กีฬา

โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายด่านจอมสังหารแห่งทีมชาติปารากวัย

11 10 67 - โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายด่านจอมสังหารแห่งทีมชาติปารากวัย

ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าหนึ่งในเทรนด์ยอดฮิตของรูปแบบการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ ณ ปัจจุบัน ก็คือการใช้ผู้รักษาประตูเป็นหนึ่งในตัวขึ้นเกม จากที่สมัยก่อนเรามักจะได้เห็นนายด่านทำหน้าที่ป้องกันประตู และเตะสาดขึ้นไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว แต่สำหรับสมัยนี้มีให้เห็นไม่น้อยที่ลูกแอสซิสต์เกิดจากปราการด่านสุดท้าย

ฟุตบอลเทรนด์ใหม่กับสไตล์นายด่านใช้เท้า

image 18 - โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายด่านจอมสังหารแห่งทีมชาติปารากวัย

นั่นจึงไม่แปลกที่เราจะเห็นโกลทั้งหลาย กลายเป็นผู้เล่นตัวสุดท้าย และพร้อมที่จะร่วมเล่นกับเพื่อนร่วมทีม เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับทีมให้มากที่สุด ซึ่งนั่นส่งผลให้เหล่าสโมสรชั้นนำในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มีผู้รักษาประตู ที่ถือได้ว่าใช้เท้าดีที่สุดในโลกในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น อลิสซง เบ็คเกอร์ ของ ลิเวอร์พูล เอแดร์ซอน ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ,ดาบิด รายา ของ อาร์เซน่อล ,โรเบิร์ต ซานเชซ ของ เชลซี รวมไปถึง อ็องเดร โอนาน่า ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อย่างไรก็ตามหากจะพูดถึงนายด่านที่ใช้เท้าดีและมีมากกว่าการแอสซิสต์ ณ ปัจจุบัน อาจจะเหลือน้อยเต็มที แต่หากย้อนกลับไปในยุค 90 ต่อเนื่อง 2000 มันจะมีผู้รักษาประตูจอมบ้าดีเดือดชาวปารากวัยคนหนึ่งที่ใส่ถุงมือโกลยิงประตูเป็นว่าเล่น ถึงตรงนี้หลายคนน่าจะพอเดาออกว่าเรากำลังจะนำเสนอเรื่องราวของ โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายด่านจอมสังหารที่จารึกประวัติศาสตร์และวีรกรรมแสบไว้มากมายสมัยที่ยังยืนจังก้าเฝ้าเสา

สร้างชื่อจากบทบาท “นายทวารจอมสังหารฟรีคิก”

image 20 - โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายด่านจอมสังหารแห่งทีมชาติปารากวัย

ตลอด 22 ปีกับอาชีพเฝ้าเสา ชิลาเวิร์ต กระหน่ำไปถึง 67 ประตู ซึ่งส่วนใหญ่มาจากฟรีคิกและจุดโทษ ในจำนวนนี้ 8 ประตูทำได้ในนามทีมชาติ โดยเฉพาะฟุตบอลโลก 2002 รอบคัดเลือก เขาทำได้ถึง 4 ประตู ซึ่งนั่นทำให้ ชิลาเวิร์ต เป็นผู้รักษาประตูที่ยิงประตูได้มากที่สุดตลอดกาลอันดับ 2 รองจาก โรเจริโอ เซนี นายด่านจอมเก๋าชาวบราซิล ที่ตะบันไป 131 ประตู

นอกจากนี้ ชิลาเวิร์ต ยังเป็นผู้รักษาประตูคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่เคยทำแฮตทริกยิงจากลูกตั้งเตะให้เบเลซ ซาร์สฟิลด์ สโมสรต้นสังกัดในอาร์เจนตินา เอาชนะ เฟอร์โร เมื่อปี 1999 ด้วย

โดยแม้ว่า ชิลาเวิร์ต จะเป็นผู้รักษาประตูมาตั้งแต่เยาวชน แต่สิ่งหนึ่งที่เขาทำมาตลอดคือเวลาที่ทีมได้ฟรีคิกหรือลูกจุดโทษคือเขาจะเป็นคนอาสายิงเป็นคนแรก โดยเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ชิลาเวิร์ต เคยเล่นเป็นกองหน้ามาก่อน ก่อนที่พี่ชายจจับมาเป็นโกล ตั้งแต่นั้นมาจึงยึดตำแหน่งผู้รักษาประตูมาโดยตลอดพร้อมกับมีสกิลการหวดลูกนิ่งติดตัวมาด้วย

เฝ้าเสาในลีกบ้านเกิดตั้งแต่อายุ 15 ปี

paraguayo sportivo luqueno 1982 df - โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายด่านจอมสังหารแห่งทีมชาติปารากวัย

เส้นทางของ โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต เริ่มต้นที่ประเทศปารากวัย ไต่เต้าจากการเป็นนายด่านวันเดอร์คิดกับสโมสรท้องถิ่นอย่าง สปอร์ติโว ลูเกโน และได้รับโอกาสสัมผัสเกมลีกสูงสุดครั้งแรกด้วยวัยเพียง 15 ปี หลังจากนั้นก็ย้ายไปอยู่ทีมที่ใหญ่กว่าอย่าง กัวรานี ในปีต่อมา ซึ่งจากคาแรกเตอร์ที่โดดเด่น กล้าได้กล้าเสีย มีความบ้าบิ่นอยู่ในหัวใจ มีความเป็นผู้นำ

และมีความแข็งแกร่งและดุดันยามออกมาตัดบอล พร้อมด้วยส่วนสูง 188 เซนติเมตร จึงทำให้อนาคตของ ชิลาเวิร์ต ค่อยข้างสดใสไม่น้อยและเริ่มได้รับการจับตามองจากทีมในต่างแดน จนกระทั่งเป็น ซาน ลอเรนโซ่ ในลีกของอาร์เจนติน่าที่คว้าตัวโกลรายนี้ไปร่วมทีมในปี 1985

image 21 - โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายด่านจอมสังหารแห่งทีมชาติปารากวัย

หลังจากที่รับใช้ ซาน ลอเรนโซ่ มาราวๆ 3 ปีครึ่ง ก็ถึงเวลาที่ โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต จะได้โบยบินไปวาดลวดลายในยุโรป โดยในปี 1988 เรอัล ซาราโกซ่า ทีมในลา ลีกา สเปน ก็จัดการคว้าตัว ชิลาเวิร์ต ไปร่วมทีม ด้วยราคาสถิติสโมสร และแม้ว่า 2 ฤดูกาลแรก ชิลาเวิร์ต จะได้เป็นตัวหลักของทีม พร้อมกับถูกเรียกตัวติดทีมชาติปารากวัยเป็นครั้งแรก แถมยังยิงประตูในสีเสื้อทีมชาติได้ในปีเดียวกัน 

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ารสชาติการเฝ้าเสาของนายด่านรายนี้จะจืดชืดไปหน่อย เพราะอย่าลืมว่าอีกหนึ่งเครื่องหมายการค้าของ ชิลาเวิร์ต ก็คือการยิงฟรีคิก แต่กลับไม่ได้รับโอกาสจากผู้จัดการทีมที่มองว่าเสี่ยงเกินไปที่จะให้ปราการด่านสุดท้ายมารับหน้าที่สังหารฟรีคิก เพราะคิดว่าได้ไม่คุ้มเสีย

image 22 - โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายด่านจอมสังหารแห่งทีมชาติปารากวัย

นอกจากนี้ด้วยความทุ่มเทเกินร้อย บวกนิสัยใจร้อน พร้อมปะทะทั้งร่างกายและคารมกับคู่แข่งอยู่บ่อยครั้ง ทำให้เขาได้ฉายา บูลด็อก และมักโดนใบแดง ถูกแบนห้ามลงสนามเพราะความเจ้าอารมณ์อยู่เสมอ นั่นจึงทำให้ ชิลาเวิร์ต ต้องบอกลาการเฝ้าเสาในยุโรปกับ เรอัล ซาราโกซ่า หลังจากผ่านไป 3 ปีครึ่ง

และนั่นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต ดังเป็นพลุแตก เพราะหลังจากที่เจ้าตัวย้ายกลับมาเล่นในลีกสูงสุด อาร์เจนตินา อีกครั้งกับ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ ในซีซั่น 1997-98 ชิลาเวิร์ต กระหน่ำไปถึง 12 ลูกจากการลงสนาม 35 เกม เรียกได้ว่าสถิติยิงประตูดีกว่าผู้เล่นในแนวรุกหลายๆคนด้วยซ้ำ นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชิลาเวิร์ต ก็กลายเป็นเพชรฆาตสังหารฟรีคิกอันดับต้นๆของทีม

โดยตลอด 10 ฤดูกาลที่เฝ้าเสาให้กับ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ นายด่านปารากวัยตะบันไปถึง 48 ประตูจากการลงสนามมากกว่า 300 เกมให้กับทีมคู่บุญอย่าง เบเลซ ซาร์สฟิลด์

ปล่อยของในศึกฟุตบอลโลก เวทีแจ้งเกิด โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต

image 23 - โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายด่านจอมสังหารแห่งทีมชาติปารากวัย

ในช่วงที่เฝ้าเสาให้กับ เบเลซ ซาร์สฟิลด์ ศึกฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศส ก็มาถึง และนับเป็นเวทีปล่อยของของ ชิลาเวิร์ต อย่างแท้จริง แฟนบอลทั่วโลกได้ประจักษ์กับสิ่งที่ ชิลาเวิร์ต สร้างเอาไว้ นั่นก็คือสีสันและความระทึกใจจากนายด่ายปารากวัยรายนี้ โดย ชิลาเวิร์ต พา ปารากวัยทะลุเข้ารอบน็อกเอ๊าต์ได้แบบหักปากกาเซียน แถมในรอบ 16 ทีม

สุดท้ายผลงานของ ชิลาเวิร์ต ก็เกือบช่วยให้ปารากวัยสร้างตำนานแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ ก่อนที่สุดท้ายจะพ่ายให้กับ ฝรั่งเศส ในช่วงต่อเวลา 0-1 จากประตูชัยของ โลรองต์ บลองก์ ที่เป็นโกลเด้นโกลแรกในประวัติศาสตร์ เวิลด์คัพ

แม้ว่า ปารากวัย จะจอดป้ายเพียงแค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึก ฟรองซ์ 98 โดยที่ไม่มีประตูจาก โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต แต่ลีลาการเซฟของเขาก็ยังติดตราตรึง จนได้รับเลือกเป็นผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมคนหนึ่งของโลก นอกจากนี้ ชิลาเวิร์ต ยังได้รับเลือกเป็นกัปตันทีมชาติในฟุตบอลโลกถึง 2 สมัยในปี 1998 และ 2002

ซึ่งนับเป็นเวิลด์คัพ หนสุดท้ายของนายด่านจอมสังหารรายนี้ ที่ตอนนั้นย้ายไปยุโรปอีกครั้งกับ สตราบูร์ก ในลีกฝรั่งเศส หลังจากนั้น ชิลาเวิร์ต ก็ไปเล่นในอุรุกวัยกับ เปนารอล เป็นช่วงสั้นๆในปี 2003 ลงสนาม 14 เกมซัดไปอีก 4 ประตู

กลับบ้านหลังที่ 2 แขวนถุงมือและสตั๊ดกับ เบเลซ ซาร์สฟิลด์

image 24 - โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายด่านจอมสังหารแห่งทีมชาติปารากวัย

ปี 2004 ย้ายกลับมาที่สโมสรอู่ข่าวอู่น้ำอย่าง เบเลซ ซาร์สฟิลด์ อีกครั้ง แต่หนนี้ไม่ได้ย้ายกลับมาเพื่อเฝ้าเสาหรือยิงฟรีคิก แต่เป็นการย้ายกลับมาเพื่อประกาศอำลาอาชีพการเฝ้าเสาและการสังหารฟรีคิกอย่างเป็นทางการในวัย 39 ปี พร้อมหันไปรับงานนักพากย์ นักวิจารณ์ทางทีวี พร้อมยกระดับตัวเอง

ด้วยการการตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางชีวิตจากคนกีฬามาเป็นนักการเมือง ด้วยการประกาศท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีกับ มาริโอ อับโด เบนิเตซ ประธานาธิบดีหัวอนุรักษนิยมคนปัจจุบันของปารากวัย จากพรรคโคโลราโด มาแล้วในปี 2023

ชิลาเวิร์ต เชื่อว่าผู้รักษาประตูไม่จำเป็นจะต้องยืนบนเส้นเพื่อคอยป้องกันประตูเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ผู้รักษาประตูควรจะใช้เท้าได้ดี มีร่วมส่วนกับทีม และควรได้รับโอกาสได้ใช้พรสวรรค์ด้านการออกบอล เพื่อให้ทีมเกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งหากพูดถึง โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต แน่นอนว่าแฟนฟุตบอลในวัย 35 อัพก็น่ารู้จักพิษสงและความร้ายกาจของ ชิลาเวิร์ต เป็นอย่างดี

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันจากต่างประเทศ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค

750x410 WP Cover FCB Partner 2024 - โฮเซ่ หลุยส์ ชิลาเวิร์ต นายด่านจอมสังหารแห่งทีมชาติปารากวัย

Share: