“ตลอดช่วงระยะเวลามากกว่า20 ปี ในการคุมทีม นี่ถือเป็นถ้วยรางวัลที่มีความพิเศษมากที่สุดเท่าที่ผมเคยทำได้ มันเป็นแชมป์ที่วิเศษมากๆ มันไม่มีครั้งไหนน่าภาคภูมิใจมากกว่าครั้งนี้อีกแล้ว คืนนี้มันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมากๆ”
จากใจ เจอร์เกน คล็อปป์ หลังเกมนัดชิงในความทรงจำ
“ผมรู้สึกภูมิใจในตัวทุกคนที่มีส่วนร่วมและผลักดันเราได้เป็นอย่างดี ผมภูมิใจในตัวสตาฟฟ์ที่สร้างบรรยากาศที่วิเศษขึ้นมาได้ ซึ่งมันช่วยทำให้เด็กๆ ทำผลงานแบบดีที่สุดของตัวเองได้ ผมภูมิใจในอะคาเดมี่ของเรา, ภูมิใจในตัวโค้ชของผม, ภูมิใจในหลายๆ เรื่อง มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษสุดๆและยากที่จะลืมจริงๆ”
เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ให้สัมภาษณ์ ด้วยการชื่นชมทุกคนในทีม ที่รวมใจกันพาพลพรรค หงส์แดง คว้าโทรฟี่แรกของฤดูกาลในศึก คาราบาว คัพ หรือ ลีก คัพ ของอังกฤษ ด้วยการเอาชนะ เชลซี ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 และนับเป็นสโมสรที่คว้าแชมป์รายการนี้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยจำนวนถึง 10 สมัย
ส่งเด็ก ไม่ได้หมายความว่ายอมแพ้ !
“มีหลายคนที่คิดว่าผมยอมแพ้แล้ว ตอนที่ส่งเด็กๆ ลงไป แต่ไม่เลย มันเป็นเพราะเราต้องการคนที่ยังมีแรง และพวกเขาก็ทำหน้าที่ได้ดี เราร่วมกันสร้างสิ่งนี้ เด็กๆ ฝึกซ้อมกับเรามาเป็นเวลานาน พวกเขารู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร”
สำหรับ ลิเวอร์พูล มีสถิติการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น 11 ตัวจริงตัวรวมทุกรายการในฤดูกาลนี้ 217 ครั้ง มากกว่าทีมในพรีเมียร์ลีก มากกว่าอันดับ 2 อย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่มีการเปลี่ยนแปลงผู้เล่นตัวจริงถึง 54 ราย
เกมนัดชิงดำที่ เวมบลีย์ ทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ โดนปัญหาอาการบาดเจ็บรุมเร้ากว่าครึ่งค่อนทีม โดยไม่มีทั้ง อลิสซง เบ็คเกอร์ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาโนลด์ ,โดมินิค โซโบสไล ,ดาร์วิน นูนเญซ ,ดิโอโก โชตา ,เคอร์ติส โจนส์ ,โม ซาลาห์ ฯลฯ ทำให้กุนซือชาวเยอรมัน ต้องจัดทีมแบบ ใจถึงพึ่งได้ ด้วยการให้โอกาสให้ดาวรุ่งจากอะคาเดมี่รอโอกาสอยู่ในม้านั่งสำรอง แถมปล่อยลงสนามจนแทบจะเป็นทีมเยาวชน หงส์แดง ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
เยาวชน หงส์แดง หัวใจใหญ่กว่าตับ
อย่างไรก็ตามสุดท้าย เยาวชนหงส์แดง นี่แหละที่สวมหัวใจสิงห์ เจียนอยู่เจียนไป แต่ก็ยังเอาตัวรอดจนมาได้ประตูในช่วงนาทีบาปจาก เวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค เป็นประตูชัย พา ลิเวอร์พูล สอยถ้วยใบแรกในฤดูกาลสั่งลาของ เจอร์เกน คล็อปป์ ที่อย่างน้อยเขาก็มีถ้วยติดมือแล้ว 1 ใบในซีซั่นนี้ ขณะที่ความพ่ายแพ้ของ เชลซี ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ ของวงการลูกหนังอังกฤษ ที่แพ้ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย ในประเทศถึง 6 ครั้งติดต่อกัน แบ่งเป็น ลีกคัพ 3 ครั้งและ เอฟเอ คัพ 3 ครั้ง
หลังจบเกมที่ เวมบลีย์ คล็อปป์ ก็อดไม่ได้ที่จะกล่าวชื่นชม ควีวิน เคลเลเฮอร์ นายด่านมือ 2 รูปหล่อที่เซฟประตูช่วยชีวิตทีมไว้ได้หลายต่อหลายครั้ง ในเกมนัดชิงคาราบาวคัพ กับ เชลซี โดยเปิดเผยว่า “เรามีผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกและเป็นผู้รักษาประตูสำรองที่ดีที่สุดในโลก”
สำหรับสถิติของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ในเกมเอาชนะ เชลซี นัดชิงชนะเลิศ คาราบาว คัพ มีดังนี้
-เซฟ 9 ครั้ง
-เซฟในกรอบเขตโทษ 6 ครั้ง
-ผ่านบอลยาวแม่นยำ 4 ครั้ง
-เคลียร์บอล 3 ครั้ง
-เซฟสำคัญ 1 ครั้ง
-ค่าเฉลี่ยการเซฟ 2.95 ครั้งต่อเกม
เท่านั้นยังไม่พอ นอกจากที่ ควีวิน เคลเลเฮอร์ จากการที่เขาคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ ได้ 2 สมัยแล้ว เจ้าตัวยังเก็บคลีนชีตในนัดชิงชนะเลิศได้ทั้ง 2 ครั้ง ส่วนประตูมือ 1 อย่าง อลิสซง เบ็คเกอร์ ก็เคยคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก, เอฟเอ คัพ และ แชมป์สโมสร
โดยเก็บคลีนชีทในนัดชิงชนะเลิศได้ทั้ง 3 รายการ ขณะที่มือ 3 จอมเก๋าอย่าง อาเดรียน ก็ไม่น้อยหน้าเมื่อ คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ กับ ลิเวอร์พูล และเก็บคลีนชีท ในนัดชิงชนะเลิศ ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ดูเหมือนว่า ผู้เล่นชาวญี่ปุ่นของ ลิเวอร์พูล น่าจะถูกโฉลกกับรายการ คาราบาว คัพ ไปแล้ว เนื่องจากปี 2022 ทาคุมิ มินามิโนะ แนวรุกชาวญี่ปุ่น คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ กับ ลิเวอร์พูล ในขณะที่ล่าสุด วาตารุ เอ็นโด ก็เป็นแข้งจากแดนอาทิตย์อุทัยรายล่าสุดที่คว้าแชมป์ คาราบาว คัพกับทัพ หงส์แดง
เจอร์เกน คล็อปป์ กับสถิติที่รอคอยการทำลายก่อนอำลา หงส์แดง
ถึงตอนนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้าแชมป์กับ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว 8 โทรฟี่ ไม่ว่าจะเป็นรายการ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (2019) ,ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ (2019) ,แชมป์สโมสรโลก (2019) ,พรีเมียร์ลีก (2020) ,คาราบาว คัพ 2 สมัย (2022, 2024) ,เอฟเอ คัพ (2022) และ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ (2022) ซึ่งภารกิจของ เจอร์เกน คล็อปป์ และชาวคณะ หงส์แดง ในซีซั่น ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้ เพราะพวกเขายังมีลุ้นทำสถิติพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เท่า เคนนี่ ดัลกลิช อดีตบรมกุนซือแห่งถิ่น แอนฟิลด์
โดยสถิติกุนซือที่พา หงส์แดง คว้าแชมป์สูงสุด ประกอบไปด้วย
1.บ๊อบ เพสลีย์ – 20 โทรฟี่
2.บิล แชงคลีย์ – 11 โทรฟี่
3.เคนนี่ ดัลกลิช – 9 โทรฟี่
4.เจอร์เกน คล็อปป์ – 8 โทรฟี่
อย่างไรก็ตาม โทรฟี่ คาราบาว คัพ หนล่าสุดที่ได้รับจากมือของ เสถียร เสถียรธรรมะ ประธาน บริษัท คาราบาว กรุ๊ป และ แอ๊ด คาราบาว หรือ ยืนยง โอภากุล อาจจะไม่ใช่โทรฟี่สุดท้าย กับฤดูกาลสุดท้ายของ เจอร์เกน คล็อปป์ ในการคุมทัพ หงส์แดง
เพราะถึงตอนนี้พวกเขายังคงรั้งเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนนในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ด้วยการนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองจ่าฝูงอยู่ 1 แต้ม และนำอันดับอย่าง อาร์เซนอล 2 แต้ม หลังผ่านการลงสนาม 26 เกมในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้
ขณะที่รายการ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทัพ หงส์แดง ก็เข้าไปเจอกับ สปาร์ต้า ปารก จากสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งดูแล้วก็มีโอกาสผ่านเข้าสู่รอบลึกๆเช่นเดียวกัน และหาก ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยูโรป้าลีก ในซีซั่นนี้ได้สำเร็จ เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็จะทำสถิติพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ทุกรายการที่ลงเล่น
ในขณะที่รายการฟุตบอลถ้วยในประเทศอีกหนึ่งรายการอย่าง เอฟเอ คัพ ทัพ หงส์แดง ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เกน คล็อปป์ ก็ทะลุเข้ามาถึงรอบที่ 5 โดยโปรแกรมนัดต่อไปจะเป็นการเปิดสนาม แอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ เซาธ์แฮมป์ตัน ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นี้
นัดชิงชนะเลิศในความทรงจำของทั้ง เดอะ ค็อป และ เจอร์เกน คล็อปป์
บางครั้งบางที นี่เรียกได้ว่าอาจเป็นบอลถ้วยเมเจอร์ รอบชิงชนะเลิศ ที่หายากที่สุดเกมหนึ่ง ที่ทีมหนึ่งทีม จะมีการโรเตชัน โดยใช้เด็กอคาเดมี่และส่วนสำคัญกับการคว้าแชมป์เยี่ยงนี้
แต่ เจอร์เก้น คล็อปป์ กลับทำมันได้ผลอย่างน่าทึ่ง เขาไว้ใจเด็กๆ โดยเชื่อมั่นว่า ความสด, พลังหนุ่ม, ความทุ่มเท ความตั้งอกตั้งใจของเด็กๆ ประจวบเหมาะกับสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ บวกกับความกล้าบ้าบิ่น เป็นที่สิ่งใช้ใจตัดสิน
ระบบและปรัชญาฟุตบอลที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ วางเอาไว้ให้กับ ลิเวอร์พูล มันทำให้เราเห็นอย่างชัดแจ้งแล้วว่า ไม่ว่าจะส่งใครลงสนาม ลิเวอร์พูล ก็จะยังเล่นด้วยระบบอันยอดเยี่ยม ประสิทธิภาพโดยรวมแทบจะไม่ตกหล่นไปจากผู้เล่นชุดใหญ่เลย ทีมอะคาเดมี่ของ ลิเวอร์พูล สามารถเอาชนะ เชลซี ที่ใช้เงินไปเป็นพันล้านปอนด์ได้อย่างน่าชื่นชม นี่คือเกมประวัติศาสตร์ที่บรรดาเหล่า เดอะ ค็อป จะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน
นักเตะหนุ่มๆของ ลิเวอร์พูล คือสิ่งมหัศจรรย์ อนาคตไม่รู้ว่าว่าเด็กๆเหล่านี้จะไปได้ไกลแค่ไหน แต่อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่ คล็อปป์ ฝากเอาไว้ก่อนที่จะลงจากเก้าอี้กุนซือ ลิเวอร์พูล หลังจบฤดูกาลนี้ คือมรดกอันล้ำค่า ที่จะทำให้กุนซือคนต่อไป ทำงานได้ง่ายขึ้นไม่มากก็น้อย
และอย่าลืมว่ากุนซือที่จะมารับไม้ต่อจาก เจอร์เกน คล็อปป์ ก็จะต้องเจอกับแรงกดดันมหาศาล กับสิ่งที่กุนซือเยอรมันสร้างผลงานเอาไว้ ถึงตรงนี้ คล็อปป์ รู้ดี และทำมันให้ง่ายๆเพื่อสุดท้ายแล้วประโยชน์จะได้ตกอยู่กับสโมสรนั่นเอง
สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ
เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค