หากจะเอ่ยถึงตำนานผู้รักษาประตูที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในยุค 2000 เชื่อเหลือเกินว่าจะต้องมีชื่อของ อิเกร์ กาซิยาส ผู้รักษาประตูทีมชาติสเปน อยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน

อดีตนายด่านกัปตันทีม ราชันชุดขาว คือผู้รักษาประตูที่เคยได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดในโลก โดยเจ้าตัวมีคนที่เป็นไอดอลในดวงใจมี 2 คนคือ อันโดนี่ ซูบิซาร์เรต้า อดีตโกลของ บาร์เซโลน่า และ จานลุยจิ บุฟฟ่อน นายด่านอิตาเลียนของ ยูเวนตุส

ฉายแววตั้งแต่เด็ก ลุยยุโรปตั้งแต่ 16 ปี

กาซิยาส เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 1981 ในเมืองโมสโตเลส ในกรุงมาดริด โดยในปี 1990 กาซิยาส เริ่มต้นอาชีพค้าแข้งในระบบเยาวชนของ เรอัล มาดริด หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ ลา ฟาบริกา ในตำแหน่งปราการด่านสุดท้าย โดยเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 1997 กาซิยาส ถูกเรียกตัวให้ติดทีมชุดใหญ่เป็นครั้งแรกเพื่อพบกับ โรเซนบอร์ก ใน ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น แม้ว่าจะไม่ได้ลงสนามก็ตาม

โดยในฤดูกาลนั้น กาซิยาส ใช้เวลาส่วนใหญ่เฝ้าเสาให้กับ เรอัล มาดริด เซ ในลีกระดับ 4 ซะมากกว่า ซึ่งพวกเขาคว้าแชมป์กลุ่มภูมิภาคได้สำเร็จด้วย ซึ่งนั่นทำให้ กาซิยาส เริ่มถูกทีมงานสต๊าฟฟ์จากทีมชุดใหญ่ให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ

เฝ้าเสาหนแรกในลา ลีกา ที่มาพร้อมสถิติ

ปี 1999 กาซิยาส ได้ลงสนามในศึกลา ลีกา เกมแรกในชีวิต ในเกมที่ เจ้าบุญทุ่ม บุกไปเสมอกับ แอธเลติก บิลเบา 2-2 ที่สนาม ซาน มาเมส ก่อนที่ในปีเดียวกัน กาซิยาส ถูกส่งลงเฝ้าเสาเป็นตัวจริงครั้งแรก ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนสลีก รอบแบ่งกลุ่ม ฤดูกาล 1999–2000 ที่พลพรรค ราชันชุดขาว เจอกับ โอลิมเปียกอส จากกรีซ เมื่อเดือนกันยายน

ซึ่งเกมดังกล่าวทำให้ กาซิยาส จารึกสถิติกลายเป็นผู้รักษาประตูที่อายุน้อยที่สุดที่เคยลงเล่นในรายการ UCL ด้วยวัย 18 ปีและ 177 วัน ก่อนจะถูกทำลายในเวลาต่อมา

ในเดือนพฤษภาคม ปี 2000 กาซิยาส กลายเป็นผู้รักษาประตูที่อายุน้อยที่สุดด้วยวัยเพียง 19 ปี 4 วัน ที่เคยลงเล่นและคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก หลังจากเป็นส่วนหนึ่งของ เรอัล มาดริด ในเกมที่เอาชนะ บาเลนเซีย 3-0 ในรอบชิงชนะเลิศศึก UCL

แจ้งเกิดเต็มตัวจากรอบชิงชนะเลิศ UCL

จุดเด่นของ กาซิยาส คือ การป้องกันประตูที่เหนียวแน่น มีสปริงข้อเท้าที่ยอดเยี่ยม ซึ่งส่งผลให้ กาซิยาส เหินหาว ได้อย่างน่าทึ่ง ทั้งที่เป็นโกลที่ไม่ได้มีรูปร่างสูงใหญ่ปานยักษ์ปักหลั่นแต่อย่างใด นอกจากนี้ กาซิยาส ฝ ยังมีความเป็นผู้นำ ซึ่งทำให้เจ้าตัวได้สวมปลอกแขนกัปตันทีมชาติสเปน และเป็นรองกัปตันที่ เรอัล มาดริด ต่อจาก ราอูล กอนซาเลซ ด้วย

ฤดูกาล 2001–02 แม้ว่า กาซิยาส จะเสียตำแหน่งตัวจริงให้กับ เซซาร์ ซานเชซ หลังจากทำผลงานได้ไม่ดีในฤดูกาลก่อน แต่กลับมาแก้ตัวได้เมื่อ ซานเชซ ได้รับบาดเจ็บในช่วงนาทีสุดท้ายของ นัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2002 ก่อนที่ กาซิยาส จะถูกส่งลงสนามมาและเซฟลูกสำคัญได้หลายครั้ง ช่วยให้ทัพ ราชันชุดขาว เอาชนะ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ไปได้ 2-1 พร้อมกับคว้าโทรฟี่ บิ๊กเอียร์ ไปนอนกอดอีกครั้ง หลังจากนั้น กาซิยาส ก็สั่งสมบารมีที่มาพร้อมกับฝีมือจนได้กลายเป็นกัปตันแห่งถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ในที่สุด

ครองแชมป์โลกเมื่อปี 2010 กับลูกเซฟมหัศจรรย์

และหากยังจำกันได้ในรอบชิงชนะเลิศ เวิลด์คัพ 2010 ที่แอฟริกาใต้ กาซิยาส สร้างผลงานในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยการเซฟลูกหลุดเดี่ยวของ ร็อบเบน ในนาที 60 ซึ่งจังหวะดังกล่าวยังถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ กับลูกเซฟที่ว่ากันว่าเป็นการช่วยพา ทีมชาติสเปน คว้าแชมป์โลก ได้สำเร็จ และลูกเซฟดังกล่าวยังถูกยกให้เป็นการเซฟยอดเยี่ยมในประวัติศาสตร์ของศึกฟุตบอลโลกด้วย โดย กาซิยาส ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงจังหวะดังกล่าวแบบสุดถ่อมตัวว่า

“มันแค่เรื่องโชคดี ผมมั่นใจเลยว่า ถ้าร็อบเบนมาเผชิญหน้ากับผมแบบนั้น 10 หน เป็นไปได้ที่เขาจะยิงเข้า 9 ครั้ง วันนั้นมันเป็นเรื่องของสถานการณ์ หรือเพราะมีใครต้องการอยากให้มันเป็นแบบนั้น เขายิงมาโดนขาผมแล้วบอลมันก็แฉลบออกหลังไป”

โชเซ่ มูรินโญ่ เวรกรรมที่มาในรูปแบบผู้จัดการทีม

อย่างไรก็ตาม ฤดูกาล 2013 การเข้ามาของ โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือชาวโปรตุกีส ทำให้สถานการ์ของ กาซิยาส เปลี่ยนไป เมื่อ มูรินโญ่ ตัดสินใจดร็อป อีเกร์ กาซียาส ผู้รักษาประตูกัปตันทีมเป็นแค่ตัวสำรองในเกมลีก นัดที่ ราชันชุดขาว บุกไปแพ้ มาลาก้า 2-3 ถึงสนาม ลา โรซาเลด้า เมื่อปี 2013

นั่นนับเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ที่นายด่านทีมชาติสเปนต้องอยู่ที่ม้านั่งสำรอง ซึ่งถึงแม้ มูรินโญ่ จะบอกว่ามันเป็นการตัดสินใจด้านเทคนิค แต่เห็นได้ชัดว่ามันเกิดปัญหาความแตกแยก ในแคมป์ของ ราชันชุดขาว เพราะคำให้สัมภาษณ์ของ กาซิาส ใน 1 วันหลังจากที่พ่าย มาลาก้า นั้น นายทวารวัย 31 ปี ไม่มีคำที่สื่อว่าเขามีอาการบาดเจ็บเลยแม้แต่นิดเดียว

นี่นับเป็นอีกครั้งที่อดีตนายใหญ่ เอฟซี ปอร์โต้, เชลซี และ อินเตอร์ มิลาน มีปัญหากับทีมของเขาเอง ซึ่งไทม์ไลน์ของเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่เจ้าตัวมีปัญหากับ กาซิยาส และ เซร์คิโอ รามอส ในระหว่างซ้อม

ซึ่งต้นตอของเรื่องก็มาจากการพ่ายแพ้ต่อ บาร์เซโลน่า 1-2 ในศึก โกปา เดล เรย์ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก โดยเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้สื่อในแดนกระทิงดุออกโรงแฉว่า รามอส กับ กาซิยาส แท็คทีมกันไปทะเลาะกับ มูรินโญ่ ในการซ้อม เกี่ยวกับการตั้งรับจังหวะเซตพีซ

โดยเฉพาะในรายของ รามอส ที่ยังคงแสดงอาการงัดข้อกับ มูรินโญ่ อย่างต่อเนื่อง ด้วยการต่อปากต่อคำกับกุนซือชาวโปรตุกีสในห้องแต่งตัว หลังจบเกมลีก นัดที่บุกไปแพ้ เซบีย่า 0-1 ซึ่งเหตุการ์ครั้งนั้น ทำให้ รามอส ถูกจับนั่งเป็นตัวสำรอง ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม ดี นัดแรก ที่ ราชันชุดขาว เปิดรัง ซานติอาโก เบร์นาเบว ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-2

ในอีก 3 วันถัดมาถึงตรงนี้สถานการณ์ภายในทีม เรอัล มาดริด ภายหลังทีมร่วงตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลายเป็นเหมือนสงครามย่อยๆ เมื่อมีการเปิดฉากโจมตีกันเองระหว่างบรรดาผู้เล่นกับ ฝ่ายของ โชเซ่ มูรินโญ่ เทรนเนอร์ชาวโปรตุเกส

มูรินโญ่ ปะทะ กาซิยาส แท็คทีม รามอส 

ข่าวเรื่องความแตกแยกภายในทีม “ราชันชุดขาว” ถูกขุดออกมาอยู่เป็นระยะๆ โดยเป็นที่รู้กันว่าเดิมทีมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายระหว่าง มูรินโญ่ กับพวกผู้เล่นโปรตุกีสอย่าง เปเป้ และ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ กับนักเตะตัวเก๋าขาใหญ่ของทีมนำโดยกัปตัน อีเคร์ กาซิยาส และ เซร์คิโอ รามอส ซึ่งความขัดแย้งดังกล่าวส่งสัญญาณชัดเจนมากขึ้น

เมื่อ มูรินโญ่ จัดการคว้า ดีเอโก้ โลเปซ เข้ามาทำหน้าที่นายทวารมือ 1  แล้วจับ กาซิยาส นั่งเป็นตัวสำรอง ซึ่งเรื่องนี้ขัดกับความรู้สึกทั้งของผู้เล่นส่วนใหญ่ในทีม ฝ่ายบริหารรวมไปถึงแฟนบอลด้วย

ทั้งนี้ ฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้คลื่นใต้น้ำกลายเป็นสงครามขึ้นมาน่าจะเป็นการที่ เรอัล มาดริด พ่ายต่อ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ร่วงตกรอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อผู้เล่นในทีมหลายรายเริ่มออกมาแสดงการสนับสนุน กาซิยาส อย่างชัดเจนไม่เว้นแม้แต่ เปเป้ ในขณะที่ตัวของ มูรินโญ่ ก็เป็นที่คาดหมายค่อนข้างแน่นอนว่าจบฤดูกาลนี้จะย้ายกลับไปคุมทีม เชลซี ในอังกฤษ โดยกุนซือจอมอหังการเปิดใจอธิบายถึงเรื่องการจับ กาซิยาส เป็นตัวสำรองว่า

“เอาละ ผมขอถามหน่อยว่าคุณเข้าใจกันหรือเปล่าว่าผมเป็นโค้ชฟุตบอล สโมสรจ้างผมมาเป็นโค้ช และโค้ชมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง เป็นคนเลือกว่าใครจะได้ลงเล่น ผมไม่ได้ใช้การโยนเหรียญแล้วเลือกทีม ผมเลือกทีมหลังจากการหารือและวิเคราะห์การตัดสินใจของตัวเองอย่างละเอียด

“สำหรับตำแหน่งผู้รักษาประตูผมชอบ ดีเอโก้ โลเปซ มากกว่า อีเคร์ กาซิยาส มันไม่ได้เป็นการตัดสินใจจากเรื่องส่วนตัว ผมกับ อีเคร์ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันผมชอบนายประตูที่สามารถใช้เท้าได้ดีและออกมาตัดลูกผ่านจากด้านข้างได้ อีเคร์ เป็นคนที่ป้องกันลูกยิงได้ยอดเยี่ยม แต่ผมชอบผู้รักษาประตูแบบอื่นมากกว่า”

ถึงเวลาต้องไป คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก

อิเกร์ กาซิยาส ออกมาเปิดเผยด้วยอาการน้อยใจหลังไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามเลยหลังตกเป็นตัวสำรองให้กับ ดิเอโก โลเปซ ตั้งแต่สมัย โจเซ มูรินโญ่ คุมทีมแล้วจนเปลี่ยนมาเป็น คาร์โล อันเชล็อตติ ทุกอย่างก็ยังเหมือนเดิม ทำให้เจ้าตัวเตรียมพิจาณาตนเอง พร้อมขู่ต้นสังกัดหากยังไม่ได้รับโอกาสก็พร้อมที่จะย้ายทีมอย่างแน่นอน เพื่อต้องการติดทีมชาติสเปนไปเล่นฟุตบอลโลก 2014 ที่บราซิล โดยเผยว่า

“ผมต้องการอยู่กับทีมต่อไป ผมอยู่กับทีมนี้ตั้งแต่เด็ก แต่มันถึงเวลาแล้วที่ควรตัดสินใจเสียที หาก 3เดือนต่อจากนี้ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ถ้านักเตะไม่ได้อยู่ในแผนทำทีม ก็ต้องคิดถึงเรื่องการตัดสินใจได้แล้ว ในฐานะที่เป็นมนุษย์และนักฟุตบอล 9 เดือนที่ผ่านมาแทบไม่ได้ลงเล่นเลย ซึ่งอยากบอกเหลือเกินว่าผมไม่ใช่หุ่นยนต์ที่ต้องนั่งอยู่เฉยๆข้างสนาม บอกได้เลยว่าผมจะคิดถึงเรื่องการย้ายทีมแน่นอน”

จนกระทั่งเมื่อสิ้นฤดูกาล 2014-2015  กาซิยาส หมดสัญญากับต้นสังกัดและได้ย้ายไปอยู่กับ เอฟซี ปอร์โต้ โดยเจ้าตัวถึงกับแถลงข่าวเปิดใจด้วยสภาพน้ำตานอง ถึงการอำลาทีมอู่ข้าวอู่น้ำอย่าง มาดริด หลังรับใช้ทัพ ราชันชุดขาว มายาวนานกว่า 16 ปีพร้อมกับประสบความสำเร็จมากมายไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ลา ลีกา 5 สมัย และ แชมเปียนส์ลีก 3 สมัย, สแปนิช ซูเปอร์คัพ 4 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ อีก 1 สมัย

เส้นทางชีวิตที่ถูกลิขิตให้เฝ้าเสาแค่นี้

ในขณะที่กำลังเฝ้าเสาให้ ปอร์โต้ เป็นซีซั่นที่ 4 ในปี 2019 กาซิยาส เกิดอาการหัวใจวายในสนามซ้อม จนต้องทำการหามส่งโรงพยาบาลเข้ารับการผ่าตัดเป็นการเร่งด่วน โดยสื่อในประเทศโปรตุเกสรายงานตรงกันว่าเป็นอาการหัวใจวาย และแม้ว่า กาซิยาส จะพยายามกลับมาซ้อม แต่สุดท้ายไม่สามารถกลับมาลงเล่นได้ ก่อนที่ กาซิยาส จะตัดสินใจประกาศแขวนถุงมืออย่างเป็นทางการ ยุติอาชีพการเฝ้าเสาไปในปี 2020

ส่วนทีมชาติสเปน อิเคร์ กาซิยาส คือหนึ่งในขุนพลสำคัญลงเล่น 167 นัดและได้แชมป์โลกกับทีมชาติในปี 2010 รวมถึงแชมป์ฟุตบอลยูโร 2008 และ 2012 นั่นทำให้ชื่อของ อิเคร์ กาซิยาส กลายเป็นกัปตันทีมคนที่ 3 บนหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังต่อจาก ฟรานซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ และ ดิดิเย่ร์ เดส์ช็องส์ ที่ได้ชูทั้งถ้วย แชมป์โลก, แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ แชมป์ ยูโร

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันจากต่างประเทศ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค