ในเดือนมิถุนายนที่กำลังจะมาถึงนี้ เวทีการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกอย่างศึก เวิร์ลคัพ 2018 ก็จะเปิดฉากขึ้นแล้วที่ประเทศรัสเซีย แน่นอนว่าคอลูกหนังทั้งโลกรวมถึงตัวนักเตะทุกคนต้องรอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อแน่นอน

และในทุก ๆ ปีเราจะได้เห็นผู้เล่นที่มีความโดดเด่นแสดงผลงานออกมาให้โลกได้รู้จัก สร้างชื่อเสียงจนกลายเป็นตัวท็อประดับแถวหน้าของวงการกันตลอด

แน่นอนว่าปีนี้ก็เช่นกัน ฉะนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่า 7 คนที่น่าจับตามองมากที่สุดในรายการนี้ จะมีใครกันบ้าง

7. แฮร์รี เคน – อังกฤษ

สุดยอดกองหน้าจาก ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส คนนี้ ได้ก้าวขึ้นมาเป็นแข้งหลักของทัพสิงโตคำรามได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังสร้างผลงานเขย่าวงการไปตั้งแต่ราว 3 ซีซั่นก่อน

และขณะที่ เคน ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีสุดของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ณ เวลานี้ เขาก็จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองอีกด้วยว่ารับมือกับความยากของเวทีใหญ่ ๆ อย่าง ฟุตบอลโลก ได้อย่างที่ อลัน เชียร์เรอร์ ทำไว้หรือไม่ หากผ่านล่ะก็ การันตีติดยศ “ตำนาน” รอได้เลย

6. เปาโล ดิบาลา – อาร์เจนตินา

ดิบาลา เองก็เป็นอีกหนึ่งกองหน้าที่แจ้งเกิดขึ้นมาได้อย่างสวยงามในลีก กัลโช เซเรียอา อิตาลี โดยเริ่มโด่งดังมาจากตอนที่เล่นให้ ปาแลร์โม โน่นแล้ว

ด้วยลีลาการเล่นอันสวยงาม คลาสสิก และมีความเฉียบคมสูง ทำให้หลาย ๆ คนอยากเห็น ดิบาลา สร้างตำนานบทใหม่ขึ้นมาในทีมม้าลายเหมือนอย่าง เดล ปิเอโร

แต่ขณะเดียวกันกับทีมชาติ อาร์เจนตินา เขายังไม่เคยมีผลงานโดดเด่นเป็นชิ้นเป็นอัน ฉะนั้นนี่จึงเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่าเด็กหนุ่มหน้าหล่อคนนี้จะมีดีพอพาตัวขึ้นเป็นนักเตะระดับโลกได้อย่างสมภาคภูมิแล้วหรือยัง

5. คีเลียน เอ็มบัปเป – ฝรั่งเศส

ย้อนกลับไปในช่วงก่อนเปิดฤดูกาล ชื่อของกองหน้าดาวรุ่งวัย 18 ปีคนนี้ อยู่ ๆ ก็ถูกพูดถึงบ่อยมากโดยเฉพาะในตลาดซื้อขายนักเตะจนสุดท้ายกลายเป็นแรงกระเพื่อมขนาดใหญ่ที่สั่นสะเทือนจนทำให้ค่าตัวที่สื่อเอาไปลือกันพุ่งทะยานสู่หลักร้อยล้านปอนด์เป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้จะได้รับความสนใจจากทีมใหญ่ทั่วยุโรป มีคนชมมากมายว่าเก่งในระดับที่หาจากไหนไม่ได้อีกแล้วในยุคนี้ แต่ศึกรายการใหญ่ ๆ อย่าง ฟุตบอลโลกนี่แหละจะเป็นบททดสอบชั้นเยี่ยม ที่คอบอลจะได้รู้ว่า เอ็มบัปเป นั้นดีพอกับคำร่ำลือที่ทั้งโลกยกย่องแบบนี้ไหม

4. กาเบรียล เฆซุส – บราซิล

เห็นมาเงียบ ๆ แต่น้องเขายิงเพียบเลยจ้า น่าจะเป็นคำพูดที่บ่งบอกถึงความเป็น เฆซุส ได้อย่างชัดเจนมากในระดับหนึ่ง เพราะขณะที่ศูนย์หน้าดาวรุ่งคนอื่น ๆ ยิงได้นิดหน่อย สื่อก็ชมกันรัว พวกแข้งตำนานทั้งหลายก็เอาแต่พูดถึงจนเป็นกระแสใหญ่โต

แต่พอลองหันมาดูคนที่เงียบ ๆ ข่าวเขิ่วอะไรก็ไม่ได้มีมากมายกับเขาอย่างเจ้าหนุ่มน้อยของทีมเรือใบสีฟ้าคนนี้แล้วก็ต้องถึงกับอึ้ง เพราะเจ้าตัวมีสถิติการทำประตูที่สูงมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะถูกมองข้ามไปได้อย่างนี้

ฉะนั้นศึกฟุตบอลโลกปี 2018 นี้แหละ หากอาการบาดเจ็บที่ได้รับอยู่ ณ เวลานี้ ไม่ส่งผลร้ายแรงจนชวดไปลุยด้วย เราจะได้เห็นเขาโชว์ฟอร์มเขย่าทัวร์นาเมนท์แน่

3. อิสโก้ – สเปน

นับตั้งแต่ศึกฟุตบอลโลก 2014 ผ่านพ้นไป จนถึงตอนนี้ การเดินทางบนเส้นทางลูกหนังของ อิสโก้ เรียกได้ว่ามีความฉวัดเฉวียนเวียนวนราวกับอยู่บนรถไฟเหาะตีลังกาเลยก็ว่าได้

โดยเฉพาะในช่วงแรก ๆ ที่ ซีเนอดีน ซีดาน เข้ามาคุมทีม เรอัล มาดริด ใหม่ ๆ นั้นเรียกได้ว่าแทบจะหมดอนาคตกันเลยทีเดียว แต่สุดท้ายก็กลับมาพิสูจน์ตัวเอง พร้อมระเบิดฟอร์มเทพต่อเนื่องได้จนถึงทุกวันนี้

ฉะนั้นเชื่อเถอะว่า อิสโก้ นี่แหละจะเป็นจอมทัพของ สเปน ในการแข่งขันกลางปีนี้ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งบททดสอบครั้งใหญ่ของเขาที่เราทุกคนต้องจับตามอง

2. โทนี โครส – เยอรมนี

หากใครได้ติดตามดูทีมชาติเยอรมนี ลงแข่งในศึกฟุตบอลโลก 2014 อย่างใกล้ชิดทุกนัด น่าจะจำกันได้ว่าฟอร์มการเล่นของ โทนี โครส นั้นมีความยอดเยี่ยมมากเพียงใด

การวางบอลยาวจากแนวลึกของเขาแต่ละครั้งนั้นมันช่างแม่นยำราวจับวาง และสวยงามเหมือนกับงานศิลปะชั้นเยี่ยมจนได้รับการยกย่องอย่างสูงว่ามีฝีเท้าระดับโลกจากการแจ้งเกิดครั้งแรกเลยทีเดียว

มาครั้งนี้ โครส ได้เติบโตขึ้น แถมยังก้าวขึ้นเป็นตัวหลักที่ขาดไม่ได้ของมหาอำนาจอย่าง เรอัล มาดริด อีกด้วย ฉะนั้นจึงน่าสนใจสุด ๆ ว่าปีนี้เจ้าตัวจะเด็ดดวงกว่าทัวร์นาเมนต์ก่อนมากแค่ไหน

1. เนย์มาร์ – บราซิล

ก่อนที่จะเลือกอันดับหนึ่งมาเขียนในลิสต์นี้ ยอมรับเลยว่าทำใจยากมากว่าจะใส่ 2 สุดยอดของโลกอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ หรือ ลีโอเนล เมสซี เข้ามาเป็นอันดับหนึ่งตรงนี้ดีไหม แต่คิดไปคิดมาแล้วก็ตัดทิ้งไปเลยดีกว่า เพราะตำนานแบบนั้นควรขึ้นหิ้งไปไม่ต้องเอามาแข่งอะไรกับใครอีก สุดท้ายก็ออกมาเป็น เนย์มาร์ นี่แหละ

เหตุผลก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าเขาเพิ่งเป็นนักเตะเจ้าของสถิติค่าตัวแพงสุดของโลกที่ 198 ล้านปอนด์ไปหมาด ๆ และแน่นอนว่าระเบิดฟอร์มแจ่มโพดกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อยู่ ณ เวลานี้ด้วย

แถมในศึกฟุตบอลโลกครั้งก่อน เนย์มาร์ ได้รับบาดเจ็บหนักที่หลัง และพอเขาไม่ได้ลงเล่นทีมก็เลยต้องพ่ายต่อ เยอรมนี ไปด้วยสกอร์ 7-1 ครั้งนี้จึงเชื่อว่าเจ้าตัวน่าจะกลับมาพร้อมกับความมุ่งมั่นอันยิ่งใหญ่ เรียกว่าไฟแรงเวอร์จนเผาหญ้าไหมทั้งสนามได้เลย นี่แหละที่มันน่าจับตามอง !