นับตั้งแต่ขึ้นปีปฏิทิน 2024 เป็นต้นมา อยู่ดีๆทัพ ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็กลับมาทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการชนะมาแล้ว 5 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ
โดยเป็นเกมพรีเมียร์ลีกถึง 4 เกม และนับเป็นครั้งแรกที่ทีมของ เอริค เทน ฮาก ทำได้ในฤดูกาลนี้ โดย 4 จาก 5 เกมเป็นการลงสนามในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แถม 5 เกมหลังสุดในศึกพรีเมียร์ลีก หรือนับตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นมา แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงประตูคู่แข่งได้อย่างน้อย 2 ประตูทุกเกม
ซึ่งหากย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม เทน ฮาก และชาวคณะก็เพิ่งจะถูกอาถรรพ์รางวัลยอดเยี่ยมประจำเดือนเล่นงาน หลังจากที่กุนซือหัวเหม่งคว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมพฤศจิกายน ผลงานของทัพ ปีศาจแดง ในเดือนถัดมาพวกเขาเก็บชัยชนะได้เพียง 2 เกมจากทั้งหมด 7 เกมในการลงสนามเดือนธันวาคม
อย่างไรก็ตามพอเปลี่ยนศักราชเข้าสู่ปี 2024 ดูเหมือนว่า แมนฯ ยูไนเต็ด เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างภายในทีม พร้อมกับมาเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่องอีกครั้งทั้งที่ไม่มีผู้เล่นใหม่เข้าสู่ทีมเลยแม้แต่รายเดียวในช่วงเปิดตลาดซื้อขายรอบ 2 เดือนมกราคมที่ผ่านมา
ฮอยลุนด์ ร่างทอง เดอะ แบก คนใหม่ของ ยูไนเต็ด
แนวรุกของ ปีศาจแดง ดูดีขึ้นมาผิดหูผิดตา โดยเฉพาะ ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่เริ่มปรับจูนสไตล์การเล่นและตำแหน่งการยืน แถมยังยิงประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำตอบแทนค่าตัว 72 ล้านปอนด์ที่ แมนฯ ยู จ่ายไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาได้บ้างแล้ว ถึงตอนนี้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ยิงไปแล้ว 7 ประตู จาก 6 นัดหลังสุด
โดยเป็นการปลิดชีพใส่ แอสตัน วิลล่า,เวสต์แฮม ,วูล์ฟแฮมป์ตัน ,นิวพอร์ต และ สเปอร์ส ทีมละ 1 ตุง ก่อนจะมาระเบิดฟอร์มเหมาคนเดียว 2 ประตูในเกมนัดล่าสุดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกเอาชนะ ลูตัน ทาวน์ 2-1 เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา
และจากผลงานอันร้อนแรงด้วยการยิง 2 ประตูในเกมกับ ลูตัน ของดาวยิงชาวเดนมาร์ก ส่งผลให้เจ้าตัวกลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุด ด้วยวัย 21 ปี 14 วัน ที่ยิงประตู 6 เกมติดต่อกันในพรีเมียร์ลีก ทำลายสถิติเดิมของ โจ วิลล็อค ของ นิวคาสเซิล ที่ทำไว้ในวัย 21 ปี 272 วัน และนับตั้งแต่ปี 2024 ไม่มีผู้เล่นคนไหนเลย ในศึกพรีเมียร์ลีก ที่มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรงมากกว่า ราสมุส ฮอยลุนด์ ที่จำนวน 8 ประตู พ่วงด้วย 2 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 8 นัดหลังสุดให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด
ดูดวิชา RVP ก่อนระเบิดฟอร์มยิงไม่พัก
ซึ่งหนึ่งเหตุผลที่คาดว่าน่าจะเป็นส่วนช่วยให้ ฮอยลุนด์ เครื่องฟิตสตาร์ทติดง่ายได้ขนาดนี้ ก็น่าจะมาจากการเข้าไปขอคำแนะนำจากกองหน้าระดับตำนานอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี ที่เดินทางมาศึกษาดูงานที่สนามซ้อม แคร์ริงตัน เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่ง ฮอยลุนด์ น่าจะได้รับคำแนะนำอะไรบางอย่างจาก RVP ที่ช่วยให้เจ้าตัว สามารถปรับตัวและแจ้งเกิดบน พรีเมียร์ลีกได้อย่างเป็นทางการ หลังจากที่สาวก ปีศาจแดง รอคอยกันมานานกว่าครึ่งฤดูกาล
ทั้งนี้ ราสมุส ฮอยลุนด์ ตะบันรวมกันทุกรายการไปแล้ว 13 ประตู แบ่งเป็นศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 5 ประตู ,พรีเมียร์ลีก 7 ประตู ,เอฟเอ คัพ 1 ประตู ขณะที่สถิติการแอสซิสต์ของดาวเตะเลือดโคนมเกิดขึ้นในศึกพรีเมียร์ลีก เพียวๆ 2 ครั้ง และหาก ฮอยุลนด์ ยังรักษาโมเมนตั้มแบบนี้เอาไว้ได้ ก็เป็นไปได้เหมือนกันที่เจ้าตัวจะเบิกสกอร์ แตะหลัก 20 ประตูกับการประเดิมฤดูกาลแรกในสีเสื้อของ แมนฯ ยูไนเต็ด
เซอร์จิม แรชคลิฟฟ์ อัศวินขี่ม้าขาว ความหวังใหม่ของ ปีศาจแดง
อีกหนึ่งเรื่องดีๆต้อนรับปี 2024 ของ แมนฯยู ก็คือสืบเนื่องจาก พรีเมียร์ลีก ที่ได้อนุมัติการเข้าซื้อหุ้น จำนวน 25% ของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ไปเป็นที่เรียบร้อย และสมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ เอฟเอ ก็ได้อนุมัติเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเป็นขั้นตอนสุดท้ายของการการยืนยันในการเข้ามาทำงานในสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ดของ เซอร์จิม พร้อมกับทีมงาน อย่างสมบูรณ์ 100%
โดยที่ก่อนหน้านี้ก็มีกระแสเรื่องของแผนงานต่างๆของ เซอร์จิม ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติ ทั้งเรื่องของ การสร้างสนามใหม่ ความจุกว่า 90,000 ที่นั่ง ซึ่งกลายเป็นที่ฮือฮาสำหรับสาวก ปีศาจแดง มิใช่น้อย สำหรับโปรเจ็กต์ดังกล่าว
อีกทั้งยังได้มีการประกาศคว้าตัว โอมาร์ บาร์ราด้า เข้ามารับตำแหน่ง CEO คนใหม่ของทีม ที่ไปซุ่มเงียบดึงตัวมาจากอริร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ซิตี้ ได้สำเร็จ ถือเป็นความเปลี่ยนแปลงทีะสเต็ปๆ ของทีมงานชุดใหม่ของ เซอร์จิมฯ ทั้งนี้ ก็เริ่มที่จะมีความเคลื่อนไหวของการรื้อระบบหลังบ้านของทีมออกมาเป็นระยะๆ
โดยเมื่อราวๆต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีรายงานว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังเดินหน้าเจรจาเพื่อคว้าตัว แดน แอชเวิร์ธ ผอ.กีฬา มือดี ของนิวคาสเซิล เข้ามารับตำแหน่ง ผอ.กีฬา คนใหม่ของ ทัพปีศาจแดง ภายใต้ทีมบริหารชุดใหม่ของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ โดยจากรายงานระบุว่า แมนฯ ยูไนเต็ด วางตัว แดน แอชเวิร์ธ เป็นเป้าหมายสูงสุดในการคว้าตัวมาทำหน้าที่ผู้อำนวยการกีฬาให้กับสโมสร ซึ่ง ณ เวลานั้น ตัวของ แอชเวิร์ธ เอง ก็ไม่ปิดโอกาสที่จะย้ายที่ทำงาน
ผู้อำนายการกีฬาคนใหม่ ในโรงละครแห่งความฝัน
ก่อนหน้านี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มีการติดต่อไปยัง แดน แอชเวิร์ธ อยู่หลายต่อหลายครั้ง ทั้งในตอนที่ก่อนจะมารับงานคุม นิวคาสเซิล เสียอีก แต่ด้วยจังหวะและเวลาที่ไม่ลงตัว จึงทำให้พลาดโอกาสที่จะมาร่วมงานกัน อีกทั้ง ณ เวลานั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เพิ่งจะแต่งตั้ง จอห์น เมอร์เท่อห์ ขึ้นเป็น ผอ.กีฬา ได้ไม่นานด้วย
ทั้งนี้ การติดต่อทาบทามไปยัง แอชเวิร์ธ หนนี้ เชื่อว่ามาจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวของ แอชเวิร์ธ กับทางด้านของ เซอร์เดฟ เบรลส์ฟอร์ด ที่สนิทสนมกันมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งการที่ เซอร์เดฟ เข้ามามีบทบาทในทีมงานของ เซอร์จิม แน่นอนว่า ชื่อของคนที่ เซอร์เดฟ จะเสนอให้เข้ามารับตำแหน่ง ผอ.กีฬา คนใหม่ของ ทัพ ปีศาจแดง ก็คงหนีไม่พ้น แดน แอชเวิร์ธ อย่างแน่นอน
ล่าสุด The Athletic รายงานข่าวว่า แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของ นิวคาสเซิล ตกเป็นข่าวว่าได้แจ้งขอลาออกจากทัพ สาลิกาดง เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ค่าชดเชยของ แดน แอชเวิร์ธ ที่ ยูไนเต็ด ต้องจ่ายให้กับ นิวคาสเซิล มีมูลค่าสูงถึง 20 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ค่าฉีกสัญญาของ แอชเวิร์ธ มีมูลค่าอยู่ที่ 6 ล้านปอนด์ แต่ล่าสุดหลังจากได้รับความสนใจจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ทำให้ นิวคาสเซิล ได้ปรับเพิ่มค่าฉีกสัญญาขึ้นไปเป็นขั้นต่ำ 10 ล้านปอนด์
และที่สำคัญยังมีเงื่อนไข Gardening Leave หรือเงื่อนไขที่ ห้ามบุคลากรเดิมรับงานใดๆ หลังจากออกจากงาน ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งหาก ยูไนเต็ด ได้ตัว แอชเวิร์ธ มาจริงๆ แต่กว่าจะเริ่มงานได้ก็ต้องรอไปจนถึงปี 2025 เลยทีเดียว ซึ่งก็จะทำให้ ตลาดรอบซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ รวมถึงตลาดรอบหน้าหนาวเดือนมกราคม แดน แอชเวิร์ธ จะยังไม่สามารถมีบทบาทใดๆภายในสโมสร แมนฯ ยูไนเต็ด นั่นเอง
อย่าไงไรก็ตาม หากมองในกรณีที่ แอชเวิร์ธ เข้ามารับตำแหน่ง ผอ.กีฬาคนใหม่ของทัพ ปีศาจแดง จริงๆ ก็คาดว่าเจ้าตัวจะแต่งตั้งหัวหน้าฝ่ายเจรจาซื้อขายด้วยตนเอง โดยวางตัว แซม จีเวลล์ หัวหน้าซื้อขายของ ไบรท์ตัน ที่เคยร่วมงานกันก่อนหน้านี้ เข้ามาเป็นหัวหอกในการซื้อขายนักเตะของ แมนฯ ยูไนเต็ด
ผลงานชิ้นโบว์แดงของว่าที่ผอ.กีฬาคนใหม่
ซึ่งหากใครที่ยังสงสัยว่า แดน แอชเวิร์ธ คือใคร และเขามีดีอย่างไร ซึ่งทาง sky sports ได้ทำการจัด 12 อันดับ การเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของเจ้าตัว มัดรวมกันมาทั้งในยุคของ ไบรท์ตัน และ นิวคาสเซิล ทีมละ 6 ดีล ซึ่งต้องบอกได้เลยว่า คุ้มค่าและตอบโจทย์แทบจะทุกดีลเลยก็ว่าได้
ไบรท์ตัน
มอยเซส ไคเซโด้ : 4.5 ล้านปอนด์
มาร์ก คูคูเรย่า : 15.4 ล้านปอนด์
เลอันโดร ทรอสซาร์ : 15 ล้านปอนด์
อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ : 7 ล้านปอนด์
คาโอรุ มิโตมะ : 2.7 ล้านปอนด์
ทาริค แลมป์ตีย์ : 4 ล้านปอนด์
นิวคาสเซิล
อเล็กซานเดอร์ อิซัค : 63 ล้านปอนด์
ซานโดร โตนาลี่ : 55 ล้านปอนด์
แอนโธนี่ กอร์ดอน : 45 ล้านปอนด์
ฮาร์วีย์ บาร์นส : 39 ล้านปอนด์
วาเลนติโน่ ลิฟราเมนโต้ : 36 ล้านปอนด์
สเวน บ็อตแมน : 35 ล้านปอนด์
ซึ่งพูดมาแต่ละชื่อต้องยอมรับว่าสามารถเข้ามายกระดับทีมได้แทบจะทั้งสิ้น โดยเฉพาะ 6 ดีลของ ไบรท์ตัน ที่เป็นดีลที่ซื้อขายและขายออกทำกำไรได้อย่างมหาศาล นับแค่เม็ดเงินที่ได้จากการขาย ไคเซโด้ ให้กับ เชลซี ก็ปาไป 105 ล้านปอนด์ หักลบกำราคาที่ซื้อมา 4.5 ล้านปอนด์ เท่ากับว่า ไบรท์ตัน ได้กำไรจากดีลนี้ 100.5 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว
ขณะที่ 6 ดีลของ นิวคาสเซิล ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นกำลังของทีมได้แทบจะทุกราย ขาดก็เพียงแต่ โตนาลี่ ที่โดนพิษเรื่องของการพนันเล่นงานเท่านั้นเอง แต่หามองถึงผลงานในสนามถือว่าใช้ได้เลยทีเดียว
เซอร์จิมฯ พร้อมเปย์งบประมาณเสริมทัพ 200 ล้านปอนด์
ก็ต้องมาดูกันว่าสุดท้ายแล้ว แมนฯ ยูไนเต็ด จะสามารถปิดดีล แดน แอชเวิร์ธ มานั่งเก้าอี้ ผอ.กีฬาคนใหม่ของทีมได้หรือไม่ และหากว่ามาจริงๆ ก็ต้องมาลุ้นว่า นักเตะที่ แอชเวิร์ธ พร้อมกับทีมงานที่จะนำมาเสิร์ฟให้กับ เอริค เทน ฮาก นั้นจะตอบโจทย์เหมือนกับตอนที่อยู่ ไบรท์ตัน และ นิวคาสเซิล หรือไม่
เรื่องของการลงตลาดซื้อขายรอบซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ ที่ อาจจะได้งบมาใช้สอยถึง 200 ล้านปอนด์ เลยทีเดียว จากการเปิดเผยของ แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่งนิวส์ ที่ระบุว่า
“แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจมีงบ.ในการซื้อนักเตะมากถึง 200 ล้านปอนด์ ในตลาดนักเตะรอบซัมเมอร์นี้ โดยสโมสรได้เคลียร์ตัวเลขทางการเงินในระดับหนึ่งแล้ว ประกอบกับการเตรียมโละนักเตะหลายๆคนออกก็จะทำให้สโมสรมีเงินมากพอในการเข้าสู่ตลาดซัมเมอร์ 2024”
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเปิดสนาม โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ ฟูแล่ม ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในเวลาสี่ทุ่มตรง ตามเวลาประเทศไทย
สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ
เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค