ทำไปทำมาดูเหมือนว่าสถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในยุคของ รูเบน อโมริม อาจจะหนักหนาสาหัสกว่าในยุคของ เอริค เทน ฮาก ซะแล้ว หลังจากที่ล่าสุดเจ้าตัวพาพลพรรค ปีศาจแดง แพ้คารัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ต่อทีมรองบ่อนอย่าง คริสตัล พาเลซ
ต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง 0-2 ท่ามกลางรูปเกมที่ดูไม่เป็นโล้ไม่เป็นพายเอาเสียเลย ซึ่งถึงตอนนี้ แมนยูฯ แพ้ไปแล้วถึง 11 นัด จากการลงสนาม 24 เกมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มี 29 แต้ม หล่นมาอยู่อันดับ 13 ของตาราง
อโมริม คิดอะไร จัดตัวไร้กองหน้าอาชีพ
เกมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา รูเบน อโมริม กุนซือ ปีศาจแดง เลือกที่จะไม่ส่ง 2 กองหน้าอาชีพอย่าง ราสมุส ฮอยลุนด์ กับ โจชัว เซิร์กซี่ ลงสนามเป็น 11 ตัวจริง แต่เลือก ค็อบบี้ เมนยู ลงเล่นในตำแหน่ง False 9 เท่านั้นยังไม่พอจากความพ่ายแพ้ต่อ พาเลซ ข่าวร้ายซ้ำสองของ ยูไนเต็ด ก็คืออาการบาดเจ็บของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ที่ดูเหมือนว่าน่าจะหมดโอกาสลงสนามในช่วงที่เหลือของฤดูกาลไปแล้ว โดยหลังจบเกม รูเบน อโมริม ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงผลงานของลูกทีม รวมทั้งกล่าวถึงอาการบาดเจ็บของ ลิซานโดร มาร์ติเนซ ว่า
“ผมรู้สึกว่าเราทำบางอย่างได้ดีในระหว่างเกม แต่มันน่าผิดหวังมากที่เราเสีย 2 ประตูแบบที่น่าจะป้องกันได้ และความแตกต่างคือเราสร้างโอกาสได้แต่ยิงไม่ได้ เราได้เรียนรู้บางอย่างจากฟอร์มการเล่น นักเตะพยายามทำสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น เราต้องก้าวไปข้างหน้าด้านอาการบาดเจ็บของ ลิซานโดร เขาจะต้องไปให้แพทย์ดูอาการ แต่ผมคิดว่ามันเป็นสถานการณ์ที่น่าวิตก มันเป็นเรื่องเลวร้ายของทีมเราอย่างแท้จริง เราคงต้องรอประเมินสิ่งต่างๆ ร่วมกับแพทย์”
โดยหลังเกม ยังไม่มีความชัดเจนว่า ลิซานโดร มาร์ติเนซ จะต้องร้างสนามไปนานแค่ไหน และเจ็บเข่าจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตามอาการบาดเจ็บของ ลิซา ปฏิเสธไม่ได้ว่า สร้างปัญหาในแนวรับให้กับทีมแบบเต็มๆ เนื่องจากสถิติที่ออกมา เมื่อใดก็ตามที่ ลิซานโดร ไม่ได้ลงสนาม ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะไม่ได้เลยแม้แต่เกมเดียว ดังนั้นในทางกลับกันอาจเป็นโอกาสของดาวรุ่งอย่าง เลนนี โยโร รวมทั้งนักเตะใหม่อย่าง เอย์เดน เฮฟเว่น ที่เพิ่งไปคว้าตัวมาจาก อาร์เซน่อล เช่นเดียวกัน
จอมคาบ้าน! อโมริม เนรมิต โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด สู่ รีสอร์ท แอนด์ สปา
ถึงตอนนี้ แมนยู ฯ แพ้คาบ้านครั้งที่ 7 จาก 13 เกมเหย้าในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มากที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร เทียบเท่ากับฤดูกาล นับตั้งแต่ฤดูกาล 1893-94 นี่เป็นครั้งแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้คาบ้านมากที่สุดต่อหนึ่งซีซั่น โดยถึงตอนนี้พวกเขาแพ้ไปแล้วถึง 7 เกม จากการลงสนาม 13 เกม ณ โรงละครแห่งความฝัน ในฤดูกาลอันน่าผิดหวังนี้
แถมนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลที่แล้ว แมนยูฯ แพ้คาบ้านในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว 13 นัดจนถึงตอนนี้ มีแค่ วูล์ฟแฮมป์ตัน ทีมเดียวที่แพ้คาบ้านมากกว่าพวกเขา นอกจากนี้จะสังเกตุได้ว่าแรงกระหายในช่วงออกสตาร์ทเกมของทัพ ปีศาจแดง มันแทบไม่มีให้เห็น และน้อยครั้งมากๆที่ พวกเขาจะออกนำคู่แข่งและปิดเกมได้อย่างรวดเร็ว
โดยจากสถิติมันบ่งชี้ทุกอย่างในคุณภาพของมันอยู่แล้ว ซึ่งตัวเลขที่ออกมา พวกเขายิงประตูในครึ่งแรกไม่ได้ ในเกมพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ถึง 18 เกม โดยหลังจบเกมที่แพ้คาบ้านต่อ คริสตัน พาเลซ แฟนบอลรวมทั้งนักวิเคราะห์พุ่งเป้าโจมตีไปยังแท็คติกการเล่นที่ รูเบน อโมริม วางหมากลงมาต่อกรกับ พาเลซ
เพราะเกมนี้ เจ้าตัวหันมาใช้ระบบไร้กองหน้าตัวเป้า พร้อมกับมอบหมายให้ ค็อบบี้ เมนยู ลงเล่นในตำแหน่ง False 9 ซึ่งผลก็ออกมาอย่างที่เห็น เมื่อ ยูไนเต็ด ขาดความเฉียบคมชัดและการสร้างสรรค์โอกาสที่มีประสิทธิภาพ ผู้เล่นที่เล่นในตำแหน่ง False 9 ขาดพื้นที่ในการเชื่อมเกมกับเพื่อนร่วมทีม ทำให้การเข้าทำไร้ซึ่งประสิทธิภาพ และแทบไม่ได้สร้างความอันตรายให้กับผู้รักษาประตูของ พาเลซ มากนัก
การตัดสินใจของ อโมริม ที่ใช้ระบบ False 9 อาจไม่เหมาะสม โดยเฉพาะเมื่อเจอกับทีมที่มีเกมรับแข็งแกร่งซึ่งการใช้กองหน้าตัวเป้า หรือปรับแท็คติกอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าใช้ระบบไร้กองหน้า ซึ่งการแพ้ในเกมนี้เป็นการเตือนให้ แมน ยู พิจารณาระบบการเล่นที่เหมาะสมกับคู่แข่งและสถานการณ์
นอกจากเกมรุกจะไม่คมแล้ว เกมรับของพวกเขา ก็ยังมีปัญหาในการรับมือการโจมตีของ พาเลซ โดยเฉพาะในจังหวะประตูทั้ง 2 ที่เปิดช่องให้คู่แข่งทำประตูได้อย่างง่าย โดยหลังจากนี้ต้องรอดูว่า อโมริม จะนำระบบหรือแผนการเล่นแบบไหนมาใช้ในเกมถัดไปเพื่อปรับปรุงจุดที่เป็นปัญหานี้
บรูโน่ รับผีไร้ ฮอยลุนด์ เซิร์กซี ตัวจบ ทำพัง
ขณะที่ บรูโน่ แฟร์นานเดส กัปตันทีม แมนฯ ยู ให้สัมภาษณ์หลังเกมอันน่าผิดหวัง โดยยอมรับว่าการขาดกองหน้าตัวเป้า ส่งผลให้ประสิทธิภาพเกมรุกของ ยูไนเต็ด ดร็อปลงไปอย่างชัดเจน โดยเผยว่า
“เราขาดความดุดันเล็กน้อยในการเข้าสู่พื้นที่สุดท้ายและ ขาดผู้ที่จะเปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นเป็นประตู เราต้องยิงประตูและสร้างสรรค์เกมให้มากกว่านี้ ดึงผู้เล่นคนอื่นเข้ามาและคว้าโอกาสจากตรงนั้น เรามีโอกาสบ้าง แต่ก็ไม่ได้มากเท่าที่ควร เมื่อคุณชนะเกมต่างๆ คุณจะมั่นใจมากขึ้น เราชนะ 3 เกมหลังสุดและทุกคนก็มั่นใจ ดังนั้นสำหรับเราตอนนี้ มันเป็นการถอยหลัง และเราต้องเข้าใจว่าเราทำสิ่งดีๆ บางอย่าง และแม้กระทั่งวันนี้ เราก็แสดงให้เห็นสิ่งดีๆ บางอย่าง ผลลัพธ์ไม่ได้แสดงให้เห็น แต่เรายังคงประสบความสำเร็จได้มากมายจากสิ่งที่เราทำมาตลอด”
ขณะเดียวในเกมดังกล่าว มีการปราฏตัวของ แพทริก ดอร์กู แบ็กซ้ายคนใหม่ของ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตามจากผลงานอันน่าผิดหวัง ทำให้แฟนบอลในโลกโซเชียลพากันแชร์ภาพปฏิกิริยาของ ดอร์กู ที่ถึงกับเอามือมาปิดหน้าปิดตาเลยทีเดียว นอกจากนี้ บีบีซี สปอร์ต ยังเผย 3 เรื่องน่าอับอายที่เกิดขึ้นกับ แมนยูฯ หลังโดน คริสตัล พาเลซ บุกมายัดเยียดความปราชัยคาถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด
จับตาอนาคต แรชฟอร์ด หลังซบอก แอสตัน วิลล่า
ทางด้านความเคลื่อนไหวของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่กลายเป็นนักเตะใหม่ของ แอสตัน วิลล่า ด้วสัญญายืมตัวจนจบฤดูกาล โดยดีลดังกล่าวสื่ออังกฤษเผยเบื้องหลังว่าเป็น อูไน เอเมรี กุนซือ สิงห์ผยอง ที่ร้องขอเรื่องนี้ด้วยตัวเอง หลังจากที่พวกเขาเพิ่งจะปล่อย จอน ดูราน ไปให้กับ อัล นาสเซอร์ ในลีกของ ซาอุดิอาระเบีย
สำหรับค่าเหนื่อยของ แรชฟอร์ด จำนวน 325,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ แอสตัน วิลล่า ดีลกับ แมนยู ลงตัว โดยพวกเขาจะรับผิดชอบค่าเหนื่อยที่ 75 เปอร์เซนต์ ขณะที่ ปีศาจแดง จะรับผิดชอบออกให้ที่ 25 เปอร์เซนต์ นอกจากนี้ทาง แอสตัน วิลล่า ยังมีการยื่นเงื่อนไขขอซื้อขาดในช่วงซัมเมอร์นี้ อยู่ที่ 40 ล้านปอนด์ หากพอใจผลงานในช่วงที่ยืมตัว สำหรับสัญญาฉบับปัจจุบันของ มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังมีอยู่จนถึงปี 2028 ซึ่งต้องจับตาอนาคตว่าสุดท้ายแล้วเจ้าตัวจะลงเล่นให้กับสโมสรใดในฤดูกาลหน้า
การย้ายไป แอสตัน วิลล่า อาจเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ แรชฟอร์ด เนื่องจากเขาจะได้รับโอกาสลงสนามมากขึ้น และสามารถช่วยทีมในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่ง วิลล่า ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ โดยเพื่อนใหม่แนวรุกของ แอสตัน วิลล่า ที่ แรชฟอร์ด จะเข้ามาช่วยผนึกกำลัง จะประกอบไปด้วย โอลี วัตกิ้น ,มอร์แกน โรเจอร์ ,จาค็อบ แรมซีย์ รวมทั้ง ดอนเยล มาเล่น อีกหนึ่งราย
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปของ แมนฯยู จะเป็นการลงสนามในศึก เอฟเอ คัพ รอบ 4 โดยจะเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่มี รุด ฟาน นิสเติลรอย คุมทีม คิกออฟในคืนวันศุกร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ ก่อนที่จะกลับไปเล่นในลีกด้วยการบุกไปเยือน สเปอร์ส ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้
สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันจากต่างประเทศ
เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค
