“2 ถ้วยแชมป์ใน 2 ปีก็ไม่เลวนะ เข้ารอบชิงชนะเลิศ 3 ครั้งใน 2 ปีก็ไม่แย่เลย แต่ผมก็ยังไม่พอใจแค่นี้ เราต้องทำให้ดีกว่านี้ หากแมนยูฯ ไม่ต้องการผม ผมก็จะไปที่อื่นเพื่อคว้าถ้วยรางวัล เพราะนั่นคืองานที่ผมต้องทำ”
2 ปี 2 แชมป์ ใครทำได้บ้าง ???
นี่คือบทสัมภาษณ์อันมีนัยยะของ เอริค เทน ฮาก กุนซือของ ของพลพรรค ปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน หลังจากที่พาทีม ทำผลงานหักปากกาเซียนด้วยการเอาชนะคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ณ สนามเวมบลีย์ คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ไปครองเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
เอริค เทน ฮาก ทำให้ แมนฯ ยู ครองแชมป์ฟุตบอลที่เก่าแก่ที่สุดในโลกเป็นสมัยที่ 13 โดยเป็นรองเพียงแค่ อาร์เซน่อล เพียงทีมเดียวเท่านั้นที่ได้แชมป์ เอฟเอ คัพ ไปทั้งสิ้น 14 ครั้ง อย่างไรก็ตามการคว้าแชมป์ของทัพ ปีศาจแดง กลับไม่ได้การันตีอนาคตของกุนซือชาวดัตช์รายนี้เลยแม้แต่น้อย
หักปากกาเซียน ตอกข่าวลือ ถือถ้วย เอฟเอ
โดยก่อนที่นัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ มีรายงานหนาหูในเกาะอังกฤษว่า บอร์ดบริหารของ ปีศาจแดง ที่นำโดย เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ต้องการวางตัวกุนซือคนใหม่เข้ามาคุมทีม ต่อจาก เอริค เทน ฮาก ในฤดูกาลหน้า ไม่ว่าผลการแข่งขันในรายการ เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลศจะออกมาในรูปแบบใด
และต้องยอมรับแต่โดยดีว่าแม้ผลงานส่วนตัวของ เอริค เทน ฮาก จะสามารถพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วย 2 รายการจาก 2 ปีแรกที่เข้ามารับงานในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ด้วยทรงฟุตบอลและรูปแบบการเล่นนั้น ไม่ได้ประทับสาวก เร้ด เดวิลส์ เอาซะเลย โดยสถิติในรอบชิงชนะเลิศกับ เรือใบสีฟ้า ทีมของ เทน ฮาก มีการครอบครองบอลเพียง 26.5% เท่านั้น
มองแบบเข้าข้าง ให้โอกาสดาวรุ่งแจ้งเกิด
อย่างไรก็ตามหากมองแบบเข้าข้าง เทน ฮาก ทีมในยุคของเขา มีการมอบโอกาสให้นักเตะดาวรุ่งอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ หัวหอก วัย 21 ปี, อเลฮานโดร การ์นาโช่ ปีกวัย 19 ปี ได้เข้ามาเป็นตัวหลักของทีม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรายของ ค็อบบี้ ไมนู กองกลาง วัย 19 ปี ที่ยิงประตูในนัดชิง พร้อมสร้างสถิติเป็นแข้งวัยทีนชาวอังกฤษที่ยิงประตูได้ในนัดชิง เอฟเอ คัพ ต่อจาก สตีฟ แม็คเคนซี่ ในเกมที่ แมนฯ ซิตี้ ดวลกับ สเปอร์ส ในปี 1981
เท่านั้นยังไม่พอเมื่อ ไมนู ยังเป็นนักเตะคนแรกที่เกิดในศตวรรษที่ 21 ด้วยที่ยิงประตูได้ในเกมชิงถ้วย เอฟเอคัพ และเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับสองที่ส่งบอลเข้าประตูในเกมนี้ได้ด้วยวัย 19 ปี 36 วันรองจาก จอห์ย ซิสันส์ ของทีม เวสต์แฮม ในปี 1964 ขณะมีอายุ 18 ปี 215 วัน นอกจากนี้ทั้ง ไมนู และ การ์นาโช่ ทำให้นัดชิงดำ เอฟเอ คัพ ปีนี้ เป็นครั้งแรกสุดที่มี 2 นักเตะอายุไม่เกิน 20 ปีที่ทำประตูได้ในเกมเดียวกันด้วย
ขณะที่เรื่องของสถิติทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำให้ เรือใบสีฟ้า เสียสถิติแพ้เป็นเกมแรกในรอบ 35 เกมรวมทุกรายการ นอกจากนี้ยังทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แพ้นัดชิงชนะเลิศเป็นหนที่ 2 นับตั้งแต่เข้ามารับงานในถิ่น เอติฮัต สเตเดี้ยม โดยก่อนหน้านี้ เป๊ป แพ้ในรอบชิงชนะเลิศเพียงครั้งเดียว โดยเป็นการแพ้ให้กับ เชลซี 0-1 ในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2021 ที่ ณ ตอนนั้นมี โธมัส ทูเคิ่ล คุมทัพ สิงโตน้ำเงินคราม อยู่
ตัวเจ็บเพียบ น่าเห็นใจ แต่ไม่ใช่ข้ออ้าง
และหากมาวิเคราะห์จากสถิติอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น บางทีก็น่าเห็นใจสำหรับ เอริค เทน ฮาก เพราะในฤดูกาลที่ผ่านมา ทัพ ปีศาจแดง คือทีมที่โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานมากที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ โดยทัพ ปีศาจแดง ครองแชมป์นักเตะเจ็บมากที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ โดยเจ็บไปถึง 45 ครั้งตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา
1. แมนฯ ยูไนเต็ด 45 ครั้ง
2. เชลซี 43 ครั้ง
3. นิวคาสเซิล 41 ครั้ง
4. ไบรท์ตัน 41 ครั้ง
5. แอสตัน วิลลา 39 ครั้ง
6. สเปอร์ส 37 ครั้ง
แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นทำให้ เอริค เทน ฮาก ไม่สามารถเค้นฟอร์มของต้นสังกัดออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมเกมรับก็ยังต้องมาเจอปัญหาทั้งซีซั่น เนื่องจากคู่เซ็นเตอร์แบ็คที่ต้องเปลี่ยนไปเรื่อยแทบทุกสัปดาห์ โดยตลอด 2 ซีซันที่ผ่านมา เทน ฮาก จัดผู้เล่น 11 คนแรกที่สมบูรณ์ได้เพียงนัดเดียวเทานั้น อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างหาใช่ข้ออ้างของ เทน ฮาก เพราะทุกทีม ก็ล้วนเจอปัญหาในลักษณะเดียวกัน เพียงแต่ว่า แมนฯยู ดันมากที่สุด
ยกตัวอย่างเช่น เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็เคยประสบปัญหานักเตะพากันบาดเจ็บจนผลงานของ ลิเวอร์พูล ย่ำแย่ แต่ หงส์แดง ก็ยังเล่นฟุตบอลมีรูปแบบ ขณะที่ นิวคาสเซิ่ล ก็ตัวเจ็บก็เยอะไม่ต่างจาก แมนฯยู แต่ก็ยังมีทรงบอลที่น่าพิศมัยกว่าทรงบอลของ เอริค เทน ฮาก
เป้าหมายที่แท้จริงในฤดูกาลล่าสุด
อย่าลืมว่าเป้าหมายหลักของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลที่ผ่านมา หากเลือกได้พวกเขาคงอยากจบท็อปโฟร์มากกว่าการคว้าโทรฟี่ปีที่ 2 ติดต่อกันในยุคของ เอริค เทน ฮาก แต่ผลงานในลีกของ ปีศาจแดง กลับหมุดลุ้นพื้นที่ แชมเปี้ยนส์ลีก ไปตั้งแต่ไกโห่ ยังโชคดีที่ได้โควตา ยูฟ่า ยูโรปา ลีก จากการเป็นแชมป์ เอฟเอ คัพ เป็นการปลอบใจ
ฤดูกาลนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียประตูรวมทุกรายการไปถึง 82 ลูก ซึ่งมากที่สุดในรอบ 45 ปี ของสโมสร และผลงานในลีกก็ยิงประตูได้เพียง 57 ลูก จาก 35 เกม โดยเป็นจำนวนตัวเลขที่น้อยที่สุดในบรรดาทีมในครึ่งบนของศึก พรีเมียร์ลีก
สัปดาห์ชี้ชะตา เทน ฮาก อยู่หรือไป แล้วใครจะมาเสียบ ?
จากนี้อนาคตของ เทน ฮาก คงขึ้นอยู่กับว่าบอร์ดบริหารชุดใหม่ของ แมนฯ ยู ที่ประกอบด้วย แรตคลิฟฟ์, โอมาร์ เบอร์ราดา ประธานบริหาร, เจสัน วิลคอกซ์ ผู้อำนวยการเทคนิค และ แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ ที่จะประเมินผลงานของ เทน ฮาก ออกมาเป็นอย่างไร
ล่าสุด เจมส์ ดั๊คเกอร์ เทียร์ 1 สาย แมนเชสเตอร์ จากเทเลกราฟ รายงานว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ได้พูดคุยกับตัวแทนของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ และ โธมัส แฟรงค์ ซึ่งตอนนี้สโมสรกำลังสำรวจตัวเลือกต่างๆ ก่อนตัดสินใจว่าจะปลด เอริค เทน ฮาก หรือไม่
ขณะที่ ฟาบริซิโอ โรมาโน่ รายงานว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะมีการประชุมบอร์ดบริหารในสัปดาห์นี้ เพื่อทบทวนตำแหน่งผู้จัดการทีมของ เอริค เทน ฮาก
โดยสโมสรได้มีการพูดคุยกับผู้จัดการทีมรายอื่นๆเพื่อเตรียมการหากเกิดการเปลี่ยนแปลง ทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ INEOS ซึ่งการพูดคุยภายในได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และภายในสัปดาห์นี้ก็จะทราบว่า เอริค เทน ฮาก จะได้เป็นผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อไปแนวฤดูกาลหน้าหรือไม่
สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ
เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค