ตลอดช่วงสัปดาห์ผ่านมา กระแสข่าวเรื่องของการดื่มแอลกอฮอลล์ ถือว่าค่อนข้างร้อนแรงในประเทศไทย หลังจากที่เกิดการสูญเสียที่มีที่มาจากคอนเทนต์ด้อยคุณภาพ แต่อาจถูกอกถูกใจกลุ่มคนบางกลุ่ม อย่างไรก็ตาม เรื่องของ แอลกอฮอลล์ กับนักฟุตบอลในปัจจุบัน อาจจะค่อนข้างห่างไกลกัน แต่หากย้อนอดีตกลับไปต้องยอมรับมีเหล่าบรรดานักเตะระดับชั้นนำมากมาย ที่ต้องเอาชีวิตการค้าแข้งมาทิ้ง จากพิษของแอลกอฮอล์ ซึ่งหากย้อนไปในช่วงยุค 90 หนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น แข้งจอมขี้เมา ก็คงมีไม่กี่คน และก็น่ามีชื่อของอัจฉริยะลูกหนังแดนผู้ดีนามว่า พอล แกสคอยน์ รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน
เจิดจรัสกับ นิวคาสเซิ่ล ความหวังใหม่ สิงโตคำราม
พอล แกสคอยน์ เกิดเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 1967 ที่เมืองเกตส์เฮด ประเทศอังกฤษ โดยเติบโตขึ้นมาในครอบครัวชนชั้นแรงงาน เริ่มต้นเส้นทางฟุตบอลจากทีมเยาวชนของ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และแจ้งเกิดในฐานะดาวรุ่งที่อย่ค้าแข้งในถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค ในช่วงระหว่างปี 1985–1988 และกลายเป็นตัวหลักในทีมชุดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ได้รับการยกย่องในฐานะหนึ่งในดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์ที่สุดของอังกฤษ จากผลงานลงสนาม 104 เกมยิงไป 25 ประตูรวมทุกรายการ โดยฤดูกาล 1987–88 ถือเป็นฤดูกาลที่ดีที่สุดของ แกสคอยน์ กับ นิวคาสเซิล เมื่อกระหน่ำไปถึง 11 ประตู และยังคว้า รางวัล PFA Young Player of the Year หรือผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีในซีซั่นดังกล่าวด้วย
แกสคอยน์ ถือเป็นกองกลางที่ครบเครื่อง มีความสามารถในการสร้างสรรค์เกม การครองบอล และจบสกอร์ แลดด้วยฟอร์มการเล่นที่โดดเด่น ทำให้เขาถูกสเปอร์สซื้อตัวไปในปี 1988 ด้วยค่าตัวสถิติสโมสรในเวลานั้น ที่จำนวน 2 ล้านปอนด์ ช่วงเวลาของ พอล แกสคอยน์ กับ สเปอร์ส ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เขาเริ่มสร้างชื่อเสียงระดับโลก จากการสร้างเกมที่ยอดเยี่ยม ความสามารถเฉพาะตัว และลูกยิงไกลที่แม่นยำ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในลีกช่วงเวลานั้น พร้อมกับพาพลพรรค ไก่เดือยทอง คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ในสำเร็จในปี 1991 โดยเฉพาะลูกยิงฟรีคิกสุดสวยใส่ อาร์เซนอล คู่ปรับตลอดกาลของ สเปอร์ส ในรอบรองชนะเลิศ
หันพึ่งสุราเมรัย ใจแตก หลังคว้าโทรฟี่แรกกับ ไก่เดือยทอง
แกซซ่า อยู่กั สเปอร์ส 4 ฤดูกาล จารึกสถิติไว้ที่การลงสนาม 112 เกมตะบันไป 33 ประตูรวมทุกรายการ และด้วยทักษะการครองบอลที่ยอดเยี่ยม ความสามารถในการเลี้ยงบอล การจ่ายบอลที่แม่นยำ และการยิงประตูจากระยะไกล ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในยุโรปในห้วงเวลาดังกล่าว
โดยหนึ่งในโมเม้นต์ที่น่าจดจำที่สุดของ แกสคอยน์ คือศึกฟุตบอลโลก 1990 ที่อิตาลี แกซซ่า ร้องไห้แบบไม่อายใคร หลังได้รับใบเหลืองในรอบรองชนะเลิศกับเยอรมนี ซึ่งทำให้เขารู้ว่า หาก อังกฤษ เข้ารอบชิงชนะเลิศ เขาจะไม่ได้ลงเล่น ซึ่งน้ำตาของเขากลายเป็นสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความรักในเกมฟุตบอลอย่างแท้จริง อย่างไรก็ตามด้วยสไตล์การเล่นที่โดดเด่นของ แกสคอยน์ ทำให้เขาได้รับความรักจากแฟนบอลทั่วโลก
นอกจากเรื่องของสุราที่ แกสคอยน์ พิศมัยเป็นการส่วนตัวแล้ว อีกหนึ่งอุปนิสัยของ แกซซ่า ที่ขึ้นชื่อลือชาก็คือการอำคนรอบตัว เช่นการฉีดน้ำใส่นักข่าวในระหว่างการสัมภาษณ์ หรือการหรือฝึกซ้อม ,ซ่อนรองเท้าของเพื่อนร่วมทีมในล็อกเกอร์ โดยเมื่อเขาย้ายไปเล่นให้ ลาซิโอ ในอิตาลี แกสคอยน์ แอบปลดสายบราเซียร์ของนักข่าวหญิงระหว่างการให้สัมภาษณ์
แม้จะประสบความสำเร็จในสนาม แต่ชีวิตนอกสนามของ แกซซ่า กลับเต็มไปด้วยปัญหา หลังจากโด่งดังในวงการฟุตบอล แกซซ่า เริ่มเผชิญกับความกดดันจากการเป็นนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์ ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ปัญหาอาการบาดเจ็บที่เขาต้องต่อสู้หลายครั้ง รวมถึงชีวิตส่วนตัวที่ยุ่งเหยิง ทำให้เขาเริ่มหันไปพึ่งพาแอลกอฮอล์เป็นวิธีการผ่อนคลาย โดยหนึ่งในเหตุการณ์ที่เป็นข่าวใหญ่คือเมื่อเขาไปปรากฏตัวในสภาพเมามายก่อนการแข่งขันสำคัญ หรือในบางครั้งเขาถูกพบในสภาพที่ไม่พร้อมแม้แต่จะลงซ้อม ในช่วงปลายยุค 90 ชื่อเสียงขอ แกซซ่า เริ่มเสื่อมถอย เขามักถูกสื่อจับภาพในสภาพมึนเมา และมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในที่สาธารณะหลายครั้ง เช่น การทะเลาะวิวาท หรือการพูดจาไม่เหมาะสม
เหล้าออกฤทธิ์ เปลี่ยนชีวิต แก๊ซซ่า สู่ขาลง
ปัญหาการติดแอลกอฮอล์ของ แกสคอยน์ ส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นในสนามอย่างเห็นได้ชัด เขาถูกสโมสรลงโทษหลายครั้ง จากนั้นเขาย้ายไปเล่นให้หลายสโมสรในต่างประเทศ เช่น ลาซิโอ ใน อิตาลี และ เรนเจอร์ส ในสกอตแลนด์ แต่ไม่สามารถกลับมาสู่ฟอร์มที่ดีที่สุดได้ แม้ว่าจะพยายามกระเสือกกระสนไปเล่นกับ มิดเดิลสโบร์ช ,เอฟเวอร์ตัน รวมทั้ง เบิร์นลีย์ แถมยังย้ายไปเล่นในจีนเป็นช่วงสั้นๆ แต่สุดท้ายก็หอบสังขารไม่ไหว และในที่สุดก็ต้องยุติอาชีพการเล่นเร็วกว่าที่ควรจะเป็น โดยกลับมาแขวนสตั๊ดกับ บอสตัน ยูไนเต็ด ในปี 2004
หลังเลิกเล่นฟุตบอลในปี 2004 แกซซ่า ยังคงต่อสู้กับปัญหาแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง เขาเข้ารับการบำบัดหลายครั้ง ท่ามกลางการสนับสนุนจากแฟนบอลและเพื่อนร่วมวงการฟุตบอลและแม้จะมีช่วงเวลาที่เขาเลิกดื่มได้ แต่ปัญหานี้ก็มักกลับมาเป็นอุปสรรคในชีวิตของเขาเสมอ
ตัวอย่างเหตุการณ์ที่น่าจดจำคือในปี 2013 แกซซ่า ถูกส่งเข้าโรงพยาบาลหลังจากมีอาการทรุดหนักจากการดื่มหนักเกินไป และในบางครั้งเขาก็ปรากฏตัวในที่สาธารณะในสภาพมึนเมา ซึ่งสร้างความกังวลให้กับแฟนบอลและเพื่อนร่วมงาน
แกสคอยน์ ยังคงเป็นตำนานที่คนจดจำ ไม่ใช่แค่เพราะความสามารถในสนาม แต่เพราะความเป็นมนุษย์ที่มีทั้งความรุ่งโรจน์และความล้มเหลว ชีวิตของเขาเป็นเครื่องเตือนใจถึงความซับซ้อนของคนที่มีพรสวรรค์ และความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิตในโลกของกีฬา แม้จะมีปัญหาในชีวิตส่วนตัว แต่ แกซซ่า จะยังคงถูกจารึกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษในฐานะหนึ่งในนักเตะที่เปี่ยมด้วยพรสวรรค์และหัวใจที่ไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรม
แกซซ่า กับบทเรียนชีวิตที่กลับไปแก้ไขไม่ได้
โดยแม้ว่า แกซซ่า จะเผชิญกับปัญหาแอลกอฮอล์อย่างหนัก แต่เจ้าตัวก็ยังคงได้รับกำลังใจจากแฟนบอลทั่วโลก หลายคนมองว่าเขาเป็นตัวอย่างของการต่อสู้กับอุปสรรคและความกดดันในชีวิต แม้จะล้มเหลวหลายครั้ง แต่เขาก็ยังพยายามฟื้นตัว ซึ่งชีวิตของพอล แกสคอยน์ เป็นเครื่องเตือนใจเกี่ยวกับผลกระทบของแอลกอฮอล์และการดูแลสุขภาพจิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการกีฬาที่มีความกดดันสูง แม้ แกซซ่า จะมีปัญหาหนักหน่วง จนถึงขั้นก่อวีรกรรมมากมายทั้งการไปเคาะประตูบ้านคนแปลกหน้าเพื่อขอเครื่องดื่มเพิ่ม ในช่วงปลายอาชีพ เขาเคยถูกจับในข้อหาเมาแล้วก่อปัญหาในที่สาธารณะ
วีรกรรมของ แกสคอยน์ สะท้อนถึงชีวิตที่เต็มไปด้วยความสับสนและความไม่มั่นคงทางจิตใจ อย่างไรก็ตาม เขายังคงเป็นที่รักของแฟนบอลทั่วโลก เพราะความจริงใจและความสามารถอันเหลือเชื่อในสนามฟุตบอล ชีวิตของเขาเป็นทั้งบทเรียนและแรงบันดาลใจในเวลาเดียวกัน
สนับสนุนโดย 188BET
เว็บเดิมพันจากต่างประเทศ
เปิดให้บริการในไทยมานานกว่า 10 ปี การันตีความมั่นคงด้วยการเป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการให้กับทีมฟุตบอลชั้นนำอย่าง บาเยิร์น มิวนิค