ถึงแม้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะขึ้นชื่อว่าเป็นคนที่มีความสามารถในการเค้นศักยภาพของลูกทีมให้โชว์ฟอร์มออกมาได้สูงสุดแทบทุกคนที่ร่วมงานด้วย แต่ถึงกระนั้นเจ้าตัวก็ยังมีประวัติทำนักเตะที่ซื้อมาเข้ามาพังอยู่บ้างเหมือนกัน
และนี่ก็คือ 8 นักเตะที่ กุนซือจอมเกาหัว เคยซื้อมาด้วยพร้อมความคาดหวังสูงลิ่ว แต่กลับไม่สามารถทำให้พวกเขาระเบิดฟอร์มระดับท็อปออกมาได้อย่างที่คิด จนเรียกได้ว่าเป็น 8 การเซ็นสัญญาที่ผิดพลาดมากสุดในฐานะกุนซือ
ส่วนจะมีใครบ้างนั้นเลื่อนลงไปชมด้านล่างได้เลย !
8. อิบราฮิม อเฟลลาย
อเฟลลาย ในอดีตนั้นเคยค้าแข้งกับ พีเอสวี ไอน์โฮเฟน นาน 6 ปี จนสร้างชื่อขึ้นมาเป็นแนวรุกตัวท็อปของ เอเรดิวิซี ได้สำเร็จ รวมถึงความโด่งดังที่ชาวเน็ตกล่าวขานถึงอย่างมาก เพราะมีคลิปเทพ ๆ ของเจ้าตัวถูกแชร์กระจายอยู่บนโลกอินเตอร์เน็ตไม่เว้นแต่ละวัน
จากนั้น เป๊ป ก็ดึงเขาเข้ามาอยู่ด้วยที่ บาร์เซโลนา เมื่อหน้าหนาวปี 2011 พร้อมกับความคาดหวังครั้งใหญ่ในอาชีพการงานของดาวรุ่งดวงใหม่คนนี้ แต่ความฝันทั้งหมดกลับพังทลายลงเพราะอาการบาดเจ็บยาวทำให้ได้รับโอกาสลงสนามเพียงแค่ 28 นัดเท่านั้น แถมเป็นตัวสำรองไปถึง 18 เกมเลยทีเดียว
จากนั้น บาร์ซา ก็ส่งตัว อเฟลลาย ไปให้ ชาลเก้ 04 กับ โอลิมเปียกอส ยืมใช้งานก่อนปล่อยถาวรในปี 2015
7. มาร์ติน กาเซเรส
ย้อนกลับไปในปี 2008 กาเซเรส เคยเป็นนักเตะที่ เป๊ป ตั้งความหวังเอาไว้ด้วยค่อนข้างสูง เพราะนี่คือนักเตะคนแรกที่เขาซื้อเข้ามาร่วมทัพด้วยค่าตัว 16.5 ล้านยูโร หลังรับงานคุมทีมชุดใหญ่ให้ บาร์เซโลนา
แต่ไม่รู้ว่าโชคชะตาเล่นตลกอะไรด้วยหรือเปล่าทำให้ กาเซเรส นั้นได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้งจนได้รับโอกาสลงสนามในนามแข้ง บาร์ซา ไปนิดเดียวเท่านั้น
ซึ่งนั่นก็ทำให้ ดาวเตะชาวอุรุกวัยคนนี้มีโอกาสลงเล่นให้กับทีมเจ้าบุญทุ่มเพียงหนึ่งฤดูกาล ก่อนถูกปล่อยไปให้ทีมอื่นยืมใช้งาน แล้วขายขาดในอีก 2 ฤดูกาลให้หลังแบบไม่ใยดีอีกต่อไป
6. โนลิโต้
ก่อนที่ โนลิโต้ จะย้ายเข้ามาอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 13.8 ล้านปอนด์ ตอนปี 2016 เขาเพิ่งจะมาระเบิดฟอร์มเทพเอาตอนแก่กับ เซลต้า บีโก้ จนเป็นที่ครั่นคร้ามไปทั่วงการลูกหนังสเปน และถูกใจเพื่อนเก่าต่างวัยอย่าง เป๊ป ด้วยเช่นกัน
แต่ถึงกระนั้นความสัมพันธ์อันดีอะไรต่าง ๆ นั้นกลับไม่มีผลเลยเมื่อเข้ามาอยู่ในวงการลูกหนังเต็มตัวแบบนี้ เพราะ โนลิโต้ ที่ไม่สามารถปรับตัวให้เข้าสไตล์ฟุตบอลในอังกฤษได้ ต้องถูกดร็อปอยู่ข้างสนามเกือบตลอดเวลา เพราะลงมาแล้วก็ทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักกระผีกเดียว
จนกระทั่งสุดท้ายแล้ว ถึงได้ เซบีญา มาเซ้งต่อไปร่วมทัพจนถึงปัจจุบัน
5. เคียร์ริสัน
เด็กเทพจากเกมฟุตบอลเมเนเจอร์หรือ FM คนนี้ถูก เป๊ป ซื้อเข้ามาอยู่กับ บาร์เซโลนา เมื่อปี 2009 ด้วยค่าตัว 14 ล้านยูโรโดยที่ไม่มีใครรู้จักเขามาก่อนเลยนอกจากคอเกมซิมูเลชั่นชื่อดังที่เราเพิ่งพูดถึงไป
แน่นอนว่าการตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ เป๊ป แฟนตัวยงของสโมสรถึงกับตั้งคำถามว่า มันใช่เหรอที่เอาเงินไปถลุงเล่นกับแข้งโนเนมแบบนี้ จนแทบสูญเสียความมั่นใจถึงแม้กุนซือคนเก่งจะมีฝีมือในการปั้นดาวรุ่งมากแค่ไหนก็ตาม
แต่จนแล้วจนรอด เคียร์ริสัน ก็ไม่สามารถทำความปรารถนาของ เป๊ป ให้เป็นจริงได้ แถมไม่เคยลงเล่นให้ บาร์ซา เลยแม้แต่นัดเดียวก่อนที่จะถูกปล่อยตัวจากสโมสรไป
4. เคลาดิโอ บราโว
สำหรับ บราโว นั้น เป๊ป ดึงเขามาจากทีมเก่าของตัวเองอย่าง บาร์เซโลนา ให้มาร่วมงานกันที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ด้วยค่าตัวสูงถึง 17 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2016 แต่แล้วมือกาวชาวชิลี ก็สร้างความผิดพลาดใหญ่หลวงให้เห็นทันทีในเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด
จากนั้นเขาก็ถูกใบแดงไล่ออกในเกมบุกเยือน คัมป์นู บนเวที ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ซึ่งส่งผลให้ ซิตี้ ต้องแพ้ บาร์ซา ไปด้วยสกอร์ 4-0 จนเป็นต้นเหตุให้เจ้าตัวโดน เป๊ป ดร็อปยาวทันที
ที่สำคัญหลังจบฤดูกาล สถิติการเซฟประตูของ บราโว อยู่ที่ 54.1% ซึ่งทำได้ต่ำสุดในพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว
3. เชส ฟาเบรกาส
ยอดมิดฟิลด์ระดับมันสมองคนนี้ ถึงแม้จะสร้างชื่อเสียงโด่งดังกับ อาร์เซนอล แต่ด้วยความที่เคยเป็นผลผลิตจาก ลา มาเซีย (อคาเดมีของบาร์ซา) มาก่อน ทำให้เขาดิ้นรนทำทุกอย่างเพื่อให้ได้กลับไปอยู่ทีมเก่าอีกครั้งจน เวนเกอร์ ต้องยอมขายออกไปในปี 2011 ด้วยค่าตัว 29 ล้านยูโร
และถึงแม้ว่า ฟาเบรกาส จะทำผลงานได้ค่อนข้างดีทุกทีที่ถูกส่งลงสนามไปก็ตาม แต่เขากลับแทบไม่ได้รับโอกาสให้ออกสตาร์ทเป็น 11 คนแรกเลย เพราะเมื่อชายตามองไปในทีมเจ้าบุญทุ่มเวลานั้นต่างมีทั้ง เมสซี, ซาบี, อิเนียสต้า และคนเก่ง ๆ อื่น ๆ คอยประจำการในพื้นที่แดนกลางกันหมดแล้ว
ซึ่งนั่นก็ทำให้ เชส ต้องทนกล้ำกลืนอยู่หลายปี ก่อนจะโดนขายต่อมาอยู่ เชลซี ในท้ายที่สุด
2. มาริโอ เกิทเซ
ก่อนหน้านี้ เกิทเซ เคยค้าแข้งให้ ดอร์ทมุนด์ จนมีชื่อเสียงโด่งดังในที่สุด แต่แล้วเขากลับทำร้ายจิตใจแฟนบอลด้วยการโยกอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค ทีมคู่ปรับสำคัญเมื่อปี 2013 โดยมี เป๊ป เป็นผู้อยู่เบื้องหลังดีลนี้
จากนั้นในปี 2014 เจ้าก้นงอน ก็ยิ่งโด่งดังเข้าไปใหญ่เมื่อซัดประตูชัยให้ ทีมชาติเยอรมนี เป็นแชมป์โลกได้ในศึก เวิร์ลคัพ 2014 จนตอนนั้นใคร ๆ ต่างก็พูดถึงชื่อ เกิทเซ กันแบบไม่ยอมให้ว่างเลยแม้แต่วันเดียว
แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะในฤดูกาลถัดมา เกิทเซ ต้องเผชิญหน้ากับช่วงเวลาที่เป็นขาลงของชีวิต ทั้งการบาดเจ็บ ทั้งการโดนดร็อป ทั้งฟอร์มตก จนสุดท้ายกลายเป็นคนที่ไม่มีใครอยากได้ไปอยู่ด้วย ก่อน ดอร์ทมุนด์ จะมาเซ้งกลับไปแบบเซ็ง ๆ ภายหลัง
1. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
เมื่อพูดชื่อของ ซลาตัน ออกมาแล้ว แน่นอน ทุกคนย่อมรู้สึกถึงเขาคนนี้ว่าเป็นนักฟุตบอลผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล ที่ย้ายไปอยู่ไหนก็จะต้องประสบความสำเร็จได้แบบ 100%
แต่ตลอดระยะเวลา 1 ฤดูกาลที่ อิบรา เล่นให้ บาร์ซา ไป 45 นัดจากทุกรายการนั้น ส่วนใหญ่ถูกส่งลงสนามเป็นตัวสำรอง เพราะถูกบดบังจากรัศมีความเก่งกาจของ ลีโอเนล เมสซี จนเจ้าตัวไม่ค่อยพอใจกับสถานการณ์ของตัวเอง แม้จะยิงได้ถึง 22 ประตูก็ตาม
พอปีถัดมา เอซี มิลาน ก็มายืมตัวไปใช้งานก่อนซื้อขาดไปในอีกหนึ่งฤดูกาลให้หลังจนถูกยกให้เป็นหนึ่งความผิดพลาดในการเซ็นสัญญาที่ เป๊ป ต้องจดจำ