กีฬาฟุตบอล

จุดเปลี่ยน สิงโตคำราม โกงความตาย ลิ่วชนสวิตฯ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024

1 7 67 1 - จุดเปลี่ยน สิงโตคำราม โกงความตาย ลิ่วชนสวิตฯ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024

“เราเปิดเทปเกมบอลโลก 1966 ให้นักเตะดู เพื่อให้รู้ว่า เจฟฟ์ เฮิร์สต์ ซึ่งทำแฮตทริกในรอบชิงชนะเลิศ พาทีมชนะ เยอรมนีตะวันตก 4-2 นั้น ไม่ได้ลงเล่นเลยจนถึงรอบ 8 ทีม และมันยากแค่ไหนกับสิ่งที่พวกเขาเจอ ทำให้นักเตะลงสนามด้วยความกระหาย และพร้อมลุยเต็มที่”

บทสัมภาษณ์ช่วงหนึ่งของ แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่สิงโตคำราม ที่ยืนยันว่าตัวเอง ไม่มีความคิดเรื่องความพ่ายแพ้อยู่ในหัว ก่อนเกมที่ อังกฤษ จะพลิกนรก เอาชนะ สโลวาเกีย 2-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ในศึก ยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา 

มรสุมรุม แกเร็ธ เซาธ์เกต ก่อนเกม

image 5 - จุดเปลี่ยน สิงโตคำราม โกงความตาย ลิ่วชนสวิตฯ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024

เรียกได้ว่าโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเลยทีเดียว สำหรับผลงานการคุมทีมชาติอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต แม้ว่าเจ้าตัวจะสามารถพาทัพ สิงโตคำรามผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยการคัมแบ็กล่าสุดดังกล่าวของพลพรรค สิงโตคำราม ทำให้พวกเขาทำสถิติเอาชนะได้ 4 นัดหลังสุด แม้จะเสียประตูแรกไปก่อน ในมหกรรมฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปนี้ โดยมีเพียง ทีมชาติฝรั่งเศส เท่านั้นที่ทำได้มากกว่าด้วยจำนวน 5 ครั้ง

เกมดังกล่าวแกเร็ธ เซาธ์เกต จัด 11 ผู้เล่นตัวจริงแบบคาดเดาได้ไม่ยาก ประกอบไปด้วยผู้รักษาประตู จอร์แดน พิคฟอร์ด แนวรับประกอบด้วน ไคล์ วอล์คเกอร์,จอห์น สโตนส์,มาร์ค เกฮี และ คีแรน ทริปเปียร์ แดนกลางให้โอกาส ค็อบบี้ เมนู ออกสตาร์ทตัวจริง ประสานงานกับ เดแคลน ไรซ์ และ จู๊ด เบลลิงแฮม แนวรุกมี บูคาโย่ ซาก้า, ฟิล โฟเด้น และให้ แฮร์รี่ เคน รับบทกองหน้าตัวเป้า ซึ่งจะเห็นได้ว่าชุดตัวจริงของ อังกฤษ มีเพียง ค็อบบี้ ไมนู คนเดียวเท่านั้นที่ได้ออกสตาร์ทตัวจริงเป็นเกมแรกในทัวร์นาเม้นต์ ยูโร 2024

ค็อบบี้ เมนู ไอ้หนูคนนี้มีของ อนาคตแดนกลาง ทรี ไลออนส์

image 6 - จุดเปลี่ยน สิงโตคำราม โกงความตาย ลิ่วชนสวิตฯ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024

การออกสตาร์ทตัวจริงของ ค็อบบี้ เมนู ทำให้เจ้าตัวทำสถิติกลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่อันดับที่ 3 ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงให้กับ ทีมชาติอังกฤษ ในรอบน็อคเอาท์ในทัวร์นาเมนต์ระดับ เมเจอร์ ต่อจาก ไมเคิ่ล โอเว่น และ เวย์น รูนีย์ ด้วยวัย 19 ปี 72 วัน แถมผลงานส่วนตัวไอ้หนู เมนู ยังโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆสวนทางกับผลงานโดยรวมของ ทีมชาติอังกฤษ ไมนู มีส่วนในการเล่นเกมรุกของ อังกฤษ มากกว่า คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อย่างชัดเจน เขาไม่เพียงแต่เป็นตัวรับถ่ายส่งบอลที่ไว้ใจได้ของทีม แต่ยังมีจังหวะตะลุยเลี้ยงบอลขึ้นไปหน้ากรอบเขตโทษซึ่งสร้างความแตกต่างได้ในเกมที่น่าอึดอัด

โดยเกมแรกในชีวิตของ เมนู ที่ได้รับใช้ชาติในฐานะ 11 ตัวจริง ในเกมกับ สโลวาเกีย มีดังต่อไปนี้ : อยู่ในสนาม 84 นาที : สัมผัสบอล 77 ครั้ง : ผ่านบอลสำเร็จ 65/68 ครั้ง (96%) : ลูกจ่ายสำคัญ 1 ครั้ง  : โอกาสยิง 2 (หลุดกรอบ 1 ครั้ง, ติดบล็อก 1 ครั้ง) : เลี้ยงบอลสำเร็จ 1 ครั้ง : ชนะการดวลลูกกลางอากาศ 100% : สกัดบอล 2 ครั้ง : ดักตัดบอล 1 ครั้ง

เบลลิงแฮม ลมหายใจแห่งทัพ สิงโตคำราม

image 7 - จุดเปลี่ยน สิงโตคำราม โกงความตาย ลิ่วชนสวิตฯ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024

นอกจากตำแหน่งของ เมนู แล้ว ยังมีเครื่องหมายคำถามตัวโตๆเกี่ยวกับการจัดทีมของ เซาธ์เกต ว่าเพราะเหตุใดเขายังจะยึด 3 ประสานในแนวรุกอย่าง ฟิล โฟเด้น, จู๊ด เบลลิงแฮม และ บูกาโย่ ซาก้า เล่นร่วมกัน ทั้งที่ผลงานออกมาไม่ค่อยเป็นโล้เป็นพายสักเท่าไหร่ สักแต่อาศัยความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นในการเข้าทำและสร้างสรรค์โอกาสไปในแต่ละเกม ซึ่งเกมล่าสุดที่ อังกฤษ โกงตายเอาชนะ สโลวาเกีย แกเร็ธ เซาธ์เกต ถูกวิพากย์วิจารณ์ โดยเฉพาะในช่วง 45 นาทีแรก ที่ สิงโตคำราม ตกเป็นฝ่ายตามหลัง แถมมีสถิติอันเลวร้ายเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นโอกาสครองบอล 75% แต่มีโอกาสยิงเพียง 6 ครั้งมากกว่า สโลวะเกีย ที่ครองบอล 25% แต่มีโอกาสลุ้นประตูถึง 4 ครั้ง

อีกหนึ่งผู้เล่นที่เป็นลมหายใจของทัพ สิงโตคำราม และจะขาดเขาไปไม่ได้อีกแล้วต่อจากนี้ นั่นก็คือ จู๊ด เบลลิงแฮม ที่เกมกับ สโลวาเกีย เจ้าตัวพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำให้ ทรี ไลอ้อนส์ ซึ่ง จู๊ด ก็ทำได้อย่างน่าประทับใจ ยกระดับฟอร์มการเล่นขึ้นมาได้ดีขึ้นทันตาเห็นทั้งเกมรับและเกมรุก โดยสถิติที่น่าสนใจคือ เบลลิงอแฮม เป็นผู้เล่นที่เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของทีมด้วยจำนวน 3 ครั้งและยังเรียกฟาล์วได้มากที่สุดด้วยจำนวน 3 ครั้ง

ขณะที่เกมรับ เบลลิงแฮม เข้าปะทะสำเร็จมากที่สุดในทีมถึง 4 ครั้ง และที่ไม่พูดถึงก็คงไม่ได้นั่นก็คือลูกจักรยานอากาศของ เบลลิงแฮม ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่ช่วยต่อลมหายใจให้ ทีมชาติอังกฤษ ได้อยู่ในเส้นทาง ยูโร 2024 ต่อไป นอกจากนี้เบลลิงแฮม ยังทำไปแล้ว 27 ประตู ให้กับ เรอัล มาดริด และทีมชาติอังกฤษ ในฤดูกาลนี้ มากกว่าผู้เล่นคนใดที่มีอายุ 21 ปี หรือต่ำกว่าใน 5 ลีกชั้นนำของยุโรปด้วย

ส่วนแนวรุกในเกมกับ สโลวาเกีย ตลอดทั้งเกม 90 นาที แฮร์รี่ เคน มีโอกาสสับไก 4 ครั้ง แต่ไม่ตรงกรอบเลยแม้แต่หนเดียว อย่างไรก็ตาม ดาวยิงวัย 30 ปี ก็มาทำประตูสำเร็จจากโอกาสสังหารครั้งที่ 5 ในเกมนี้  แถมยังเป็นแอสซิสต์ของตัวสำรองอย่าง อิแวนส์ โทนีย์ ด้วย ซึ่งจังหวะนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนของทีมชาติอังกฤษ ในช่วงที่เหลือหลังจากนี้ดด้วย

จุดเปลี่ยนสำคัญของ เซาธ์เกต และชาวคณะ

image 8 - จุดเปลี่ยน สิงโตคำราม โกงความตาย ลิ่วชนสวิตฯ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024

หลังจบเกม แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือ สิงโตคำราม ที่ถูกวิจารณ์มาเละเทะก่อนหน้านี้ ออกมาให้สัมภาษณ์ชื่นชมผลงานของลูกทีมที่รวมใจกันโกงความตาย ก่อนผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึก ยูโร 2024 ว่า

“ผมภูมิใจในตัวผู้เล่น และสปิริตที่นักเตะแสดงให้เห็น ทุกคนที่เราส่งลงไปในเกมมีส่วนสำคัญ และช่วยให้เราได้ประตู พวกเขาต่างผลักดัน ช่วยเหลือซึ่งกัน และกัน นั่นคือการสร้างความแตกต่าง ลูกยิงของ เบลลิงแฮมสุดยอดมาก ผมกำลังคิดว่าเราอาจจะถอดเขาออก แต่คุณรู้ว่าเขามีความสามารถแบบนั้นในช่วงเวลาแบบนี้ เรารู้ว่าในเกมเราจำเป็นต้องเล่นกับบอลให้ดีกว่านี้ เราไม่สามารถหาวิธีแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสมในครึ่งแรก”

“ในครึ่งหลังเราทำได้ดีขึ้น ภายใต้ความกดดันนั้นพวกเขาก็ไม่หยุดที่จะหาหนทาง ในที่สุดมันก็เป็นการทุ่มไกลแบบโบราณที่เราทำประตูได้ ช่วงเวลาเหล่านั้นสามารถเกิดขึ้นได้เมื่อคุณยังสวมเสื้อทีมชาติของคุณขณะที่ แฮร์รี เคน เขาเป็นดาวยิงที่ไม่ธรรมดา เขามีความโดดเด่นในฐานะกัปตันที่คอยดูแลให้เรือมั่นคง เขาเคยผ่านสถานการณ์เหล่านี้มาก่อนแล้ว และคืนนี้ก็เป็นคืนที่นักเตะคงจะนำไปพูดถึง นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในทัวร์นาเมนต์นี้”

อย่างไรก็ตามแม้ว่า เซาธ์เกต จะออกมาพูดให้ดูดีแค่ไหน แต่สุดท้ายทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับผลงานในสนามมากกว่าบทสัมภาษณ์ที่ออกมา เพราะต้องยอมรับว่าผลงานของทัพ สิงโตคำราม ในศึก ยูโร หนนี้ มันไม่น่าประทับใจเหล่าสาวก สิงโตคำราม สักเท่าไหร่ 4 เกม ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มมาจนถึงรอบน็อกเอ๊าต์ พวกเขายิงประตูในเวลา 90 นาทีได้เพียง 2 ประตูเท่านั้น จากโอกาสการเข้าทำทั้งสิ้น 44 ครั้งในทัวร์นาเม้นต์นี้ ซึ่งจาก 44 โอกาสการเข้าทำ เป็นการยิงตรงกรอบ 12 ครั้ง ออกนอกกรอบ 18 ครั้ง และติดบล็อกอีก 14 ครั้ง

ด่านต่อไป ม้ามืด จอมเซอร์ไพร์ส ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์

image 9 - จุดเปลี่ยน สิงโตคำราม โกงความตาย ลิ่วชนสวิตฯ 8 ทีมสุดท้าย ยูโร 2024

จากสถิติที่เกิดขึ้นจะเห็นได้ ทีมชาติอังกฤษ มีโอกาสครองเฉลี่ย 60.5 % ต่อเกม แต่กลับไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสการเข้าทำได้มากเท่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นจึงเป็นที่น่าจับตามองว่าเกมในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ที่ อังกฤษ จะเข้าไปพบกับ สวิตเซอร์แลนด์ รูปแบบและแท็กติกการเล่นของ แกเร็ธ เซาธ์เกต และชาวคณะจะเป็นอย่างไร เพราะขุนพลแดนนาฬิกาถือเป็นทีมม้ามืดจอมเซอร์ไพร์สในศึก ยูโร หนนี้ เพราะพวกเขายังไม่แพ้ใคร แถมแบ่งแต้มจากชาติยักษ์ใหญ่อย่าง เยอรมนี รวมไปถึง โค่น อิตาลี ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายมาแล้ว

สำหรับศึก ยูโร 2024 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ทีมชาติอังกฤษ จะพบกับ ทีมชาติสวิตเซอร์แลนด์ โดยจะคิกออฟกันในวันที่ 6 ก.ค.นี้ ณ สนาม ดุสเซลดอร์ฟ อารีน่า ประเทศเยอรมัน เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค

Share: