เรียกได้ว่าเปิดตลาดได้อย่างคึกคักเลยทีเดียวสำหรับพลพรรค ปีศาจแดง แมนฯ ยูไนเต็ด หลังจากที่ล่าสุดเพิ่งจะได้ตัวปราการหลังรายใหม่อย่าง เลนี่ โยโร่ จาก ลีลล์ ในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส มาร่วมทีมอย่างเป็นทางการในราคา 52 ล้านปอนด์ พร้อมเซ็นสัญญาค้าแข้งในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นเวลา 5 ปี พร้อมออปชั่นในการขยายเพิ่มอีก 1 ปี
โดย โยโร่ จะได้มาสวมเสื้อหมายเลข 15 ที่ เนมานย่า วิดิช ตำนานปราการหลังชาวเซิร์บ เคยใส่ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ระหว่างปี 2006-2014 ส่วนคนสุดท้ายที่ใส่เบอร์นี้คือ เซร์คิโอ เรกีลอน แบ็กซ้ายที่ยืมตัวมาจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยในช่วงที่ โยโร่ เล่นให้กับ ลีลล์ เจ้าตัวเคยใส่เบอร์ 33, 15, 6 และ 5 มาแล้ว ส่วนการเล่นให้ ทีมชาติฝรั่งเศส U21 และ U23 ใส่หมายเลข 4 ลงสนาม
บอร์ดผีแดงโฉมใหม่ งานด่วน งานไว
ซึ่งจากรายงานระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เสนอโปรเจ็กต์ที่แตกต่างออกไปให้กับ เลนี่ โยโร่ ได้พิจารณา โดยพวกเขาให้คำมั่นสัญญากับแข้งก้านยาวรายนี้ว่า เขาจะเป็นส่วนสำคัญในโปรเจคใหม่ของสโมสร และที่สำคัญคือพวกเขาพร้อมที่จะให้เวลาลงสนามแบบที่ เรอัล มาดริด อาจไม่สามารถมอบโอกาสนั้นให้ได้
นอกจากนี้อีกหนึ่งบุคคลสำคัญที่ทำให้ โยโร่ เลี้ยวจอยที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็คือ ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตปราการหลังระดับตำนานของ ปีศาจแดง ที่รับบทคอยเกลี้ยมกล่อม เลนี โยโร ให้ย้ายมาร่วมชายคาโรงละครแห่งความฝัน โดย ริโอ บอกกับ โยโร ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นก้าวที่ถูกต้องในการพัฒนาฝีเท้าของเขา
ขณะเดียวกัน ดิ แอธเลติก รายงานว่า โอมาร์ เบอร์ราด้า เป็นผู้นำการเจรจาขั้นสุดท้ายในดีลของ เลนี่ โยโร ซึ่งทั้ง แดน แอชเวิร์ธ รวมถึง เจสัน วิลค็อกซ์ ก็มีส่วนร่วมอย่างมากในดีลของ เลนี่ โยโร่ เช่นเดียวกัน โดยในรายของ เจสัน วิลค็อกซ์ เป็นคนบินไปพบกับ เลนี่ โยโร่ ด้วยตนเองตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อสร้างความประทับใจให้กับตัวของนักเตะว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องการเขามากแค่ไหน
และพวกเขามีแผนที่จะพัฒนาตัวของ โยโร่ ไปในทิศทางใด ขณะที่ฟากของ แมตต์ ฮาร์กรีฟส์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเจรจานักเตะ เองก็ได้รับคำชื่นชมอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน หลังมีส่วนอย่างมากในการปิดดีลเซ็นสัญญากับทั้ง โจชัว เซิร์กซี รวมถึง เลนี่ โยโร ได้อย่างรวดเร็ว
เลนี่ โยโร่ คือใคร
โยโร่ เติบโตในฝรั่งเศสและได้เข้าร่วมทีมเยาวชนของ ลีลล์ ตั้งแต่อายุ 12 ปี ก่อนได้รับโอกาสประเดิมสนามในอีกไม่กี่เดือนต่อมาด้วยวัยเพียง 16 ปี ซึ่งนั่นทำให้เจ้าตัวกลายเป็นแข้งอายุน้อยสุดเป็นอันดับ 2 ในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ลงสนามให้กับ ลีลล์ แถมยังได้รับโอกาสลงสนามในฤดูกาล 2022-2023 ถึง 15 นัด
ฤดูกาลถัดมาได้รับการไว้เนื้อเชื่อใจจากโค้ช ลงเป็นตัวจริงยืนระยะถึง 44 นัด ยิงไป 3 ประตู ทำสถิติเป็นตัวจริงในลีค 30 นัด จาก 34 นัด ด้วยวัยแค่ 17-18 ปี เท่านั้น การสร้างชื่อให้ตัวเอง กลายเป็นหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่ยอดเยี่ยมของลีกเอิงในฤดูกาลที่แล้ว นอกจากนี้ยังเป็นนักเตะที่ลงเล่นมากที่สุดอันดับ 3 ใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป ด้วยจำนวน 2,672 นาที
เซ็นเตอร์แบ็คเจ้าของส่วนสูง 190 ซม. ยกระดับตัวเองอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นสมาชิกคนสำคัญของทีม ซึ่งผลงานส่วนตัวของ โยโร่ มันก็ช่วยทำให้ผลงานต้นสังกัดดีขึ้นตามไปด้วย โดยซีซั่นที่ผ่านมา ลีลล์ ได้สิทธิ์ไปเล่นในรายการยุโรป หลังจากที่จบอันดับ 4 จาการเก็บคลีนชีตได้ 13 ครั้ง และยิงไปอีก 2 ประตู โดยจนถึงตอนนี้เขาลงเล่นให้ ลีลล์ ไปแล้ว 60 นัด และมีการประเมินมูลค่าอยู่ที่ 50 ล้านยูโร
หอคอย โยโร่ ดาวรุ่งร่างโย่งที่ไม่ได้มีดีแค่ลูกกลางอากาศ
เลนี่ โยโร่ มีจุดเด่นเรื่องการรับมือลูกกลางอากาศ และการออกบอล แถมยังเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากฟุตบอลยุโรปในศึกคอนเฟอเรนซ์ลีกมาแล้ว ด้วยการ ลงเล่น 7 เกม โดยที่ ลีลล์ ผ่านเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนแพ้ แอสตัน วิลล่า จากการดวลจุดโทษ
แม้ โยโร่ จะยังไม่ได้รับโอกาสลงเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศสชุดใหญ่ แต่เขาก็มีเวลาเหลือเฟือที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกให้ทีมชุดใหญ่ของ ฝรั่งเศส แม้ว่าทัพ ตราไก่ จะมีตัวเลือกกองหลังที่มีคุณภาพมากมายก็ตาม อย่างไรก็ตาม โยโร่ เป็นขาประจำให้กับทีมเยาวชนของ ตราไก่ โดยลงเล่นให้ทีมชุด ยู-21 ไปแล้ว 4 นัด
แม้จะมีรูปร่างสูงใหญ่ แต่ โยโร่ ก็ยังรวดเร็วพอที่จะสปรินท์สู้กับคู่แข่ง และเขาอ่านเกมได้ยอดเยี่ยมเมื่อคาดการณ์การโจมตีของฝ่ายตรงข้าม ความเฉลียวฉลาดนี้ทำให้เขาไม่จำเป็นต้องใช้ร่างกายปะทะบ่อยขนาดนั้น ซึ่งอาจชวนให้นึกถึง ริโอ เฟอร์ดินานด์ โยโร่ อายุเพียง 18 ปี ทำให้เขายังมีเวลาอีกมากมายให้พัฒนาต่อไปในอนาคต อย่างไรก็ตามเมื่อมุ่งหน้าเข้าสู่พรีเมียร์ลีก กองหลังชาวฝรั่งเศสอาจต้องปรับตัวไม่น้อย
ติด TOP5 ในลีก เอิง
ในเหล่าบรรดาเซ็นเตอร์แบ็คในศึกลีก เอิง เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โยโร่ ติดอันดับ 5 ในด้านความแม่นยำของการจ่ายบอล (92.1%) และอันดับ 2 สำหรับการจ่ายบอลสั้นสำเร็จ (95.6%) เขาโดนคู่ต่อสู้แย่งบอลเฉลี่ยเพียง 0.03 ครั้งต่อ 90 นาที ซึ่งเป็นบ่งบอกว่า โยโร่ เป็นพวกแกะเพรสซิ่งได้ดีพอตัว
การเซ็นสัญญากับกองหลังดาวรุ่งที่มีศักยภาพสูงด้วยราคาเบื้องต้น 62 ล้านยูโรในตลาดยุคใหม่ ถือว่าเสี่ยงพอสมควร อย่างไรก็ตามบอร์ดบริหารุดใหม่ของ แมนฯยู ก็คงมีบทเรียนและทำการบ้านมาเป็นอย่างดี และน่าจะเห็นพ้องต้องกันว่า โยโร่ มีศักยภาพมหาศาลและเขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์แบ็คระดับแถวหน้าของโลกได้ภายใน 4-5 ปีข้างหน้า
โดยในเกมอุ่นเครื่องช่วงปรีซีซั่นกับ เรนเจอร์ส เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เลนี่ โยโร่ ออกสตาร์ตในตำแหน่งปราการหลังตัวจริง จับคู่กับแข้งที่มีประสบการณ์อย่าง จอนนี่ อีแวนส์ พร้อมด้วย คาเซมิโร่, อังเดร โอนาน่า และ อารอน วาน บิสซาก้า แถมยังมี เมสัน เมาท์ และ จาดอน ซานโช่ ที่กลับมาลงเป็นตัวจริงให้ต้นสังกัดในรอบเกือบปี
เช็คฟอร์ม โยโร่ หลังประเดิมสนามให้ แมนฯยู
ซึ่งฟอร์มของ เลนี่ โยโร่ ในเกมนัดนี้ถึงแม้จะได้ลงเล่นแค่ 45 นาทีแรก แต่เขาก็โชว์ฟอร์มการเล่นได้โดดเด่นมาก ๆ โดยสถิติของเขามีดังนี้
– สัมผัสบอล 51 ครั้ง
– จ่ายบอลสำเร็จ 44/48 ครั้ง
– ผ่านบอลยาวสำเร็จ 4/7 ครั้ง
– แย่งบอล 1/1 ครั้ง
– ดวลชนะ 1/1 ครั้ง
– บล็อก 1 ครั้ง
– เคลียร์บอล 1 ครั้ง
– ตัดบอลหรือเก็บบอลจังหวะสอง 2 ครั้ง
“สำหรับผม การได้ลงสนามให้แมนยูฯ เกมนี้น่าเหลือเชื่อมาก มันเป็นเกมที่ดีจริง ๆ ซึ่งมาจากทุกคนในทีม ผมพอใจกับผลงานของตัวเอง และผมหวังว่าเราจะเป็นแบบนั้นต่อไป เพื่อนร่วมทีมช่วยผมได้มาก ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชพวกเขาทำให้ผมสบายใจ ในสนามเราอยู่ด้วยกัน ดังนั้นสำหรับผมมันดีจริงๆ พวกเราจะไปสหรัฐอเมริกา เพื่อลงเล่น 3 เกม แมนยูฯ จะแสดงทุกอย่างเพื่อคว้าชัยชนะ ผมอยากขอบคุณแฟนบอล ผมหวังว่าเราจะได้เจอกันที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเร็ว ๆ นี้”
สำหรับโปรแกรมต่อไปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือการลงเตะนัดกระชับมิตรกับ อาร์เซน่อล ในเช้าวันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2024 เวลา 07.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ
เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค