“ยูฟา แชมเปียนส์ลีก” ถือเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันฟุตบอลระดับทวีปรายการใหญ่ที่สุดของโลก ที่นักเตะทุกคนต้องการก้าวขึ้นไปถึงจุดสูงสุดให้ได้อย่างน้อยสักครั้งหนึ่งในชีวิต

และในทุก ๆ ปีก็มีผู้เล่นมากมายผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันชูถ้วยบิ๊กเอียร์ใบนี้กันอย่างชื่นมื่นตาบาน ซึ่งก็มีหลาย ๆ คนที่โชคดีเพราะแฟนบอลเห็นชื่อแล้วยังรู้สึกว่าหากไม่อยู่กับทีมนี้คงไม่มีโอกาสได้แชมป์ UCL ไปประดับโปรไฟล์ให้ตัวเองอย่างแน่นอน

แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีผู้เล่นระดับโลกที่ฝีเท้าสูงส่งเหนือมนุษย์ปกติทั่วไปอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งคอลูกหนังต่างยกให้เป็นที่สุดของโลกในแบบฉบับตัวเองแล้วยังไม่เคยได้ชูถ้วย ยูฟา แชมเปียนส์ลีก กับเขาเสียที

1. ฟาบิโอ คันนาวาโร

เซ็นเตอร์แบ็คร่างเล็กคนนี้ ถือว่าเป็นกองหลังที่ขึ้นชื่อว่าเก่งที่สุดของโลกคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะผลงานกับทีมชาติอิตาลีนั้น คืออะไรที่คนทั้งโลกต้องยอมรับ เพราะเขาเป็นกัปตันทีมชุดคว้าแชมป์เวิร์ลคัพ รวมถึงได้บัลลงดอร์มาครองในปี 2006 อีกด้วย

ที่สำคัญคือ คันนาวาโร ผ่านการค้าแข้งให้กับทีมใหญ่ ๆ อย่าง อินเตอร์ มิลาน, ยูเวนตุส (ในช่วงพีค ๆ ก่อนตกชั้น), เรอัล มาดริด มาแล้ว แต่น่าเสียดายที่ช่วงเวลาของเขาไม่สามารถช่วยทีมให้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดของ แชมเปียนส์ลีก ได้เลย

2. รุด ฟาน นิสเตลรอย

รุด ฟาน นิเตลรอย หรือที่แฟนบอลชาวไทยเรียกกันง่าย ๆ ว่า “พี่ม้า” คนนี้ นับว่าเป็นสไตรเกอร์ที่เก่งกาจสุด ๆ ในยุคของตัวเอง จนแทบจะหาใครมาเทียบความคมกับเขาได้ยาก โดยเฉพาะยุคที่เล่นอยู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คาบเกี่ยวไปจนถึง เรอัล มาดริด ในช่วงแรกนั้นคืออะไรที่ยิ่งใหญ่มากจริง

แต่แล้วในขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เองก็ดี หรือแม้แต่ เรอัล มาดริด เองก็ดี ตอนที่พวกเขาได้แชมป์รายการนี้มาครอง พี่รุดของเราดันไม่ได้ค้าแข้งด้วยแล้วนี่สิ แหม คิดแล้วมันน่าเสียดาย

3. มิคาเอล บัลลัค

มิคาเอล บัลลัค ชายผู้เป็นเจ้าของฉายา ไกเซอร์น้อย คนนี้ นับว่าเป็นจอมทัพที่ยิ่งใหญ่มากสุดในยุคหลังของทีมชาติเยอรมัน และเขาก็คู่ควรกับถ้วยบิ๊กเอียร์มาก ๆ โดยเฉพาะในช่วงที่เล่นให้กับยอดทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค นานหลายปี

แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะตอนที่ บัลลัค บัญชาเกมอยู่ในถิ่นเสือใต้เขากลับไม่เคยพาทีมก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์รายการนี้ได้เลยแม้แต่ปีเดียว แถมตอนอยู่กับ เชลซี ก็ยังไปไม่ถึง แต่พอย้ายออกจากลอนดอนกลับเยอรมนีได้แค่ 2 ปีเท่านั้นแหละ ทัพสิงห์บลู ก็ได้ขึ้นไปเถลิงบัลลังก์ UCL อย่างไม่มีใครอยากเชื่อ

4. พาเวล เนดเวด

มิดฟิลด์พลังล้นเหลือชาวเช็ก คนนี้เป็นอีกหนึ่งแข้งระดับโลกที่เคยสร้างความยิ่งใหญ่ระดับสั่นสะเทือนวงการลูกหนังมาแล้วด้วยการเป็นเจ้าของ บัลลงดอร์ เมื่อปี 2003 พร้อมสร้างผลงานยิ่งใหญ่มากมายจนได้กลายเป็นตำนานของมหาอำนาจอย่าง ยูเวนตุส

แต่เรื่องเดียวที่น่าเสียดายสุด ๆ สำหรับ เนดเวด นั้นก็คือ เขาไม่เคยได้ชูถ้วย ยูฟา แชมเปียนส์ลีก ใบนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่อย่างนั้นล่ะก็ โปรไฟล์คงจะสวยงามสมบูรณ์แบบที่สุดเป็นแน่

5. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

ตลอดเวลากว่าหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ซลาตัน อบราฮิโมวิช คือสไตรเกอร์ที่มีความน่าเกรงขามและความเฟี้ยวเงาะอยู่ในตัวสูงมากสุดคนหนึ่งของโลก และด้วยฝีเท้าอันร้ายกาจบวกกับความกวนโอ๊ยระดับเทพ เขาจึงได้รับความรักใคร่ชื่นชมจากคอลูกหนังสูงสุดจนเรียกเป็นศาสดาลูกหนังของยุคนี้เลยก็ว่าได้

ที่สำคัญคือ ทีมไหนก็ตามหากได้เขาไปร่วมทัพด้วยแล้วล่ะก็จะต้องได้แชมป์ลีกมาครองทั้งหมด (แม้ว่าตอนนี้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด จะยังไม่ได้ก็ตามที) แต่ถึงจะยิ่งใหญ่ระดับนี้แล้ว ถ้วยยูฟา แชมเปียนส์ลีก ก็ยังไม่เคยเข้ามาอยู่ในมือของ “พระเจ้า” คนนี้เสียที

6. โรนัลโด้

สำหรับ โรนัลโด้ หรือเจ้าเหยินใหญ่ คนนี้น่าจะเป็นนักเตะที่ไม่มีใครอยากเชื่อมากที่สุดว่าจะไม่เคยครอบครองตำแหน่งแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก เลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะด้วยฝีเท้าที่เรียกได้ว่าเก่งสุดตลอดกาลของโลก เป็นปรากฏการณ์แห่งวงการลูกหนังที่สัก 100 ปี จะถือกำเนิดขึ้นมาสักคน ทำให้เขาสมควรได้รับรางวัลใหญ่ ๆ ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ไปครองได้

ที่สำคัญคือสโมรต่าง ๆ ของ โรนัลโด้ นั้นมีทั้ง อินเตอร์ มิลาน (ช่วงพีค), บาร์เซโลนา, เรอัล มาดริด ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นอะไรที่สมควรจะได้แชมป์ UCL มากสุด ๆ แต่สุดท้ายจนกระทั่งแขวนสตั๊ด ฝันนี้ก็ไม่เคยเป็นจริงสักที

7. จิอันลุยจิ บุฟฟอน

และคนสุดท้ายของลิสต์นี้ที่เรายกมา นั้นนอกจากจะไม่น่าเชื่อแล้วก็ยังปน ๆ ความน่าสงสารเข้าไปอยู่เล็ก ๆ อีกด้วย เพราะ บุฟฟอน คือผู้รักษาประตูที่เก่งกาจสุดของโลกมาอย่างยาวนานร่วม 20 ปี แถมยังเล่นอยู่กับทีมที่ยิ่งใหญ่มากอย่าง ยูเวนตุส อีกต่างหาก

เมื่อมองถึงความสามารถ และโอกาสของ บุฟฟอน แล้วก็ต้องบอกว่า นายทวารดีกรีแชมป์โลก คนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าคนอื่นเลย แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยเติมเต็มความฝันสุดท้ายก่อนแขวนถุงมือของเขาเลย ฉะนั้นฤดูกาล 2017-18 นี้ เจ้าตัวจึงมุ่งมั่นเป็นพิเศษที่จะเอามันมาให้ได้ เพราะเขาประกาศเอาไว้แล้วว่านี่เป็นซีซั่นสุดท้ายในฐานะนักเตะอาชีพ