กีฬาฟุตบอล

จานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S แข้งอิตาเลียนรุ่นแรกแห่งศึกพรีเมียร์ลีกจานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S

14 6 67 - จานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S แข้งอิตาเลียนรุ่นแรกแห่งศึกพรีเมียร์ลีกจานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S

หากจะเอ่ยถึงดาวเตะร่างเล็กสักคนที่เข้ามาเขย่าวงการฟุตบอลอังกฤษ ในช่วงยุค 90 เชื่อว่าหลายๆคนน่าจะนึกถึง ชายไซส์ S สัญชาติอิตาเลียนที่เข้ามาสร้างปรากฏการณ์ให้กับ เชลซีจนกลายเป็นขวัญใจและฮีโร่ของเหล่าแฟนบอล สิงโตน้ำเงินคราม มาจนถึงปัจจุบัน อย่าง จานฟรังโก้ โซล่า

ในช่วงเวลาหนึ่ง โซล่า เปรียบเทียบเสมือนสัญลักษณ์ของทัพ สิงโตน้ำเงินคราม เลยก็ว่าได้ หลังจากที่ได้อยู่ค้าแข้งในถิ่น สแตมป์ฟอร์ด บริดจ์  เชลซี นานถึง 7 ปี พร้อมกับเป็นส่วนสำคัญในการพาทีม คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย ลีก คัพ 1 สมัย, ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย และ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย แถมยังเคยเป็นอดีตเจ้าของสถิตินักเตะต่างชาติที่ลงเล่นให้ เชลซี มากที่สุด ณ เวลานั้นด้วย

จานฟรังโก้ โซล่า จุดกำเนิดเกิดบนเกาะ

image 22 - จานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S แข้งอิตาเลียนรุ่นแรกแห่งศึกพรีเมียร์ลีกจานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S

ย้อนกลับไปในปี 1966 จานฟรังโก้ โซล่า ลืมตาดูโลกที่ เกาะซาร์ดิเนีย เล่นฟุตบอลกับทีมท้องถิ่นตั้งแต่ 14 ปีจนกระทั่งปี 1984 เจ้าตัวได้โอกาสเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกกับ นูเรเซ ที่เป็นทีมเล็กๆย่านบ้านเกิด ก่อนย้ายมาเล่นให้ ตอร์เรส ในอีก 2 ปีต่อมาและก็ยังทำผลงานได้อย่างโดดเด่นด้วยการตะบันไปถึง 20 ประตู กับ 3 ฤดูกาล ในสโมสรแห่งนี้

จนกระทั่งปี 1989 โอกาสครั้งสำคัญของ โซล่า ก็มาถึงเมื่อได้รับโอกาสย้ายไปเล่นให้กับสโมสรชั้นนำอย่าง นาโปลี ภายใต้การคุมทีมของ ลูชาโน่ มอจจี้ และยิ่งไปกว่านั้น เจ้าตัวยังได้เล่นเคียงบ่าเคียงไหล่กับ ดีเอโก้ มาราโดน่า อดีตกองหน้าระดับตำนานทีมชาติอาร์เจนติน่า ที่ย้ายมาผจญภัยในยุโรปก่อนหน้านั้น ซึ่ง โซล่า ก็ถูกคาดหมายว่าจะกลายเป็นตัวตายตัวแทนของ มาราโดน่า คนหนึ่งสูง 165 เซนติเมตร ส่วนอีกคนหนึ่งสูง 168 เซนติเมตร ดังนั้นมันจึงมีประโยชน์มากที่ โซล่า จะได้เห็นวิธีการเล่นแบบเวิลด์คลาส โดยนักเตะไซส์เดียวกันอย่าง มาราโดน่า

ดูดวิชา มาราโดน่า ในรั้ว นาโปลี

image 23 - จานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S แข้งอิตาเลียนรุ่นแรกแห่งศึกพรีเมียร์ลีกจานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S

โซล่า เริ่มต้นเรียนรู้เรื่องฟุตบอลหลายอย่างจากเสือเตี้ยอาร์เจนไตน์ โดยเฉพาะเรื่องการเตะลูกนิ่ง ที่กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของ โซล่า ในเวลาต่อมา อย่างไรก็ดี โซล่า ไม่ได้เป็น มาราโดนา คนที่สองของ นาโปลี ดั่งที่แฟนบอลคาดหวังไว้ แม้เขาจะทำผลงานให้ทีมจากเนเปิลส์ ได้อย่างยอดเยี่ยม

แต่ด้วยวิกฤตทางการเงินของทัพ อัซซูร่า ทำให้จำเป็นต้องปล่อยตัว แข้งร่างจิ๋วรายนี้ให้ ปาร์มา ในปี 1993 ที่ใช้ คาร์โล อันเชล็อตติ คุมทีมอยู่ ซึ่งผลงานของ โซล่า กับพลพรรค จัลโล่บลู ก็ถือว่าไม่เบา เพราะเขาสามารถพาทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ ในฤดูกาล 1994-95 และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในฐานะตัวสร้างสรรค์เกมฝีเท้าดี

โดดเด่นแค่ไหน แต่ยังไม่โดนใจ อันเช่

image 24 - จานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S แข้งอิตาเลียนรุ่นแรกแห่งศึกพรีเมียร์ลีกจานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S

แต่สุดท้าย โซล่า ก็ยังไม่ดีพอในสายตาของ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่เพิ่งเข้ามากุมบังเหียนในปี 1996 ที่มองว่า โซล่า ไม่สามารถเข้ากับระบบทีมได้ แถมยังปรับบทบาทให้ โซล่า ไปเล่นทางฝั่งขวาในรูปแบบปีก ซึ่ง แน่นอนว่า โซล่า ไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เขามองหาโอกาสในการย้ายทีม ก่อนที่ เชลซี จะติดต่อเข้ามาและสุดท้าย ปาร์ม่า ก็ตัดสินใจขาย โซล่า ให้กับ เชลซี ด้วยค่าตัว 4.5 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 1996

“ตอนนั้นผมมีปัญหาที่ ปาร์ม่า ผมเล่นได้ไม่ค่อยดีนัก แล้วก็มีปัญหาส่วนตัวด้วย ดังนั้นเมื่อผมได้รับข้อเสนอจากอังกฤษผมก็เลยรับไว้เลย จริง ๆ ผมอยากลองอะไรใหม่ ๆ ด้วย ที่นั่นมี โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ และ จานลูก้า วิอัลลี่ รออยู่”

ขณะเดียวกันทางฝั่งของ สิงโตน้ำเงินคราม ก็เพิ่งจะได้ตัว รุด กุลลิท มาคุมทีมต่อจาก เกล็น ฮ็อดเดิ้ล ก็เริ่มสร้างทีมด้วยนักเตะต่างชาติที่อิมพอร์ตเข้ามาหลายรายไม่ว่าจะเป็น จานลูก้า วิอัลลี่, โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ, ฟร้องค์ เลอเบิฟ, โฟลเด้ โกรดาส รวมถึง จานฟรังโก้ โซล่า และนี่คือจุดเริ่มต้นของตำนานแห่งถิ่น สแตมป์ฟอร์ด บริดจ์ ที่ถูกค่อนขอดมากมายว่าจะมาตายในพรีเมียร์ลีกหรือไม่

มีเหตุผลมากมายหลายอย่างที่นักเตะเหล่านี้ประสบความสำเร็จ บทความจาก The Guardian เล่าว่าความเป็นนักเตะเชิงสูงสไตล์อิตาเลียน หรือนักเตะจากนอกสหราชอณาจักรคือความแตกต่างของฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเวลานั้น และเมื่อได้นักเตะที่มีความสามารถมากกว่าคนอื่นๆ โดยนอกจากนักเตะจากอิตาลีแล้ว ซึ่งอาจจะรวมถึงนักเตะที่ย้ายมาจาก เซเรียอา อย่าง เดนิส เบิร์กแคมป์ (อินเตอร์) กับ มาร์กแซล เดอไซญี่ (เอซี มิลาน) ชื่อที่เอ่ยมานี้ล้วนแต่เป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จทั้งนั้น

แข้งอิตาเลียนยุคบุกเบิกแห่งศึกพรีเมียร์ลีก

image 25 - จานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S แข้งอิตาเลียนรุ่นแรกแห่งศึกพรีเมียร์ลีกจานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S

“การย้ายมาเล่นกับ เชลซี เกิดขึ้นค่อนข้างเร็ว ผมได้คุยกับ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ และ จานลูก้า วิอัลลี่, พวกเขาย้ายไปที่นั่นแล้วและเราก็เล่นในทีมชาติอิตาลีด้วยกัน ดังนั้นพวกเขาบอกกับผมว่ามันเจ๋งแค่ไหนที่ได้เล่นกับ เชลซี และฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ผมเคยคิดเรื่องย้ายไปเล่นในต่างแดนไว้เหมือนกัน ดังนั้นเมื่อพวกเขาติดต่อมามันก็ได้บทสรุปภายในสัปดาห์เดียวเท่านั้น “

สรีระของ โซล่า มีส่วนสูงเพียงแค่ 168 เซนติเมตรเท่านั้น แต่เจ้าตัวมีอาวุธลับที่ฉมังค์กว่าเท้านั่นก็คือ สมองของ โซล่า นั่นเอง โซล่า ได้รับการยกย่องว่ามีความฉลาด มีไหวพริบ และเจ้าเทคนิคตคนหนึ่งของวงการเลยทีเดียว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เรามักจะเห็น โซล่า ใช้มันสมองเล่นฟุตบอล และใช้ความคล่องแคล่ว เอาตัวรอดในการดวลกับผู้เล่นตัวยักษ์ๆมาแล้วมากมาย

ดังนั้นจึงสามารถพูดได้ว่าส่วนสูงและสรีระ ไม่ใช่อุปสรรคสำคัญของ โซล่า แต่ต่การเตรียมตัวที่ดี การหาจุดแข็งของตัวเองให้เจอ และการแสดงสปิริตต่างหาก ที่ทำให้ โซล่า ได้รับความเชื่อมั่นจากทุกคนในทีม ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ โซล่า โชว์ผลงานในมาตรฐานสูงตลอดช่วงเวลาที่เขาเล่นให้กับ เชลซี

สปีคอิงลิชไม่ได้ แต่ไม่ใช่ปัญหา

image 26 - จานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S แข้งอิตาเลียนรุ่นแรกแห่งศึกพรีเมียร์ลีกจานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S

ซึ่งตอนที่ โซล่า ย้ายมาที่อังกฤษใหม่ๆ อุปสรรคอย่างเดียวของเขาก็คือเรื่องของภาษาและการสื่อสาร ซึ่งแน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติของแข้งต่างแดนที่ต้องเรียนรู้วัฒนธรรม โดย โซล่า เองก็พยายามปรับตัวเข้าหานักเตะอังกฤษในทีม เขาเปิดกว้างกับทุกคนและเป็นมิตร ต่างกับนักเตะอิตาลีอีกคนอย่าง ฟาบริซิโอ ราวาเนลลี่ ที่ย้ายไปอยู่กับ มิดเดิลสโบรช์ แต่กลับไม่เป็นที่ประทับใจของทั้งเพื่อนร่วมทีม รวมไปถึงเหล่าบรรดาแฟนบอล เพราะขี้เกียจ วางตัวเหนือคนอื่น และไม่เคยคิดจะเรียนรู้แม้แต่ภาษาอังกฤษ

โดย ราวาเนลลี่ ใช้ล่ามส่วนตัวเป็นตัวช่วยในการสื่อสาร แต่สำหรับ โซล่า เขายอมลงทุนลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง นั่นคือความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดระหว่าง 2 แข้งแดนมะกะโรนีที่มีคาแรกเตอร์ต่างกันราวฟ้ากับเหว

โซล่า กลายเป็นแกนหลักและเป็นขวัญใจของแฟนบอลตั้งแต่เข้ามาสู่ถิ่น สแตมป์ฟอร์ด บริดจ์ โดยลูกยิงแรกๆที่ติดตาน่าจะเป็นการหลบฝูงกองหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนยิงผ่าน ปีเตอร์ ชไมเคิล เข้าไปอย่างน่าอัศจรรย์ ซึ่งในฤดูกาลแรก โซล่า ก็สามารถพา เชลซี คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ทันทีกับผลงานที่ฝากไว้ที่ 30 เกมยิง 12 ประตู

ตลอด 6 ฤดูกาลที่ โซล่า ค้าแข้งอยู่ใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ เจ้าตัวลงสนามไปทั้งสิ้น 311 เกม ตะบันไปทั้งสิ้น 80 ประตู โดยหากมองไปที่ตัวเลขการทำประตูอาจจะไม่ได้สูงมากนัก แต่เมื่อเทียบกับการสร้างสรรค์ประตู เทคนิคที่แสดงออกมายามมีบอลกับเท้าที่ทำให้แฟนบอลได้ตื่นตาตื่นใจอยู่เสมอ โซล่า คือหัวใจในเกมรุกของ เชลซีเสมอมีทักษะในการครองบอลที่ยอดเยี่ยม และมีไหวพริบในการสร้างสรรค์เกม รวมถึงทีเด็ดในจังหวะสังหารฟรีคิก ทำให้เขาคือขวัญใจของเหล่าบรรดาแฟนบอล เชลซี จนถึงปัจจุบัน

แข้งอันเป็นที่รัก สู่ตำนานตลอดกาลของ เชลซี

image 27 - จานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S แข้งอิตาเลียนรุ่นแรกแห่งศึกพรีเมียร์ลีกจานฟรังโก้ โซล่า กองหน้าไซส์ S

อีกสิ่งหนึ่งที่ โซล่า คงเส้นคงวา และรักษามาตรฐานมาโดยตลอด ก็คือการอ่อนน้อมถ่อมตน และมีปฏิสัมพันธ์อันดีกับทุกๆคน โดยครั้งหนึ่ง เจอร์รี่ ค็อกซ์ อดีตนักข่าวกีฬาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนโหวตนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของพรีเมียร์ลีก เล่าว่าเมื่อครั้งที่ โซล่า มาอยู่กับ เชลซี ใหม่ๆ สิ่งที่เขาเห็นในตัวนักเตะอิตาเลี่ยนร่างเล็กคือพรสวรรค์

และสิ่งที่เขาประหลาดใจยิ่งกว่าคือ โซล่า ทำให้ทุกคนเปิดใจให้กับเขาได้อย่างรวดเร็ว ผ่านการวางตัวแบบที่ไม่ได้หยิ่งทะนงเหมือนกับนักเตะต่างชาติคนอื่น ๆ ที่มักปลีกวิเวกและมีปฏิสัมพันธ์กับทีมน้อยมาก

โซล่า อยู่กับ เชลซี เป็นเวลา 6 ฤดูกาล จนได้สถานะตำนาน ก่อนลากลับบ้านในปี 2003 ไปเล่นกับ กายารี  ก่อนที โรมัน อับราโมวิช จะเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรในเวลาต่อมา แถมยังมีข่าวลือเกิดขึ้นด้วยว่า เสี่ยหมี อยากจะเทคโอเวอร์สโมสร กายารี่ เพราะว่าอย่างดึง จานฟรังโก้ โซล่า กลับมาค้าแข้งในถิ่น สแตมป์ฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้ง ในยุคของเขา แต่สุดท้ายข่าวลือดังกล่าวก็ไม่ได้ขึ้นแต่อย่างใด

โซล่า ลงรับใช้ทัพ ชาวเกาะ เป็นสโมสรสุดท้ายในชีวิตการค้าแข้ง ก่อนจะประกาศแขวนสตั๊ดในปี 2005 ทิ้งไว้ซึ่งความทรงจำมากมาย โดยเฉพาะกับสโมสร เชลซี ที่นับเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดของเจ้าตัว โดยถึงแม้ว่า โซล่า จะไม่ได้กอบโกยถ้วยรางวัลจนเต็มตู้ เหมือนกับสตาร์รายอื่นๆในยุค เสี่ยหมี แต่สำหรับภาพจำและภาพติดตาที่ จานฟรังโก้ โซล่า ทิ้งไว้ให้กับแฟนๆ เชลซี มันอาจจะไม่มากมาย แต่ก็ถือเป็นควาามประทับใจที่แฟนๆ เชลซี ในยุค 90 จดจำได้แบบไม่มีวันลืม

สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันฟุตบอลจากอังกฤษ

เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง ลิเวอร์พูล และ บาเยิร์น มิวนิค

Share: