที่สำคัญ นั่นคือ ยิงประตู จ่ายบอลสวย ๆ เปิดบอลดีๆ ผมคิดว่าวันนี้เขามีส่วนร่วมกับมากพอสมควร เขาเพิ่งมาถึงเมื่อ 2-3 วันก่อน และผมคิดว่า อันโตนี่ จะช่วยพวกเราได้มาก”

ไปต่อหรือพอแค่นี้ แฟนผีรู้ดี อันโตนี่ ไหวไหม

สำหรับ อันโตนี่ เหลือสัญญาในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไปจนถึงกลางปี 2025 เท่านั้น ซึ่งมีโอกาสสูงที่ อันโตนี่ จะไม่ได้รับการต่อสัญญาออกไป หลังจากที่ไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้ ทั้งในยุคของ เอริค เทน ฮาก ต่อเนื่องมาจนถึงยุคของ รูเบน อโมริม

โดยสถานการณ์ในอันดับตารางคะแนน เรอัล เบติส รั้งอันดับ 11 ของตาราง เก็บไป 29 จากการลงสนาม 23 เกม โดยโปรแกรมนัดต่อไปคือการ บุกไปเยือน เกนค์ ในรายการ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก วันพฤหัสที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ ตามเวลาประเทศไทย การยืมตัว อันโตนี่ ของ เรอัล เบติส อาจจะเป็นการฟื้นฟูฟอร์มการเล่นและสภาพจิตใจของนักเตะรายนี้อีกครั้ง

รวมทั้งยังได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง อันโตนี่ จะมีโอกาสได้แสดงศักยภาพที่อาจถูกจำกัดเมื่ออยู่ในทีมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งการย้ายไปเล่นที่ เรอัล เบติส อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ อันโตนี่ ในการพิสูจน์ตัวเอง 

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันจากต่างประเทศ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค