กีฬาฟุตบอล

ตำนานฟรีคิกสั่งตาย ซ้ายสนั่นกัลโช่ฯ ซินิซา มิไฮจ์โลวิช

4 3 67777 - ตำนานฟรีคิกสั่งตาย ซ้ายสนั่นกัลโช่ฯ ซินิซา มิไฮจ์โลวิช

การยิงฟรีคิกในเกมฟุตบอล นอกจากจะทำให้สารอะดรินาลีนของคนยิง และแฟนบอลสูบฉีดได้ดีแล้ว ทีเด็ดจากลูกตั้งเตะก็ยังสามารถตัดสินเกมๆหนึ่งได้ด้วย

กำเนิดเจ้าพ่อลูกนิ่ง ต้องหาแผ่นดินใหม่จากภัยสงคราม

image - ตำนานฟรีคิกสั่งตาย ซ้ายสนั่นกัลโช่ฯ ซินิซา มิไฮจ์โลวิช

ว่ากันว่าศิลปะของการสังหารฟรีคิกไม่หลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการยิงปั่นโค้งข้ามกำแพง เหมือนที่ เดวิด เบ็คแฮม อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษ ทำให้เห็นบ่อยๆ รวมไปถึงลูกยิงติดไซด์ก้อยที่เป็นเครื่องหมายการค้าของ โรแบร์โต คาร์ลอส อดีตแบ็คซ้ายทีมชาติบราซิล

นอกจากนี้ในปัจจุบันเหล่าบรรดาเจ้าพ่อลูกนิ่งมักจะนิยมการยิงลูกส่าย เพราะด้วยวิวัฒนาการของฟุตบอลและรองเท้าสตั๊ดสมัยใหม่ มันส่งผลต่อการพุ่งของลูกบอล และเป็นการสร้างปัญหาใหญ่หลวงให้กับผู้รักษาประตู โดยหลายปีที่ผ่านมา มีนักฟุตบอลมักมายที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น เจ้าพ่อลูกนิ่ง

ไม่ว่าจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่ ,คริสเตียโน โรนัลโด ,ซิโก ,มิเชล พลาตินี ,เดวิด เบ็คแฮม, โรนัลดินโญ่ รวมไปถึง จูนินโญ แปร์นัมบูกาโน แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาไม่มีใครที่สามารถยิงแฮตทริกได้จากฟรีคิกได้หมดได้เลย ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะการยิงฟรีคิก 3 ประตูในเกมเดียว อัตราส่วนในการยิงเข้ามันเป็นอะไรที่แทบเป็นไปม่ได้

อย่างไรก็ตามมีผู้เล่น 1 คนที่สามารถสร้างชื่อจากการยิงฟรีคิกในลีกชั้นนำของยุโรป ก็คงเป็นใครไปได้ไม่ได้นอกจาก ซินิซา มิไฮจ์โลวิช อดีตปราการหลังทีมชาติยูโกสลาเวียผู้ล่วงลับนั่นเอง โดย มิไฮจ์โลวิช เป็นผู้เล่นน้อยคนในโลกที่สามารถทำแฮตทริกจากการยิงฟรีคิก นอกจากนี้การต่อสู้กับโรคร้ายของ มิไฮจ์ ในช่วงการเป็นผู้จัดการทีม ยังทำให้ทั้งโลกยอมรับว่า ซินิซา มิไฮจ์โลวิช คือนักสู้ผู้อุทิศชีวิตให้กับฟุตบอลอย่างแท้จริง

ซินิซา มิไฮจ์โลวิช เกิดในเมืองวูโควาร์ ประเทศโครเอเชีย ในปัจจุบัน โดยมีแม่เป็นชาวโครแอต และพ่อเป็นชาวเซิร์บ ในสมัยของสหพันธ์สาธารณรัฐสังคมนิยมยูโกสลาเวียในอดีต โดย มิไฮจ์ ผ่านความยากลำบากกับชีวิตในวัยเด็กท่ามกลางสงคราม  บ้านของเขาถูกทำลาย คนใกล้ตัวและคนที่รักถูกฆ่าตาย ดังนั้นเขาจึงใช้ลูกฟุตบอลนำทางไปสู่สถานที่ใหม่ท่ปลอดภัยกว่าบนโลกใบนี้

โด่งดังคับลีกบ้านเกิดจากการตะบันฟรีคิกอันบ้าระห่ำ

อย่างไรก็ตาม ซินิซา เป็นที่รู้จักของแฟนๆในประเทศบ้านเกิด ตั้งแต่เป็นเยาวชน จากการมีเท้าซ้ายอันทรงพลัง แม่นยำ และยังมีการวางเท้ายิงที่ยอดเยี่ยม มิไฮจ์โลวิช เริ่มต้นค้าแข้งกับ โบโรโว ในบ้านเกิด จากนั้นย้ายไปอยู่กับ วอจโวดิน่าในปี 1988 ในวัย 19 ปี ก่อนจะคว้าแชมป์แรกในชีวิต คือยูโกสลาเวีย เฟิร์ส ลีก หลังจากนั้น 2 ปีก็ย้ายไปอยู่กับ โนวี ซาด และย้ายไปร่วมทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศยูโกสลาเวีย ณ เวลานั้น อย่าง เร้ดสตาร์ เบลเกรด

มิไฮจ์โลวิช กลายเป็นผู้เล่นที่ได้รับการจับตามองมากๆคนหนึ่งของ ยูโกสลาเวีย หลังจากคว้าแชมป์ยูโกสลาเวีย เฟิร์ส ลีก 2 สมัย และถ้วยรางวัลระดับทวีป 2 รายการทั้ง ยูโรเปียน คัพ ซึ่งปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ อินเตอร์ คอนติเนนตัล คัพ ซึ่ง ณ เวลานั้น ดูเหมือนลีกบ้านเกิดจะเล็กไปเสียแล้วสำหรับ

เจ้าพ่อฟรีคิก รายนี้ ก่อนที่ในช่วงซัมเมอร์ปี 1992 แม้ว่า มิไฮจ์โลวิช จะได้รับความสนใจจาก ยูเวนตุส แต่สุดท้ายก็เซ็นสัญญากับ โรมา ด้วยราคาค่าตัว 5.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใต้การคุมทีมของกุนซือเพื่อนร่วมชาติอย่าง วูจาดิน บอชคอฟ

เริ่มผจญภัยในแดนมะกะโรนี ไม่ค่อยสวย

image 1 - ตำนานฟรีคิกสั่งตาย ซ้ายสนั่นกัลโช่ฯ ซินิซา มิไฮจ์โลวิช

มิไฮโลวิช ยึดตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟฝั่งซ้ายได้อย่างเหนียวแน่น และยังตะบันฟรีคิกให้ โรมา ในเกมกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในศึก ยูฟ่า คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่จากอาการบาดเจ็บของแบ็คซ้ายอย่าง อาเมเดโอ คาร์โบนี ในช่วงกลางฤดูกาล ทำให้ มิไฮจ์โลวิช ถูกจับเป็นยืนเป็นแบ็คซ้ายจากนั้นเป็นต้นมา อย่างไรก็ตามช่วงเวลาของ มิไฮจ์โลวิช กลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทั้งการปรับตัว วัฒนธรรมต่างๆ

รวมไปถึงผลงานในสนามที่มีดีเพียงลูกฟรีคิกเท่านั้น ซึ่ง มิไฮจ์โลวิช พูดถึงช่วงเวลาที่เขาเล่นใน โรม่า ว่า มันเป็น2 ฤดูกาลที่เลวร้ายที่สุดในอาชีพการงานของเขาเลยทีเดียว

ปี 1994 มิไฮจ์โลวิช ย้ายไปอยู่กับ ซามพ์โดเรีย ภายใต้การคุมทัพของ สเวน-โกรัน เอริกส์สัน พร้อมกับพาทีมความแชมป์ โคปปา อิตาเลีย ได้สำเร็จ แถมยังผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ ฤดูกาล 1994–95 ด้วย ก่อนที่ ลา ซามพ์ จะพ่ายแพ้ต่อ อาร์เซนอล กด้วยการดวลจุดโทษ

ปี 1998 สเวน โกรัน-อีริกส์สัน กุนซือชาวสวีเดน ที่นำร่องย้ายไปคุม ลาซิโอ สร้างดีลแทงใจแฟนๆ หมาป่าเหลือง-แดง ด้วยการซื้อตัว มิไฮโลจ์วิช มาร่วมงานกันอีกครั้งกับทัพ อินทรีฟ้า-ขาว ก่อนที่จอมปั่นฟรีคิกจากยูโกสลาเวีย จะสร้างชื่อให้โลกจำ กลายเป็นที่รักของแฟนบอล ลาซิโอ ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

และรายการในประเทศมากมาย ซึ่ง 1 ในตำนานของเขาก็คือการตะบันแฮตทริกฟรีคิก ใส่ ซามพ์โดเรีย ทีมเก่าของตัวเอง พร้อมกับพา อินทรีฟ้า-ขาว ชนะไปแบบสุดมัน 5-2 เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 1998

สเวน โกรัน อีริคสันส์ กุนซือผู้มีคู่มือการใช้ มิไฮจ์โลวิช

image 2 - ตำนานฟรีคิกสั่งตาย ซ้ายสนั่นกัลโช่ฯ ซินิซา มิไฮจ์โลวิช

หลังจากนั้นปี 2004 มิไฮจ์โลวิช ย้ายมาเล่นกับ อินเตอร์ มิลาน โดยคว้าแชมป์กัลโช่ สมัยที่ 2 โดยทัพ เนรัซซูรี นับเป็นสโมสรสุดท้ายในการเล่นฟุตบอลอาชีพของ เจ้าพ่อฟรีคิกรายนี้ โดย มิไฮจ์โลวิช ประกาศเลิกเล่นอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2006 ขณะที่ผลงานกับทีมชาติยูโกสลาเวีย ลงเล่นไป 63 นัด ยิง 10 ประตู และได้ลงเล่นฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศสด้วย

มิไฮโลวิช เป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในนักเตะที่ยิงฟรีคิกได้ดีที่สุดตลอดกาล เขาทำประตูจากฟรีคิกได้ถึง 28 ประตูในลีกสูงสุดของอิตาลี มากที่สุดในบรรดานักเตะทุกคน และอย่างที่บอกไปว่า แฮตทริกฟรีคิก ที่ซัดใส่ทีมเก่าอย่าง ลา ซามพ์ ในปี 1998 มันมีสตอรีและสถิติมากมายที่เกิดขึ้น ซึ่งหลังจากที่ มิไฮจ์โลวิช กระหน่ำ 3 ฟรีคิกใส่ ซามพ์โดเรีย คอลัมนิสต์จากแดนมะกะโรนี รายหนึ่งก็เขียนบรรยายสรรพคุณและพิษสง เจ้าพ่อฟรีคิกเลือดเซิร์บรายนี้ว่า

“ความกังวลใจปรากฏให้เห็นบนใบหน้าของ ฟาบริซิโอ เฟอร์รอน ผู้รักษาประตูของ ซามพ์โดเรีย ตั้งแต่ยังไม่ตั้งกำแพงด้วยซ้ำ นี่เป็นเพราะ เฟอร์รอน รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับพระอาทิตย์ขึ้นและตก”

“เฟอร์รอน อยู่ห่างจุดเตะราวๆ 20 เมตร เขาแทบทำอะไรไม่ได้เลยกับบอลที่ถูกยิงออกมา ในความเป็นจริง มีผู้รักษาประตูเพียงไม่กี่คนที่สามารถหยุดลูกฟรีคิกของ มิไฮจ์โลวิช ได้ แน่นอนว่าผู้เล่นคนอื่นก็สามารถยิงฟรีคิกได้ แต่ก็คงไม่มีใครทำได้อย่างสม่ำเสมอ และเล่นงานใส่ผู้รักษาประตูเหมือนกับที่ มิไฮจ์โลวิช ทำ”

“เขาคือกองหลังจอมโหดที่เต็มไปด้วยควาสมดุดัน และยังมีเท้าซ้ายที่น่าอัศจรรย์ เขาคือ โรนัลด์ คูมัน ของ บอนข่าน ขณะครองบอล บางครั้งก็เหมือนกับ วินนี โจนส์ คุณสมบัติที่เหมือนกับ คูมัน นำไปสู่ความเก่งกาจของเขาจากฟรีคิก”

สถิติการยิงประตูของเขาใน เซเรีย อา ทั้งหมด 38 ประตู มาจากตั้งเตะถึง 28 ประตู  ยิ่งกว่านั้นในอาชีพค้าแข้งของเขา เขาเคยตะบันแฮตทริกด้วยลูกฟรีคิกมาแล้วถึง 3 ครั้ง ไม่มีนักเตะคนไหนอีกเเล้วในเซเรีย อา ที่จะยิงได้มากขนาดนี้ นอกเหนือจากวิธีการยิงฟรีคิกที่ได้ทุกแบบแล้ว มิไฮโลวิช ยังเป็นนักเตะที่เป็นศูนย์กลางของทีมเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่เขาเล่นให้กับ ซามพ์โดเรีย และ ลาซิโอ โดยคนที่รู้ดีที่สุดก็คือ สเวน โกรัน อีริคส์สัน กุนซือที่อยู่กับเขาทั้ง 2 สโมสร

เรื่องบ้าๆจากฟรีคิกของ ซินิซา มิไฮจ์โลวิช

image 3 - ตำนานฟรีคิกสั่งตาย ซ้ายสนั่นกัลโช่ฯ ซินิซา มิไฮจ์โลวิช

สำหรับเคล็ดไม่ลับที่ มิไฮจ์โลวิช เคยออกมาเปิดเผยถึงการยิงฟรีคิกของตัวเองว่า เขาจะซ้อมเฉพาะลูกยิงฟรีคิกเป็นเวลา 1 ชั่วโมงหลังจากการซ้อมปกติในทุกๆวัน ซึ่งลักษณะการยิงของเขาจะเป็นการยิงด้วยเท้าซ้าย ปั่นโค้งไม่มาก แต่น้ำหนักจะรุนแรง ทรงพลัง และแม่นยำ ซึ่งมีการวัดสถิติการยิงฟรีคิกของ มิไฮจ์โลวิช ซึ่งเคยมีการระบุว่าฟรีคิกของ มิไฮโลวิช มีค่าเฉลี่ยความเร็วสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 165 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเลยทีเดียว

นอกจากนี้จากการเปิดเผยของผู้เป็นพ่อ ระบุว่า ที่บ้านที่ มิไฮโลจ์วิช เติบโตขึ้นมาเขาต้องเปลี่ยนประตูโรงรถทุกๆ 2-3 สัปดาห์ เนื่องจาก มิไฮจ์โลวิช จำลองประตูโรงรถเป็นกรอบประตูนั่นเอง เท่านั้นยังไม่พอ ตอนนี้ มิไฮจ์โลวิช ค้าแข้งกับ อินเตอร์ มิลาน เขาเคยยิงฟรีคิกใส่เพื่อนร่วมทีมอย่าง อัลบาโร เรโคบา จนข้อเท้าหัก ในระหว่างการฝึกซ้อมด้วย แถมในศึกฟุตบอลโลก1998 ที่ประเทศฝรั่งเศส

มีรายงานว่า ซินิซา มิไฮจ์โลวิช ยิงฟรีคิกอัดใส่ เจอร์เกน คลินสมันน์ กองหน้าทีมชาติเยอรมันจนถึงขั้น ทุบเยื่อหุ้มปอดฉีกและซี่โครงร้าวมาแล้ว

สำหรับ มิไฮโลจ์วิช ลงเล่นให้ทีมชาติ ยูโกสลาเวีย ต่อเนื่องด้วยการเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นเซอร์เบีย และ มอนเตเนโกร ไปทั้งหมด 63 เกม ยิงได้ 10 ประตู โดยผ่านการลุยศึกฟุตบอลโลก 1998 และยูโร 2000 มาแล้ว รวมถึงเคยเป็นทำงานเป็นกุนซือของเซอร์เบีย ช่วงปี 2012-2013 ด้วย

ผู้เล่นที่ทำแฮตทริกได้จากลูกฟรีคิกในหนึ่งเกม จากการบันทึกสถิติ
มาร์กอส อัสซูเนา ของซานโตส ปี 1998
เรย์ แม็คคินนอน ของ ดันดี ยูไนเต็ด ปี 1997
คอสตาส ฟรานต์เซสกอส ของ พีเอโอเค ปี 1997
คริสเตียโน ดา ซิลวา ของ คาชิวา เรย์โซล ปี 2015
แจ็คสัน ของ นาเซา กาโนนอ ปี 2021)

ไม่ได้ชอบเล่นฟุตบอล แต่ผมชอบยิงแต่ฟรีคิก

image 4 - ตำนานฟรีคิกสั่งตาย ซ้ายสนั่นกัลโช่ฯ ซินิซา มิไฮจ์โลวิช

อย่างไรก็ตาม กองหลังชาวเซิร์บได้ออกมายอมรับในภายหลังว่าจริงที่ตัดสินมาเล่นฟุตบอลก็เพราะว่าพิศมัยและโปรดปรานการตะบันลูกนิ่งเป็นที่สุด โดยเปิดเผยว่า โดยภายหลังชาวเซิร์บยอมรับในภายหลังว่า

“ผมเล่นฟุตบอลเพื่อลูกฟรีคิก อันที่จริงแล้ว ผมไม่ได้ชอบฟุตบอลมากนัก แต่การยิงฟรีคิกเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก สำหรับผมแล้วนั่นคือฟุตบอล ถ้าไม่มีการฟรีคิก ผมก็คงไม่ได้มาเล่นฟุตบอล”

หลังแขวนสตั๊ด มิไฮโลวิช ผันตัวมาทำงานด้านโค้ชฟุตบอล มีประสบการณ์คุมทีมในอิตาลีทั้ง ซามพ์โดเรีย, เอซี มิลาน, โตริโน่, โบโลญญ่า รวมถึงเคยคุมทีมชาติเซอร์เบีย ระยะสั้น 2012-2013 โดยช่วงที่เขาคุมโบโลญญ่า เมื่อปี 2019 มิไฮโลวิชถูกตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว ซึ่งเขาได้พยายามต่อสู้เพื่อรักษาอาการป่วยด้วยเคมีบำบัดมาตลอด และทำงานคุมทีม โบโลญญ่า ไปด้วย

ทิ้งไว้แค่ความทรงจำ ตำนานฟรีคิกซ้ายสั่งตาย ซินิซา มิไฮจ์โลวิช

image 5 - ตำนานฟรีคิกสั่งตาย ซ้ายสนั่นกัลโช่ฯ ซินิซา มิไฮจ์โลวิช

มิไฮโลวิช หายจากมะเร็งในปี 2020 และเริ่มกลับมาคุมทีม โบโลญญ่า อีกครั้ง จนกระทั่งในช่วงเดือน มีนาคม 2022 เขาก็แจ้งข่าวว่าเชื้อร้ายได้ลุกลามในตัวเขาอีกครั้งจนในที่สุดเขาได้จากโลกนี้ไปด้วยวัย 57 ปี เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2022 ซึ่งครอบครัวของ มิไฮจ์โลวิช เป็นผู้ให้ข่าวการจากไปของ เจ้าพ่อฟรีคิก รายนี้ โดยออกแถลงการณ์ผ่านทางสื่อออนไลน์ว่า

“เรารู้สึกเจ็บปวดยิ่งที่ต้องประกาศว่าเขาได้จากไปก่อนเวลาอันควร เขาคือสามี พ่อ ลูกชาย และพี่ชายที่เป็นแบบอย่างที่ดีของเรา”

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค

Share: