กีฬาฟุตบอล

แมนฯ ยู ปลุก ลิเวอร์พูล ตื่นจากฝัน ทำทุกอย่างขวาง หงส์แดง คว้าแชมป์ลีก

8 4 6777 - แมนฯ ยู ปลุก ลิเวอร์พูล ตื่นจากฝัน ทำทุกอย่างขวาง หงส์แดง คว้าแชมป์ลีก

จบลงไปแล้วสำหรับศึกแดงเดือดครั้งสุดท้ายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมันที่ประกาศอำลาการคุมทัพ หงส์แดง หลังจบฤดูกาลนี้ โดยเกม แดงเดือด หนล่าสุดที่สนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเสมอกับ ลิเวอร์พูล 2-2 พร้อมกับกระชากทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ลงมาเป็นอันดับที่ 2 ของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก ในขณะที่เหลืออีก 7 เกมสุดท้ายของฤดูกาล

โดยสถิติที่น่าสนใจในการพาทีมมาดวลกันระหว่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ กับ เอริค เทน ฮาก ผลปรากฏว่ากุนซือชาวเยอรมัน พาทีมชนะ ทีมของกุนซือชาวดัตช์ได้เพียงหนเดียว จากการพบกันทั้งหมด 5 ครั้ง ซึ่งครั้งเดียวที่ คล็อปป์ เอาชนะ เทน ฮาก ได้ก็เป็นเกมที่มีสกอร์ติดอยู่ในความทรง 7-0 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว

แพ้ใครแพ้ได้ แต่ห้ามแพ้ ลิเวอร์พูล

image 17 - แมนฯ ยู ปลุก ลิเวอร์พูล ตื่นจากฝัน ทำทุกอย่างขวาง หงส์แดง คว้าแชมป์ลีก

นอกจากนี้ เอริค เทน ฮาก ยังไม่เคยพาทีมแพ้ ลิเวอร์พูล คาบ้านเลยแม้แต่เกมเดียว ประกอบไปด้วยเกมเปิดบ้านเชือด หงส์แดง 2-1 เมื่อท้ายฤดูกาลที่แล้ว ก่อนจะเขี่ย ลิเวอร์พูล ตกรอบ เอฟเอ คัพ เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา ตลอดจนเกมล่าสุดที่เปิดบ้านทำได้แค่ “เกือบ” เอาชนะทีมดังจากเมอร์ซีย์ไซด์ แถมยังนับเป็นครั้งแรก

นับตั้งแต่ฤดูกาล 2017/18 ที่ ลิเวอร์พูล ไม่สามารถเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทั้งฤดูกาล และหากมองไปที่ผลงานโดยรวมของ เป็นเปอร์เซนต์ เอริค เทน ฮาก พาทีมเก็บชัยชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้มากถึง 71.7 เปอร์เซนต์ นับเป็นสถิติที่ดีที่สุดในบรรดาผู้จัดการถาวรของทัพ ปีศาจแดง เลยทีเดียว

หลังจบเกม เอริค เทน ฮาก ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงผลงานของทัพ ปีศาจแดง รวมไปถึงสถานการณ์ในอันดับตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ว่า

“มันเป็นอารมณ์ที่หลากหลาย ในมุมหนึ่งผมผิดหวังที่เราทำแต้มหลุดมือไปถึง 7 แต้มใน 1 สัปดาห์ แต่เราต้องโทษตัวเองที่ทำผิดพลาดไม่น่าให้อภัยตัวเอง แต่ในอีกมุมผมก็ภูมิใจมากกับความพยายามของลูกทีม คุณคงได้่เห็นว่าพวกเขาต่างพยายามกันแล้ว และศักยภาพในทีมเรานั้นก็น่าทึ่งมากจริงๆ

ส่วนตำแหน่งในลีกเราจะสู้ต่อไปและเราต้องทำแบบเดียวกันและเรียนรู้จากช่วงเวลาต่างๆ เกมกับเบรนท์ฟอร์ดเป็นผลงานที่แย่ที่สุดของเรา เราไม่สมควรที่จะชนะที่นั่น”

กลับมาที่รายละเอียดที่น่าสนใจในเกมแดงเดือดหนล่าสุดที่ก่อนเกมทัพ ปีศาจแดง มีปัญหาสารพัดโดยเฉพาะผู้เล่นในตำแหน่งปราการหลังที่พากันได้รับบาดเจ็บกันเกือบยกแผง ทำให้ เอริค เทน ฮาก จำเป็นต้องส่ง วิลลี่ กัมบาล่า ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงคู่กับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ จนทำให้แฟนๆเสียวไส้ว่าแนวรับดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสรายนี้อาจจะเป้าหมายการเล่นงานของทัพ หงส์แดง

วิลลี่ กัมบาล่า แนวรับวัย 19 กับการแจ้งเกิดในแดงเดือด

image 18 - แมนฯ ยู ปลุก ลิเวอร์พูล ตื่นจากฝัน ทำทุกอย่างขวาง หงส์แดง คว้าแชมป์ลีก

อย่างไรก็ตาม กัมบาล่า วัย 19 ปีกลับเล่นได้อย่างแข็งแกร่ง แม้ว่าอาจจะยังขาดประสบการณ์ แต่ผลงานโดยรวมถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียวจากแพสชั่นที่เด็กคนนี้มี เสียบเป็นเสียบ โดนเป็นโดน แม้เสียประตูและต้องแบ่งแต้ม แต่แดงเดือดครั้งแรกในวัย 19 ปี กัมบาล่า ทำมันได้อย่างยอดเยี่ยม และถือว่า “สอบผ่าน” เลยทีเดียว และนี่คือตัวเลขสถิติของ วิลลี่ กัมบาล่า ที่ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และลงเล่นครบ 90 นาที ในเกมกับ ลิเวอร์พูล

-อยู่ในสนาม 90 นาที
-ผ่านบอลสำเร็จ 29 จาก 35 ครั้ง
-ผ่านบอลแม่นยำ 83 เปอร์เซนต์
-เคลียร์บอล 3 ครั้ง
-แย่งบอล 2 ครั้ง
-เข้าปะทะ 1 ครั้ง
-ดวลภาคตัวต่อตัวชนะ 2 จาก 3 ครั้ง
-ดวลลูกกลางอากาศชนะ 1 จาก 1 (100%)

จากผลงานอันน่าประทับใจของไอ้หนูวัย 19 ปี ส่งผลให้ เอริค เทน ฮาก อดไม่ได้ที่จะออกมาให้สัมภาษณ์ถือผลงานของลูกทีมรายนี้ว่า

“เขาฝึกซ้อมกับเรามาได้ระยะหนึ่งแล้วและก้าวหน้าไปได้ด้วยดี เด็กรุ่นใหม่ก้าวขึ้นมาและเขาก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ความท้าทายสำหรับเขาคือการทำมันอย่างสม่ำเสมอ เป็นโอกาสที่ดีสำหรับเขาและเราที่มีตัวเลือกมากขึ้น”

ค็อบบี้ ไมนู ยิ่งเล่น ยิ่งทรงอิทธิพล

image 19 - แมนฯ ยู ปลุก ลิเวอร์พูล ตื่นจากฝัน ทำทุกอย่างขวาง หงส์แดง คว้าแชมป์ลีก

นอกจาก วิลลี่ กัมบาล่า ผู้เล่นอีกหนึ่งคนที่กลายเป็น เดอะ แบก ของทัพ ปีศาจแดง แบบเต็มตัวไปแล้ว นั่นก็คือ ค็อบบี ไมนู ไอ้หนูมหัศจรรย์วัย 18 ปีที่ยิงประตูสุดสวยเป็นประตูที่ 2 ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกมแดงเดือด และนับเป็นกเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่อายุน้อยที่สุดที่ทำประตูใส่ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก

การเติบโตแบบก้าวกระโดดของ ค็อบบี้ ไมนู คงเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จบฤดูกาลนี้แบบไม่ขาดทุน กับฟอร์มที่สม่ำเสมอ และโดดเด่นกว่าใครในแต่ละเกม แถมยังถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ๋ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งที่หากย้อนไปในช่วงต้นฤดูกาล ก็คงไม่มีใครคิดว่า ไอ้หนูไมนู จะมาไกลได้ถึงเพียงนี้ เพียงแค่ระยะเวลาไม่ถึงป

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเกม แดงเดือด หนล่าสุด ไมนู จะยิงประตูสุดสวยใส่ ลิเวอร์พูล และนับเป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวยิงใส่ทัพ หงส์แดง แต่สำหรับ ไมนู แล้วเขามองว่าการคว้า 3 ของทัพ ปีศาจแดง เป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าการยิงประตูของตนเอง โดย ไมนู ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง สกาย สปอร์ต สื่อดังของอังกฤษ หลังจบเกมว่า

“มันเป็นความรู้สึกอันน่าเหลือเชื่อในการยิงประตูได้ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่ท้ายที่สุด เราก็ไม่ได้เดินออกมาพร้อม 3 แต้ม ดังนั้นผมก็ไม่ค่อยมีความสุขเท่าไร”

สำหรับสถิติของ ไมนู ในเกม แดงเดือด กับ ลิเวอร์พูล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
-อยู่ในสนาม 84 นาที

-สัมผัสบอล 36 ครั้ง
-ผ่านบอลสำเร็จ 14 จาก 18 ครั้ง
-เลี้ยงบอลผ่าน 2 จาก 3 ครั้ง
-ดวลภาคพื้นชนะ 8 จาก 9 ครั้ง
-บล็อกลูกยิง 2 ครั้ง
-เข้าปะทะ 5 ครั้ง
-ยิง 1 ประตู

ร่างทองของ อ็องเดร โอนาน่า

image 20 - แมนฯ ยู ปลุก ลิเวอร์พูล ตื่นจากฝัน ทำทุกอย่างขวาง หงส์แดง คว้าแชมป์ลีก

เกมแดงเดือด เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งเกมที่ อ็องเดร โอนานา ผู้รักษาประตูชาวแคเมอรูน โดนล่อเป้าทะลุ 20 ครั้ง โดยเกมนี้โดน ลิเวอร์พูล ถาโถมโอกาสยิงประตูมากถึง 28 ครั้ง แต่ทว่า โอนานา ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองได้ในระดับที่น่าพอใจ หลังจากที่คว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนมีนาคมของทัพ ปีศาจแดง ก่อนลงเฝ้าเสาในเกมแดงเดือด

แถมสถิติส่วนตัวของ โอนาน่า ยามพบกับ ลิเวอร์พูล เจ้าตัวยังไม่เคยแพ้ หงส์แดง เลยแม้แต่เกมเดียว หลังจากย้ายมาเฝ้าเสาในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

สถิติของ โอนาน่า ในเกมแดงเดือด หนล่าสุด
-ลงสนาม 90 นาที
-สัมผัสบอล 41 ครั้ง
-ผ่านบอลสำเร็จ 18 จาก 31 ครั้ง
-เซฟ 6 ครั้ง
-เซฟในเขตโทษ 3 ครั้ง

เท่านั้นยังไม่พอผลงานของ โอนาน่า ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นผู้รักษาประตูที่เซฟได้มากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ด้วยจำนวนถึง 120 ครั้ง เซฟ นอกจากนี้ แมนฯยู ภายใต้การคุมของ เอริค เทน ฮาก ยังเพิ่มสถิติการโดนล่อเป้าเกือบ 600 ครั้งเข้าไปแล้วในฤดูกาลนี้

เจ้ากรรมนายเวรที่มาในรูปแบบ ทีมคู่ปรับ

image 21 - แมนฯ ยู ปลุก ลิเวอร์พูล ตื่นจากฝัน ทำทุกอย่างขวาง หงส์แดง คว้าแชมป์ลีก

หลังจบเกมแดงเดือดทางฝั่งของ เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าเหตุผลที่ หงส์แดง หล่นลงมาจากตำแหน่งจ่าฝูงเป็นเพราะการจบสกอร์ที่ไม่เฉียบคมกันเอง นอกจากนี้ยังโยนความกดดัน เล่นสงครามจิตวิทยา ด้วยการทั้งวาทะปริศนาที่ระบุว่า ทัพ ปืนใหญ่ จะเอาชนะ แมนฯยู ได้ในการเจอกันช่วงท้ายฤดูกาล

“เราพลาดกันแบบเดิมๆ เราทิ้งโอกาสไป 2-3 ในเกมนี้  และนี่คือเหตุผลที่พาเรามาอยู่ตรงนี้ มี 71 คะแนนอาร์เซน่อล คือทีมที่ดี ซึ่งถ้า แมนฯยู เล่นแบบวันนี้ ในวันที่เจอ อาร์เซนอล ผมคิดว่า อาเซน่อล จะเป็นฝ่ายชนะ มั่นใจเรื่องนี้ 100%”

ถึงตอนนี้แม้ว่าฤดูกาลสั่งลาของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ทัพ หงส์แดง จะมีแชมป์ คาราบาว คัพ ติดไม้ติดมือกันไปแล้ว แต่เชื่อเหลือเกินว่าเป้าหมายสูงสุดของ คล็อปป์ และชาวคณะ หงส์แดง รวมไปถึงแฟนบอล เดอะ ค็อป ก็น่าจะเป็นโทรฟี่แชมป์พรีเมียร์ลีก ที่พวกเขาเคยได้สัมผัสมาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ตามหาก ลิเวอร์พูล มีอันต้องอกหักชวด การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในบั้นปลาย เหล่าบรรดา เดอะ ค็อป ก็น่าจะกลับมานึกถึงเกมแดงเดือดกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พวกเขาทำแต้มหลุดมือไปมากมาย มีโอกาสจบสกอร์หลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายจบไม่ได้กันเอง จนทำให้ ปีศาจแดง ในเวอร์ชั่นของ เทน ฮาก กลายเป็นของแสลงของ ลิเวอร์พูล แถมน่าจะเป็นอุปสรรคและขวากหนามสำคัญ จองเวรจองกรรม ลิเวอร์พูล อยู่ในเวลานี้

เพราะอย่าลืมว่าทัพ ปีศาจแดง ของ เทน ฮาก นี่แหละที่จัดการทุบความฝัน 4 แชมป์ ลิเวอร์พูล ทิ้งไปในซีซั่นนี้ จากการที่พวกเขาเขี่ย หงส์แดง ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ แถมล่าสุดยังเขี่ย ลิเวอร์พูล ตกลงมาจากตำแหน่งจ่าฝูงในช่วงท้ายฤดูกาลด้วย

ในขณะที่สถานการณ์ของ แมนฯ ยู ในตารางคะแนน ณ เวลานี้ พวกเขารั้งอยู่อันดับที่ 6 จากการเก็บ 49 แต้ม โดยมีแต้มตามหลัง สเปอร์ส ทีมอันดับ 4 อยู่ 11 แต้ม ในขณะที่เหลืออีก 7 เกมสุดท้ายของฤดูกาล โดยโปรแกรมนัดต่อไปของ แมนฯ ยู คือการบุกไปเยือน บอร์นมัธ ในวันที่ 13 เมษายนนี้ เวลา 23.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ส่วน ลิเวอร์พูล จะลงสนามในรายการ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรก โดยจะเปิดรัง แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ อตาลันต้า สโมสรจากศึกกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ในวันที่ 11 เมษายนนี้

บอลจากอังกฤษ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค

Share: