ถึงแม้ว่า ณ เวลานี้ โลกแห่งฟุตบอลจะเปลี่ยนแปลงไปมาก โดยเฉพาะในเรื่องของค่าตัวนักเตะนั้น ต้องบอกว่าแตกต่างจากซีซั่นก่อนราวพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินไปเลย เพราะผู้เล่นระดับธรรมดา ๆ จะซื้อกันทีก็ต้องยอมจ่ายกันมาถึง 30 ล้านปอนด์เลยทีเดียว
แต่ถึงกระนั้นสำหรับนักเตะในตำแหน่งที่ไม่ใช่ดาวเด่นอย่างกองหน้าหรือปีกที่มีสถิติการทำประตูมากมาย ก็ยังคงถูกประเมินค่าต่ำไปสักหน่อย ฉะนั้นพอมีใครในกลุ่มผู้เล่นเหล่านี้ย้ายทีมด้วยมูลค่าสูง ๆ ทีนึงจึงมักจะถูกวิจารณ์ในทางลบไว้ก่อนแล้วว่า “ไม่คุ้ม”
วันนี้เราเลยหยิบเอาผู้เล่นกองหลังทั้ง 7 คนที่มีค่าตัวสูงสุดของโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมาให้ได้ทำความรู้จักกัน
8. ธิอาโก้ ซิลวา – 33 ล้านปอนด์
ย้ายจาก เอซี มิลาน ไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
สำหรับเซ็นเตอร์ตัวแกร่งชาวแซมบ้าคนนี้ ต้องบอกว่าเขาไม่ค่อยโดดเด่นเท่าไหร่นักยามเล่นในระดับสโมสร เพราะแม้จะโดดเด่นและยิ่งใหญ่มากแค่ไหนยามสวมชุดแข่งสีเหลืองของทีมชาติบราซิล แต่กับ เปแอสเช แล้วไม่ค่อยมีคนให้ความสนใจหรือเครดิตมากเท่าไหร่นัก ยิ่งสมัยอยู่ เอซี มิลาน นี่เรียกได้ว่าคนรู้จักชื่นชมนี่น้อยจนแทบนับนิ้วได้
แต่ถึงกระนั้น ทีมดังจากลีกน้ำหอมก็ไปทุ่มซื้อเขามาด้วยค่าตัวสูงถึง 33 ล้านปอนด์ตั้งแต่ฤดูกาล 2012-13 ซึ่งเมื่อ 4-5 ปีก่อนราคานี้ถือว่ามหาศาลได้เลยเพราะขนาดกองหน้าเองก็ยังไม่ค่อยมีด้วยซ้ำที่จะแพงอย่างเขา
7. ดาวิด ลุยซ์ – 34 ล้านปอนด์
ย้ายจาก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไป เชลซี
เซ็นเตอร์แบ็คหัวฟูคนนี้เคยอยู่ในทีม สิงโตน้ำเงินครามมาก่อนตอนช่วงปี 2011-2014 ซึ่งก็ประสบความสำเร็จมากมายจนได้ย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ตอนปี 2014-2016
แต่หลังจากที่ อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามารับงานคุมทีม เชลซี เมื่อซีซั่นก่อนเขาก็ทำเซอร์ไพร์สด้วยการดึง ลุยซ์ กลับมาอยู่บ้าน ณ สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์ ซึ่งเจ้าโปรยิ้มก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเป็นคีย์แมนที่พาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ทันทีเช่นกัน
6. ชโคดราน มุสตาฟี – 35 ล้านปอนด์
ย้ายจาก บาเลนเซีย ไป อาร์เซนอล
ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เซ็นเตอร์ชาวเยอรมัน คนนี้ถูกยกย่องอย่างสูงว่าเป็นดาวรุ่งผู้มีฝีเท้าในการเล่นเกมรับสูงส่งกว่าใคร และเขาก็สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองอยู่กับจ้าวค้างคาว บาเลนเซีย จนสุกงอมเต็มที่
ขณะที่ มุสตาฟี กำลังเนื้อหอมสุด ๆ มีทีมเล็กใหญ่ตามจีบกันไม่เว้นแต่ละวัน อาร์เซน เวนเกอร์ ก็กลายเป็นผู้ชนะในศึกชิงนางนี้ และได้ตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์เมื่อปี 2016
5. จอห์น สโตนส์ – 47.5 ล้านปอนด์
ย้ายจาก เอฟเวอร์ตัน ไป แมนฯ ซิตี้
เมื่อซัมเมอร์ปี 2016 จอห์น สโตนส์ ปราการหลังชาวอังกฤษ ถือเป็นคนที่เขย่าตลาดลูกหนังได้อย่างแท้จริง เพราะในขณะที่เขายังเป็นดาวรุ่งที่มีพรสวรรค์อยู่กับ เอฟเวอร์ตัน นั้น เป๊ป กวาร์ดิโอลา ก็บ้าเลือดใช้เงินมากถึง 47.5 ล้านปอนด์ดึงมาร่วมทีมแบบไม่มีใครคาดคิด
และด้วยความที่ สโตนส์ ยังเด็กอยู่แต่กลับแบกค่าตัวสูงอย่างที่เห็น ปีแรกในถิ่น เอติฮัด จึงยังลุ่ม ๆ ดอน ๆ เอาแน่เอานอนไม่ค่อยได้ แต่ด้วยความที่เจ้าตัวยังอายุน้อยมาก จึงน่าจะดีขึ้นตามลำดับ เพราะปีนี้ก็ถือว่าแกร่งมากพอตัวแล้วนั่นเอง
4. ไคลน์ วอล์คเกอร์ – 50 ล้านปอนด์
สเปอร์ส ไป แมนฯ ซิตี้
ต่อเนื่องมายังฤดูกาลนี้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ยังไม่เลิกทำตัวบ้าคลั่งทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงกองหลังที่ตัวเองอยากได้มาอยู่ด้วย โดยคราวนี้เป้าหมายคือ ไคลน์ วอล์คเกอร์ จาก สเปอร์ส ซึ่งก็สำเร็จที่ 50 ล้านปอนด์
และถึงแม้ วอล์คเกอร์ จะเป็นตัวจริงที่ชาติอังกฤษมานาน แต่ฝีเท้าของเขากลับดูธรรมดาไม่มีอะไรโดดเด่นเลย ทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญทั้งหลายตั้งแง่วิจารณ์ว่าดีลนี้ไม่มีความคุ้มค่าใด ๆ เลย แต่มาจนถึงตอนนี้ เป๊ป และ ลูกทีมคนโปรดของเขาก็พิสูจน์ให้โลกรู้แล้วว่า นี่เป็นดีลที่ยอดเยี่ยมมากแค่ไหน
3. ดาวิด ลุยซ์ – 50 ล้านปอนด์
เชลซี ไป ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
เมื่อกี้เราได้พูดถึง ลุยซ์ กับ 34 ล้านปอนด์ของเขาไปแล้ว แต่นั่นก็ยังไม่ได้แพงเท่ากับการย้ายทีมครั้งก่อนหน้าของเจ้าตัวสมัยที่ต้องโยกไปอยู่กับ เปแอสเช เมื่อ 3 ปีก่อนโน่น
เพราะ เศรษฐีแดนน้ำหอมยอมจ่ายให้กับ เชลซี สูงถึง 50 ล้านปอนด์ จนกลายเป็นเจ้าของสถิติโลก ณ เวลานั้นไปแบบไม่มีใครอยากเชื่อ ซึ่งพออยู่ได้ 2 ปีก็โดนดึงกลับ เชลซี อย่างที่ได้อ่านไปก่อนหน้าแล้วนั่นเอง
2. เบนจามิน เมนดี้ – 52 ล้านปอนด์
โมนาโก ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สำหรับยอดแบ็คซ้ายว่าที่ดาวเตะระดับโลกคนนี้ ต้องบอกว่าเป็นอีกดีลที่ เป๊ป ปาดหน้ายักษ์ใหญ่ทั่วทั้งยุโรปมาครองได้สำเร็จ ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะเขาใจป้ำยอมจ่ายให้กับ โมนาโก สูงถึง 52 ล้านปอนด์ ซึ่งแน่นอนว่าเป็นสถิติโลกไปทันทีตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์
แต่น่าเสียดายที่ เมนดี้ ได้รับบาดเจ็บร้ายแรงที่เอ็นไขว้หน้าหัวเข่า จนทำให้ต้องพักยาวอย่างน้อย 8-9 เดือน ซึ่งแน่นอนว่าหากมองอย่างนี้ ปีแรก เรือใบสีฟ้า ขาดทุนย่อยยับ แต่หากมองกันไปยาว ๆ บอกเลยว่ามีสิทธิ์คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม
1. เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค – 75 ล้านปอนด์
เซาธ์แฮมป์ตัน ไป ลิเวอร์พูล
สำหรับมหากาพย์ที่เพิ่งปิดเล่นไปหมาด ๆ นี้ เรียกได้ว่าสั่นสะเทือนวงการลูกหนังขั้นรุนแรงตั้งแต่ตลาดซื้อ-ขายหน้าหนาวยังไม่เปิดฉากขึ้นเลยด้วยซ้ำ เพราะมันเป็นดีลในฝันของ เจอร์เกน คล็อปป์ ที่เจ้าตัวพยายามปิดให้ได้มาตั้งนานแล้ว
และด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการเจรจามากมาย ทำให้ไม่สามารถตกลงการซื้อขายให้สมบูรณ์ได้ตั้งแต่ตอนซัมเมอร์ ฉะนั้นพอมาถึงช่วงนี้ ลิเวอร์พูล เลยจัดหนักเป็นของขวัญปีใหม่ให้แฟน ๆ ด้วยการเติมเซ็นเตอร์ที่แพงสุดของโลกมาเอาใจกันเสียหน่อย มาดูต่อไปว่าสุดท้ายแล้ว ฟาน ไดจ์ค จะคุ้มค่ามากแค่ไหน