ฮิเดโตชิ นากาตะ เกิดเมื่อวันที่ 22 มกราคม 1977 ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่เด็ก และในช่วงวัยรุ่น เขาได้เข้าเรียนที่โรงเรียนมัธยมโยโกฮามา ซึ่งเป็นแหล่งพัฒนานักฟุตบอลชั้นนำ ก่อนที่จะได้รับโอกาสในการเล่นในทีมสโมสรฟุตบอลญี่ปุ่น ซึ่งเขาได้เซ็นสัญญากับทีม กราฟฟี่ คูซัตสึ หรือ กัมบะ โอซากา ในปัจจุบัน ในปี 1995 เมื่ออายุเพียง 18 ปี

จากวันเดอร์คิดแดนซามูไร สู่ลีกใหญ่แดนมะกะโรนี

หลังจากจบการแข่งขันใน เจลีก นากาตะ ได้ก้าวเข้าสู่เวทียุโรปด้วยการเซ็นสัญญากับ เปรูจา ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่ นากาตะ ได้พิสูจน์ฝีเท้า ในลีกที่มีการแข่งขันเข้มข้น โดยตลอด 1 ฤดูกาลครึ่งกับ เปรูจา นากาตะ ลงสนามไปทั้งสิ้น 55 เกมยิงไป 14 ประตู ซึ่งนั่นมันก็เพียงที่จะทำให้ทีมยักษ์ใหญ่ในอิตาลีอย่าง อาแอส โรม่า คว้าตัว นากาตะ ไปร่วมทีมในปี 2000 ด้วยค่าตัวราว 1 ล้านยูโร

โดยการค้าแข้งในสีเสื้อ หมาป่าเหลือง-แดง ถือเป็นการยกระดับฝีเท้าของแข้งจากแดนซามูไร โดย นากาตะ ทำให้แฟนบอลชาวอิตาลีตื่นตาตื่นใจด้วยความสามารถในการควบคุมบอล, การจ่ายบอล, และการยิงประตูที่โดดเด่น และแม้ว่าตลอด 2 ฤดูกาลในถิ่น สตาดิโอ โอลิมปิโก นากาตะ จะไม่สามารถแย่งตำแหน่งตัวจริงจาก ฟรานเชสโก ต็อตติ ได้

แต่ นากาตะ ก็ถือเป็นนักเตะตคนสำคัญที่มักจะลงมาเปลี่ยนเกมและยิงประตูสำคัญได้อยู่เสมอ จนกลายเป็นอีกขวัญใจของเหล่าสาวก จัลโลรอสซี่ ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว แถมยังมีส่วนร่วมกับการคว้าสคูเด็ตโต ในซีซั่น 2000-01 ด้วย

ผจญภัยในกัลโช่ คว้า สคูเด็ตโต้ กับ อาแอส โรม่า

หลังจากประสบความสำเร็จกับ โรม่า นากาตะ ย้ายไปอยู่กับ ปาร์มา ในปี 2001 และกลายเป็นตัวหลักของทีมทันที พร้อมกับมีส่วนสำคัญในการพาทัพ จัลโล่บลู คว้าแชมป์ โคปปา อิตาเลีย มาครอง ได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามารับใช้ ปาร์ม่า โดยตลอด 3 ฤดูกาลในถิ่น เอ็นนิโอ ตาร์ดินี นากาตะ ลงสนามไป 92 นัดซัดไป 9 ประตูรวมทุกรายการ ก่อนจะถูก โบโลญญ่า ยืมตัวไปใช้งานเป็นช่วงสั้นๆ

ปี 2004 นากาตะ ยังคงโลดแล่นในลีกแดนมะกะโรนีด้วยการย้ายไปเล่นให้กับ ฟิออเรนติน่า แต่ก็ได้รับโอกาสลงสนามไป 24 เกมก่อนถูกปล่อยไปให้กับ โบลตัน วันเดอร์เรอร์ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืมตัวไปใช้งาน  ซึ่งเขาได้เล่นในช่วงปี 2006-2007 แม้การเล่นในพรีเมียร์ลีกจะมีความท้าทาย, แต่ นากาตะ ก็สามารถปรับตัวและยังคงเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์เกมและมีทักษะที่โดดเด่น

เก็บประสบการณ์ช่วงท้าย วาดลวดลายในพรีเมียร์ลีก

โดย นากาตะ วาดลวดลายในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เพียงฤดูกาลเดียว ก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ด ในปี 2006 เมื่ออายุเพียง 29 ปี ด้วยให้เหตุผลว่า เพราะเขารู้สึกว่าไม่สามารถทุ่มเทให้กับฟุตบอลได้มากเหมือนก่อน และอยากทำสิ่งที่ตนเองสนใจในอีกด้านหนึ่ง นั่นก็คือในธุรกิจและโครงการทางสังคมต่างๆเช่น การเดินทางเพื่อสำรวจวัฒนธรรมต่างๆ การสนับสนุนโครงการทางสังคม รวมถึงการมีส่วนร่วมในการพัฒนาฟุตบอลในญี่ปุ่น

ในขณะที่ผลงานในนามทีมชาติ ฮิเดะ ถูกเรียกตัวติดทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ เมื่อปี 1997 ด้วยวัยเพียง 20 ปีเท่านั้น หลังจากที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับการรับใช้ทัพ ซามูไรบลูส์ ในชุดเยาวชน ทั้ง U17 U20 และ U23 โดยทัวร์นาเม้นต์ใหญ่หนแรกของ นากาตะ คือศึก เอเชียนคัพ 1997 และจากศึกนี้เองที่ทำให้ นากาตะ เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในระดับทวีปจนสามารถต่อยอดการค้าแข้งยังต่างแดน

ตำนานค้างฟ้า ชื่อของ นากาตะ ยังอยู่ในวงการลูกหนังแดนซามูไร

นากาตะ มีส่วนสำคัญกับทีมชาติญี่ปุ่นโดยเฉพาะในฟุตบอลโลก 1998 ที่ฝรั่งเศสและ ฟุตบอลโลก 2002 ซึ่งจัดขึ้นที่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยทีมชาติญี่ปุ่นสามารถผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในฟุตบอลโลกครั้งนี้ โดย นากาตะ ลงเล่นให้กับทีมชาติญี่ปุ่นมากกว่า 77 นัดและยิงไปทั้งหมด 11 ประตู ซึ่งในระหว่างที่เขาเล่นในนามทีมชาติ เขาถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดที่ญี่ปุ่นเคยมีเลยทีเดียว

โดยแม้ว่าปัจจุบัน นากาตะ จะแขวนสตั๊ดไปนานแล้ว แต่ชื่อของเขายังคงเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในญี่ปุ่น และมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ฟุตบอลญี่ปุ่นไปสู่ระดับโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันจากต่างประเทศ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค