ศึก ยูโร 2024 เดินทางมาถึงเกมนัดชี้ชะตาการผ่านเข้าสู่รอบน็อกเอาต์กันแล้ว โดยถึงตอนนี้ (24 มิ.ย.) ได้ 4 ชาติที่ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอ๊าต์ไปแล้ว ได้แก้ เยอรมัน ,สวิตเซอร์แลนด์ ,สเปน และ โปรตุเกส อย่างไรก็ตามยังมีเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มให้ลุ้นกันอยู่ว่า ชาติใดจะตบเท้าตาม 4 ชาติดังกล่าว โดยจาก 2 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ผู้เล่นหลายคนทั้งเหล่าบรรดาแข้งมากประสบการณ์ รวมไปถึงบรรดาดาวรุ่งหน้าใหม่ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พาชาติบ้านเกิดของตัวเองบรรลุเป้าหมายและผลการแข่งขันที่ต้องการ
อย่างไรก็ตามก็ยังมีผู้เล่นอีกหลายคนที่เป็นตัวความหวังของชาติบ้านเกิด แต่ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มเปรี้ยงปร้างอย่างที่ควรจะเป็น โดยสื่อต่างประเทศอย่าง Sportsbrief.com ได้มีการวิเคราะห์สถิติที่น่าสนใจในด้านลบ ของ 5 กองหน้าหรือเหล่าบรรดาตัวรุก ที่ทำผลงานได้ไม่ประทับใจเท่าที่ควรจาก 2 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ในศึก ยูโร 2024 ส่วนใครจะติดอยู่ในลิสต์อันไม่พึงประสงค์นี้บ้างไปติดตาม พร้อมๆกัน
1. โรเมลู ลูกากู – ทีมชาติเบลเยี่ยม
จากข้อมูลของ WhoScored โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยี่ยม ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตรฐาน และต่ำกว่าที่หลายคนคาดกการณ์กันไว้ก่อนที่ทัวร์นาเม้นต์จะเริ่มขึ้น โดยจาก 2 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่ม ลูกากู มีโอกาสจบสกอร์ 8 ครั้ง โดยเป็นการพลาดจังหวะที่ควรจะเป็นประตูถึง 5 ครั้ง แถมยังมาโดน VAR ริบประตูในเกมกับ โรมาเนีย
เท่ากับว่าตอนนี้ ลูกากู ยังยิงไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว แถมสถานการณ์ของทีมก็ยังไม่ค่อยสู้ดี ยังต้องลุ้นเข้ารอบในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มกับ ทีมชาติยูเครน ในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ และหากนำสถิติของ ลูกากู มาเทียบกับผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าด้วยกันในศึกยูโร 2024 ผลปรากฏว่าหัวหอกร่างยักษ์ชาวเบลเยี่ยมมีสถิติที่แย่ที่สุด หากวัดจากจังหวะที่มีโอกาสสับไกใส่ชื่อตัวเองบนสกอร์บอร์ด
2. อเล็กซานดร้า มิโตรวิช – ทีมชาติเซอร์เบีย
อดีตกองหน้าของ ฟูแล่ม ที่ย้ายไปหากินในซาอุดิระเบียกับ อัล ฮิลาล ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นกองหน้าที่น่าจับตามองคนหนึ่งของศึกยูโร 2024 หลังจากที่เจ้าตัวยิงในรอบคัดเลือกไปถึง 5 ประตู ในขณะเดียวกันหัวหอกวัย 29 ปีก็สามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างร้อนแรงกับต้นสังกัด ด้วยการตะบัน 28 ประตูจากการลงสนาม 28 นัดเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามสำหรับผลงานของ มิโตรวิช ในรอบสุดท้ายของศึก ยูโร 2024 กลับยังคลำเป้าไม่เจอจากการลงสนาม 2 เกมแรกที่แพ้ อังกฤษ 0-1 และเสมอ สโลวีเนีย 1-1 แถมยังพลาดโอกาสการทำประตูไปแล้วถึง 3 ครั้งในทัวร์นาเม้นต์นี้ โดย มิโตรวิช และผองเพื่อน ทีมชาติเซอร์เบีย ยังต้องไปลุ้นในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่จะชี้ชะตากับ ทีมชาติเดนมาร์ก ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้
3. อองตวน กรีซมันน์ – ทีมชาติฝรั่งเศส
อดีตผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำศึก ยูโร 2016 ที่กลับมาในฐานะขาใหญ่ในการพาทัพ ตราไก่ ไล่ล่าแชมป์ยุโรป โดยแม้ว่าศึกยูโรหนนี้ กรีซมันน์ จะมีอายุ 33 ปีแล้ว แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านการค้าแข้งกับสโมสรชั้นนำลา ลีกา อย่าง แอตเลติโก มาดริด รวมไปถึง บาร์เซโลน่า มันก็ไม่แปลกที่แฟนๆทีมชาติฝรั่งเศสจะตั้งความหวังกับ อองตวน กรีซมันน์ เหมือนกับรายการใหญ่ในอดีตที่ผ่านมา
ตลอด 2 เกมในรอบแบ่งกลุ่ม กรีซมันน์ มีโอกาสจบสกอร์ไปทั้งสิ้น 8 ครั้ง แต่ยังเปลี่ยนเป็นประตูไม่ได้เลย โดยเฉพาะเกมกับ ทีมชาติฮอลแลนด์ กรีซมันน์ พลาดโอกาสทองไปถึง 3 ครั้งจนทำให้เกมจบลงด้วยการเสมอ อัศวินสีส้ม 0-0 แถมตลอด 180 นาทีของเจ้าตัวยังไม่สามารถสร้างสรรค์โอกาสใดๆให้กับทัพ ตราไก่ ได้เลย โดยนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ทีมชาติฝรั่งเศส จะพบกับ ทีมชาติโปแลนด์ ในวันที่ 25 มิถุนายนนี้
4. บรูโน เพ็ตโควิช – ทีมชาติโครเอเชีย
หัวหอกวัย 29 ปีจาก ดินาโม ซาเกร็บ ถือเป็นตัวความหวังของทัพ ตาหมากรุก ในยุคนี้ จากผลงานกับต้นสังกัดที่ยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง แถมยังคว้าแชมป์ลีกมาแล้วถึง 5 สมัย นั่นจึงทำให้ความหวังของชาวโครแอตทั้งประเทศตกอยู่บนบ่าของ บรูโน เพ็ตโควิช ในศึก ยูโร 2024 ในฐานะความหวังใหม่ในการถล่มประตูของ โครเอเชีย
อย่างไรก็ตามช่วงเวลา 87 นาทีของ เพ็ทโควิช จาก 2 เกมแรกของรอบแบ่งกลุ่มศึก ยูโร 2024 เจ้าตัวไม่สามารถทำอะไรได้เป็นชิ้นเป็นอัน มีโอกาสจบสกอร์เพียง 4 ครั้ง และเป็นพลาดโอกาสทอง 2 ครั้ง แถมยังแทบไม่ได้สร้างความอันตรายใดๆอย่างที่แฟนๆ ตาหมากรุก หวังไว้ โดย โครเอเชีย จะลงสนามนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มด้วยการดวลกับ ทีมชาติอิตาลี ในวันที่ 25 มิถุนายน
5. คริสเตียโน่ โรนัลโด้ – ทีมชาติโปรตุเกส
แม้ว่าภาพรวมประสิทธิภาพของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะยังคงอันตราย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าด้วยวัย 39 ปี สังขารของ CR7 จะร่วงโรยไปตามไปเวลา โดยเกมที่ โปรตุเกส ถล่ม ตุรกี 3-0 แม้ว่า โรนัลโด้ จะแอสซิสต์ให้กับ บรูโน่ แฟร์นานเดส ยิงประตู แต่เมื่อใดก็ตามที่ดาวเตะจาก อัล นาเซอร์ ไม่มีชื่อบนสกอร์บอร์ดมันจะเหมือนจะขาดอะไรไปบางอย่างสำหรับทัวร์นาเม้นต์นี้
จาก 2 เกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม โรนัลโด้ มีโอกาสสับไกไปถึง 9 ครั้ง หากเทียบเป็นค่าเฉลี่ยก็คือ 4.5 ครั้งต่อเกม แต่กลับยังเป็นดาวยิงเป้าสะอาดของทัพ ฝอยทอง ณ เวลานี้ อย่างไรก็ตาม โรนัลโด้ ยังโอกาสจารึกชื่อตัวเองลงบนสกอร์บอร์ดในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มที่จะพบกับ ทีมชาติจอร์เจีย ในวันที่ 27 มิ.ย. นี้
สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ
เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค