กีฬาฟุตบอล

รีแคปช็อตเด็ดเปิดฉากศึก ยูโร 2024 เหล่าเต็งจ๋าพากันคว้าชัยเกมเปิดสนาม

17 6 67 - รีแคปช็อตเด็ดเปิดฉากศึก ยูโร 2024 เหล่าเต็งจ๋าพากันคว้าชัยเกมเปิดสนาม

เปิดฉากมหกรรมฟุตบอล ยูโร 2024 อย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อย ตั้งแต่เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (15 มิถุนายน) ซึ่งทีมชาติเยอรมนี ในฐานะทีมเจ้าภาพ โชว์ฟอร์มหรูด้วยการอัด ทีมชาติสก็อตแลนด์ ไปแบบขาดลอย 5-1 โดยศึก ยูโร ครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกสำหรับ เยอรมนี ที่ได้รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยเป็นเจ้าภาพมาแล้วในปี 1988 แต่ขณะนั้นยังเป็นการแบ่งประเทศกันอยู่ และในตอนนั้นเป็น เยอรมนีตะวันตก ที่รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ

นอกจากนี้รัฐบาลเยอรมนี ยังประกาศชัดว่า มหกรรมลูกหนังครั้งนี้ จะเป็น “ยูโรสีเขียว” ในฐานะการแข่งขันรายการแรกที่มุ่งเน้นเรื่องของการรักษ์โลกอย่างเป็นรูปธรรม โดยเยอรมนีและ ยูฟ่า มีมาตรการหลายอย่างเพื่อควบคุมให้เกิดมลพิษน้อยที่สุด ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ ยูโร ครั้งนี้ จะไม่ได้ดูหวือหวา แต่จะดูออกแนวเรียบง่ายสบายๆเสียมากกว่า

เยอรมัน 5-1 สก็อตต์แลนด์

image 28 - รีแคปช็อตเด็ดเปิดฉากศึก ยูโร 2024 เหล่าเต็งจ๋าพากันคว้าชัยเกมเปิดสนาม

สำหรับประตูแรกประเดิมทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2024 เป็นของของ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ แนวรุกวัย 21 ปีจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งนั่นทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักเตะเยอรมัน ที่อายุน้อยที่สุด ที่สามารถทำประตูได้ในศึกฟุตบอลยูโร รอบสุดท้าย ด้วยวัย 21 ปี กับอีก 42 วัน ขณะที่ คนทำประตูที่ 2 ก็ไม่น้อยหน้า นั่นก็คือแข้งรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง จามาล มูเซียล่า ในวัย 21 ปี 109 วัน ซึ่งจากผลงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าทัพ อินทรีเหล็ก ยังคงมีดาวรุ่งพรสวรรค์สูงก้าวขึ้นมาสู่ทีมชาติชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง

image 29 - รีแคปช็อตเด็ดเปิดฉากศึก ยูโร 2024 เหล่าเต็งจ๋าพากันคว้าชัยเกมเปิดสนาม

นอกจากนี้สกอร์ 5-1 ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้ ทีมชาติเยอรมนี ทำลายสถิติ คว้าชัยด้วยสกอร์ห่างที่สุดในประวัติศาสตร์นัดเปิดสนามของศึกฟุตบอลยูโร ซึ่งก่อนหน้านี้ในศึกฟุตบอลยูโรแต่ละครั้ง นัดเปิดสนามแทบจะออกด้วยผลสกอร์เบียดๆ ไม่เกิน 1 ประตู

หรืออาจจะจบลงด้วยผลเสมอด้วยซ้ำไป และแม้ว่าในศึก ยูโร 2020 หนล่าสุดที่ผ่านมา ทีมชาติอิตาลี จะลงเล่นเกมนัดเปิดสนาม ด้วยการอัด ทีมชาติตุรกี ไป 3-0 แต่ครั้งนี้ เยอรมัน โชว์ฟอร์มแกร่งยิ่งกว่า เปิดสนามด้วยผลต่าง 4 ประตู อัด ทีมชาติสก็อต์แลนด์ ไป 5-1 ทำลายสถิติเดิมลงแบบราบคาบ

สถิตินัดเปิดสนาม ฟุตบอลยูโร 10 ครั้งล่าสุด

1888 : เยอรมนีตะวันตก 1-1 อิตาลี
1992 : สวีเดน 1-1 ฝรั่งเศส
1996 : อังกฤษ 1-1 สวิสเซอร์แลนด์
2000 : เบลเยียม 2-1 สวีเดน
2004 : กรีซ 2-1 โปรตุเกส
2008 : เช็ก 1-0 สวิตเซอร์แลนด์
2012 : โปแลนด์ 1-1 กรีซ
2016 : ฝรั่งเศส 2-1 โรมาเนีย
2020 : อิตาลี 3-0 ตุรกี
2024 : เยอรมนี 5-1 สก็อตแลนด์

สเปน 3-0 โครเอเชีย

image 30 - รีแคปช็อตเด็ดเปิดฉากศึก ยูโร 2024 เหล่าเต็งจ๋าพากันคว้าชัยเกมเปิดสนาม

คู่ต่อมาถือเป็นบิ๊กแมตช์ประจำรอบแบ่งกลุ่ม เป็นเกมที่ ทีมชาติสเปน พบกับ ทีมชาติโครเอเชีย โดยก่อนเริ่มเกมมีหลายคนแอบสังเกตว่า นักเตะของทีมชาติสเปน ไม่ร้องเพลงชาติเลยแม้แต่คนเดียว ซึ่งประเด็นนี้มีการเปิดเผยออกมาว่า เพลงชาติ “ลา มาร์ชา เรอัล” ที่ถูกแต่งขึ้นโดย มานูเอล เด เอสปิโนซา เด ลอส มอนเตรอส ในปี 1771 เป็นเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง แบบเดียวกับของ ซาน มาริโน, โคโซโว, บอสเนีย – เฮอร์เซโกวีน่า แม้ภายหลังในยุคนายพล ฟรังโก ครองอำนาจระหว่างปี 1938-1973 ได้มีการแต่งเนื้อร้องใส่เข้าไปในเพลงชาติด้วย

แต่ภายหลังสิ้นสุดอำนาจลง เนื้อร้องได้ถูกนำออกไปทำนองเพลง เพื่อหลีกเลี่ยงการเชื่อมโยงกับการปกครองเผด็จการในช่วงเวลาดังกล่าว ถึงแม้ว่าคณะกรรมการโอลิมปิกสเปน จะพยายามใส่เนื้อร้องในการแข่งขัน โอลิมปิก แต่ก็ถูกปฏิเสธอยู่ดี นอกเหนือจากลผลการแข่งขันที่ กระทิงดุ ถล่ม ตาหมากรุก 3-0 แล้ว ยังมีประเด็นดราม่าตามมา ในจังหวะที่โครเอเชีย ส่งบอล เข้าประตู แต่กลับไม่ได้ประตู

image 31 - รีแคปช็อตเด็ดเปิดฉากศึก ยูโร 2024 เหล่าเต็งจ๋าพากันคว้าชัยเกมเปิดสนาม

หนำซ้ำยังเสียฟริคิกให้กับ สเปน อีกต่างหาก โดยเป็นจังหวะที่ เพ็ตโควิช ยิงจุดโทษ ไปติดเซฟ อูไน ซิม่อน ก่อนที่จะเป็น อิวาน เปเรซิช ปาดบอลกลับมาให้ เพ็ตโควิช ซ้ำดาบสองเข้าไป แต่ทว่าผู้ตัดสินกลับไม่ได้ให้ประตูในจังหวะนี้ กรณีนี้จึงต้องเปิดกติกาที่ถูกระบุไว้ในกฎข้อ 14 ตามระเบียบประจำปี 2024-25 ของคณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ (IFAB) ที่พูดถึงหลักการและการกระทำผิดเกี่ยวกับการยิงจุดโทษโดยเฉพาะ การยิงจุดโทษนั้นมีข้อกำหนดว่า

“ผู้เล่นคนอื่นนอกจากคนรับหน้าที่ยิงและผู้รักษาประตูฝ่ายตั้งรับจะต้องอยู่ห่างจากลูกฟุตบอลอย่างน้อย 10 หลา และต้องอยู่นอกเขตโทษ ห้ามเข้าเขตโทษจนกว่าลูกฟุตบอลจะถูกเตะออกไป หากผู้เล่นฝ่ายรุกฝ่าฝืนกฎล้ำเข้ามาในเขตโทษแล้วส่งผลต่อการได้ประตูหรือรบกวนผู้รักษาประตูอย่างชัดเจน จะถูกนับเป็นการฟาวล์ข้อหา “รุกล้ำ” ถ้าจุดโทษถูกยิงเข้าโดยตรงต้องยิงกันใหม่ แต่ถ้าลูกไม่ได้เข้าโดยตรงก็จะกลายเป็นฟรีคิกของทีมตั้งรับแทน”

ในทางกลับกัน หากผู้เล่นฝ่ายรับฝ่าฝืนกฎแล้วส่งผลต่อการป้องกันประตูหรือรบกวนคนยิงอย่างชัดเจน ก็มีความผิดฐานรุกล้ำเช่นกัน ถ้าลูกเข้าประตูก็นับเป็นประตูไปเลย แต่ถ้าลูกไม่เข้าก็ต้องยิงกันใหม่ แต่ถ้าผู้เล่นทั้ง 2 ฝั่งทำผิดกฎด้วยกัน ผู้ตัดสินจะพิจารณาว่าภาพรวมการทำผิดกฎทั้งหมดนั้นส่งผลต่อการยิงหรือไม่อย่างไร หากส่งผลก็จะต้องยิงกันใหม่ แต่หากไม่ส่งผลก็จะให้เป็นประตูถ้ายิงเข้า หรือไม่ให้ยิงใหม่ถ้าลูกไม่เข้า

อย่างไรก็ตาม จังหวะในเกม สเปน-โครเอเชีย เมื่อดูจาก VAR จะพบว่ามีผู้เล่นโครเอเชียอย่างน้อย 2 คนที่เท้าล้ำเข้ามาในเขตโทษก่อนที่เท้าเพ็ตโควิชสัมผัสบอล ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ เปริซิช ที่จ่ายให้ เพ็ตโควิช ยิงซ้ำ จึงนับว่ามีผลต่อประตู ส่วนผู้เล่นสเปนไม่มีใครที่เท้าล้ำเข้ามา ดังนั้น ผู้ตัดสินจึงพิจารณาว่าโครเอเชียกระทำผิดกติกาฝ่ายเดียว ก่อนจะเป่าให้สเปนเป็นฝ่ายได้ฟาวล์และได้ลูกตั้งเตะโดยไม่ให้ฝั่งโครเอเชียยิงจุดโทษอีกรอบนั่นเอง

อิตาลี 2-1 แอลเบเนีย

image 32 - รีแคปช็อตเด็ดเปิดฉากศึก ยูโร 2024 เหล่าเต็งจ๋าพากันคว้าชัยเกมเปิดสนาม

และปิดท้ายที่คู่ดึกของวันเปิดสนามที่ ทีมชาติอิตาลีพบกับ แอลเบเนีย เกมนี้ไม่ได้มีอะไรมาก ซัดกันตั้งแต่ 16 นาทีแรกของเกม โดยที่ประตูแรกใช้เวลาหลังเขี่ยลูกเริ่มเล่นเพียงแค่ 22 วินาทีเท่านั้น หลังจากนั้นก็เป็นฟากของ อิตาลี ในฐานะแชมป์เก่าที่ไล่แซง 2 ประตู และเมื่อได้สกอร์ที่พวกเขาต้องการ ก็พยายามเล่นรักษาผลการแข่งขัน ส่วน แอลแบเนีย ก็พยายามทวงประตูคืนแบบสุดใจ แต่ก็เจาะแนวรับขของพลพรรคอัซซูรี่ ไม่เข้า จบเกมไปด้วยชัยชนะของ แชมป์เก่าอิตาลี แบบหืดจับ

16 มิถุนายน

โปแลนด์ 1-2 เนเธอร์แลนด์

image 33 - รีแคปช็อตเด็ดเปิดฉากศึก ยูโร 2024 เหล่าเต็งจ๋าพากันคว้าชัยเกมเปิดสนาม

สำหรับประตูชัยในเกมนี้มาจากการลงมาสัมผัสบอลครั้งแรกของ เวาท์ เวกฮอร์สต์ อดีตศูนย์หน้าตัวยืมของ ทัพปีศาจแดง ที่กลายเป็นซูเปอร์ซับให้กับ ทัพกังห้นสีส้ม ได้นับชัยชนะในนัดนี้ไปแบบหืดจับกันเลยทีเดียว โดยไฮไลต์ของประตูนี้ นอกจากเรื่องของการลงมาสัมผัสบอลครั้งแรกแล้วเป็นประตู ยังมีสตอรี่ในวันถ่ายภาพ photo shoot ประจำศึกยูโร ครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งในวันนั้น ได้มีการถ่ายคอนเทนต์ถามคำถามนักเตะเกี่ยวกับ นักเตะที่แต่ละคนชื่นชอบ

ซึ่งส่วนมากก็มักจะตอบเป็นชื่อนักฟุตบอลในดวงใจของตัวเอง อย่างเช่น ซาฟี ซิโมนส์ ตอบว่า เนย์มาร์⁣⁣⁣⁣, เมมฟิส เดปาย ตอบ โรนัลโด้ (R9)⁣⁣,⁣⁣ โคดี้ กัคโป ตอบ เมสซี⁣,⁣⁣⁣ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ เลือก โรนัลโด้ (CR7)⁣⁣,⁣⁣ ดอนเยลล์ มาเลน ตอบ โรนัลดินโญ⁣⁣

จนกระทั่งมาถึงคำตอบของ นาธาน อาเก้ ที่ตอบแบบไม่มีใครคาดคิด นั่นก็คือ อาเก้ ตอบว่า “เวาท์ เวกฮอร์สต์” ซึ่งในเกมเมื่อคืนที่ผ่านมา อาเก้ เป็นคนแอสซิสต์ให้กับ พี่ม้า ทำประตูชัยอีกด้วย จนแฟนบอลถึงกับแห่แซวกันว่า นี่คือลูกแอสซิสต์ของ อาเก้ ที่มอบให้กับ ไอดอลของเขา อย่าง เวาท์ เวกฮอร์สต์

สโลวีเนีย 1-1 เดนมาร์ก

image 34 - รีแคปช็อตเด็ดเปิดฉากศึก ยูโร 2024 เหล่าเต็งจ๋าพากันคว้าชัยเกมเปิดสนาม

คู่ที่สอง เวลา 23.00 น. เป็นการพบกันระหว่าง สโลวีเนีย พบกับ เดนมาร์กคู่นี้แม้ว่าจะเสมอกันไป แต่หนึ่งคนที่ถูกพูดถึงเป็นพิเศษนั่นก็คือ คริสเตียน เอริคเซ่น หลังจากเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ในการลงสนามนัดแรกในศึกฟุตบอลยูโร 2020 เขาหัวใจหยุดเต้น และหมดสติกลางสนาม จนเกือบที่จะไม่สามารถกลับมาเล่นฟุตบอลได้ อย่างร้ายแรงที่สุดคืออาจเสียชีวิตได้เลยด้วยซ้ำ

แต่กลับมาในครั้งนี้ 1,100 วันผ่านไป เอริคเซ่น คนเดิม กับการลงสนามนัดแรกในฟุตบอล ยูโร 2024 เขากลับมาพร้อมกับความมุ่งมั่น วิ่งพล่านไปทั่วทั้งสนาม และสามารถประเดิมซัดประตูแรกให้กับ เดนมาร์ก ในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่น่าเสียดายที่มันไม่เพียงพอที่จะช่วยให้ ทัพโคนม มี 3 แต้มในนัดนี้ หลังโดนตามตีเสมอในช่วงครึ่งหลัง

เซอร์เบีย 0-1 อังกฤษ

image 35 - รีแคปช็อตเด็ดเปิดฉากศึก ยูโร 2024 เหล่าเต็งจ๋าพากันคว้าชัยเกมเปิดสนาม

ปิดท้ายที่คู่ดึก เวลาตีสองบ้านเรา สิงโตคำราม ทีมชาติอังกฤษ ขวัญใจมหาชนชาวไทย พบกับ ทีมชาติเซอร์เบีย ไฮไลต์สำหรับสาวก ปีศาจแดง อยู่ที่การลงสนามของ ค็อบบี้ ไมนู ที่มีชื่อเป็นสำรองในเกมนี้ กับการประเดิมติดทีมชาติลงเล่นในรายการใหญ่เป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้านี้มีโอกาสลงเล่นในเกมอุ่นเครื่อง และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ จนสุดท้าย แกเร็ธ เซาธ์เกต ถึงกับต้องหนีบมาลุยศึกยูโร เป็น 1 ใน 26 ขุนพลของ ทีมชาติอังกฤษ

สำหรับเกมเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา แม้ว่าเต็งหนึ่งอย่าง อังกฤษ จะประเดิมชัยชนะได้สำเร็จ แต่ดูเหมือนว่าฟอร์มของพวกเขาจะไม่เป็นที่พึงพอใจสำหรับแฟนๆสักเท่าไหร่ ซึ่งก็พอจะเข้าใจได้หากเราลองมากางสถิติในเกมนี้ออกมาดู ผลปรากฏว่า ตลอด 90 นาที พวกเขามีโอกาสยิงเพียงแค่ 5 ครั้งเท่านั้น

ซึ่งเป็นตัวเลขที่น้อยมากๆ ในแง่ของรูปเกมเป็นอีกหนึ่งเกมที่ออกมาในเชิงน่าเบื่อสุดๆ โอกาสยิงของทั้งสองทีมรวมกันแค่ 11 ครั้ง (อังกฤษ 5 เซอร์เบีย 6) แถมสปีดเกมก็ค่อนข้างช้า และเกมก็หยุดค่อนข้างบ่อย แน่นอนว่าแฟนบอลจากเมืองไทยที่ถ่างตารอดูเกมนี้ ต้องมีบางส่วนที่เผลอหลับกันไปบ้างอย่างแน่นอน

image 36 - รีแคปช็อตเด็ดเปิดฉากศึก ยูโร 2024 เหล่าเต็งจ๋าพากันคว้าชัยเกมเปิดสนาม

ขณะที่ ค็อบบี้ ไมนู ขวัญใจของสาวกปีศาจแดง ถูกเปลี่ยนตัวลงมาในนาทีที่ 86 ของเกม แทนที่ จู๊ด เบลลิงแฮม คนทำประตูในเกมนี้ มีโอกาสสัมผัสบอลเพียงแค่ 2 ครั้ง และมีอัตราจ่ายบอลสำเร็จ 2/2 ครั้ง ถือว่าเวลาของเขายังค่อนข้างที่จะน้อยอยู่ แต่ไม่แน่ กับฟอร์มของ ทีมชาติอังกฤษที่ยังไม่ลงล็อคลงตัวสักเท่าไหร่ อาจเป็นโอกาสดีสำหรับขุมกำลังสำรองบางคน ที่อาจจะได้รับโอกาสลงสนามในนัดหน้า ที่ทีมชาติอังกฤษ จะต้องโคจรมาเจอกับ ทีมชาติเดนมาร์ก ซึ่งจะเป็นการดวลกันสำหรับ แก๊งค์แมนยู โดยตรง

ฟากของ อังกฤษ ก็จะมี ลุค ชอว์ พร้อมกับ ไมนู ส่วน เดนมาร์ก ก็จะมี อีริคเซ่น กับ ฮอยลุนด์ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่น่าดูเลยทีเดียวสำหรับสาวก ปีศาจแดง

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค

Share: