นับตั้งแต่อดีตกาลนานมาแล้ว นักเตะคนไหนที่ถือครองสัญชาติอังกฤษอยู่นั้นมักจะได้รับการยกย่องว่าเก่งเหนือใครมาตลอด จนทำให้พวกเขามีค่าตัวสูงเวอร์ทุกครั้ง ซึ่งก็กลายเป็นที่มาของคำพูดเชิงล้อเลียนที่ว่า “บวกค่าความเป็นนักเตะอังกฤษ” เข้าไปด้วยเวลาย้ายทีม

เราไม่เถียงว่ามีนักเตะอังกฤษเก่ง ๆ หลายคนที่แจ้งเกิดขึ้นมาได้ในวงการแล้วก็ทำผลงานโดดเด่นจนติดลมบน กลายเป็นแข้งระดับท็อปไปจนกระทั่งวันแขวนสตั๊ด

แต่ขณะเดียวกันก็มีอีกจำนวนไม่น้อยเช่นกันที่ ถูกสื่อปั้นจนมีชื่อเสียง+ค่าตัวโด่งดังกว่าความสามารถที่แท้จริงไปซะห่างไกลหลายเสาไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละคน “แจ้งดับ” กันอย่างไวในระยะเวลาแค่ 1-2 ปีจากวันที่เริ่มถูกพูดถึง

และนี่ก็คือ 5 กองหน้าอังกฤษที่ ไปไม่ถึงฝั่งฝันหลังจากโด่งดังขึ้นมาได้ในเวลาอันรวดเร็ว

1. แพทริก แบมฟอร์ด

สำหรับ แบมฟอร์ด ตอนนี้เขามีอายุปาเข้าไป 24 ปีแล้ว ซึ่งดูจากแนวโน้มก็คงจะไม่มีทางยกระดับของตัวเองให้สูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ได้มากสักเท่าไหร่ไปจนถึงวันเลิกเล่นแน่

แต่หากย้อนกลับไปในฤดูกาล 2014-15 ที่เขาถูกส่งจาก เชลซี ไปอยู่กับ มิดเดิลสโบรห์ ด้วยสัญญายืมตัวนั้น บอกเลยว่าจะหากองหน้าดาวรุ่งสัญชาติอังกฤษคนไหนร้อนแรงไปกว่านี้ “ไม่มีอีกแล้ว” ทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นเล่นอยู่ในลีกแชมเปียนชิพด้วยซ้ำ

เรียกว่าดังทะลุลีกขึ้นมากันเลยทีเดียว

และทันทีที่ได้กลับคืนสู่ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ คนทั้งโลกต่างหวังว่าจะได้เห็นเขาได้รับโอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่มากขึ้น เพราะเด็กคนนี้ยังไง ๆ ก็มีของ แต่สุดท้ายก็โดนส่งยืมไปอีกรัว ๆ จนกระทั่งต้นซีซั่นที่ผ่านมา ก็โดนขายทิ้งถาวรไปอยู่กับทีม เดอะ โบโร่ อีกครั้งในแชมเปียนชิพ เหมือนเดิม

2. คาร์ลตัน โคล

กองหน้าร่างถึกคนนี้ เป็นอีกหนึ่งผลผลิตจากทีมเยาวชนของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่ใคร ๆ ต่างก็ยกย่องว่ามีพรสวรรค์สูง พร้อมปล่อยแสงเจิดจรัสหลังผ่านการเจียระไน ซึ่งยุคนั้นสื่อในอังกฤษต่างอวยเด็กคนนี้กันยกใหญ่ว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นเทพกองหน้าสไตล์คลาสสิกที่ขาดหายไปนาน

แต่หลังจากถูกส่งยืมไป-ยืมมา ติดต่อกัน 3 ซีซั่น ทางต้นสังกัดเห็นท่าไม่ดีจึงรีบขายทิ้งออกไปให้กับ เวสต์แฮม ซึ่งนี่ก็เป็นความต้องการของเจ้าตัวเองด้วย เพราะรู้ดีว่าหากยังจ่อมอยู่กับ เชลซี ก็คงหนีไม่พ้นการถูกปล่อยยืมซ้ำซากแน่

จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ คาร์ลตัน โคล ของเรามีอายุ 34 ปีและแขวนสตั๊ดไปเรียบร้อย แต่เราไม่เคยเห็นเขามีฤดูกาลที่พูดว่า “ร้อนแรง” ได้เลยแม้สักปีเดียว

3. คอนเนอร์ วิคแฮม

 วิคแฮม เป็นอีกหนึ่งกองหน้าที่สื่อหลายเจ้าพยายามเชียร์ว่าจะก้าวขึ้นเป็นแข้งระดับท็อปของโลกได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ และช่วงปี 2013 เขาก็เริ่มที่จะมีฟอร์มการเล่นโฉบเฉี่ยวขึ้นมาได้กับทีม แมวดำ ซันเดอร์แลนด์

จากนั้นปี 2015 วิคแฮม ก็ได้ย้ายไปเล่นให้กับ คริสตัล พาเลซ ซึ่งเจ้าตัวก็ดูเหมือนจะกำลังคึกคักสุดขีด เพราะลีลาการเล่นของเขานั้น ดูมีทรงที่น่าจะพัฒนาตัวไปได้อีกไกลมาก

แต่คำถามคือ จำนวนประตูที่ทำได้นั้นทำไมมันน้อยเหลือเกิน จนไม่น่าเรียกตัวเองว่าเป็นกองหน้าเลยนี่สิ ! โอเค เราอาจจะต้องรอดูกันไปก่อนเพราะเด็กกำลังโต อาจจะเปรี้ยงขึ้นมาตอนไหนก็ได้ใครจะไปรู้

จนกระทั่ง 3 ปีผ่านไป เข้าสู่ปี 2018 แล้ว เจ้าหนูวิคแฮม ก็อายุปาเข้าไป 24 ปีแล้ว แต่ทุกอย่างนั้นยังไม่มีอะไรพัฒนาให้เห็น เอาจริง ๆ เรียกว่าถอยหลังลงคลองน่าจะตรงกับความเป็นจริงมากกว่า ทำให้เขาเป็นกองหน้าที่ใครหลายคนต้องบ่นเสียดาย

2. เบนิค อโฟเบ้

อโฟเบ้ นั้นเข้ามาเป็นแข้งเยาวชนในทีมอคาเดมีของ อาร์เซนอล ตั้งแต่อายุแค่ 8 ขวบ แล้วก็พัฒนาตัวเองจนก้าวขึ้นมาชื่อเสียงโด่งดังได้ตั้งแต่ก่อนทะลุขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่

แต่แล้วในปี 2015 อโฟเบ้ ก็ตัดสินใจไม่เซ็นสัญญานักเตะอาชีพกับ อาร์เซนอล เพราะกลัวว่าตัวเองจะโดนดองจนหมดโอกาสลงสัมผัสเกมการแข่งขันจริง เลยเลือกที่จะย้ายไปค้าแข้งกับ วูล์ฟ ในลีกแชมเปียนชิพแบบสุดเซอร์ไพร์ส ซึ่งช่วงนี้เองที่พรสวรรค์ของเจ้าตัวเบ่งบานออกมาเตะตาคอบอลมากที่สุดจนแทบจะกลายเป็น “วันเดอร์คิด” เลยทีเดียว

และพอเข้าสู่ช่วงเดือนมกราคมปี 2016 อโฟเบ้ ก็ตัดสินใจย้ายขึ้นมาโชว์เพลงแข้งบนเวทีพรีเมียร์ลีก กับ เอเอฟซี บอร์นมัธ ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ พร้อมกับความคาดหวังอันมหาศาลจากทุกฝ่ายรวมถึงตัวเองด้วย

อย่างไรก็ตาม วันเวลาผ่านไปจน อโฟเบ้ อายุ 25 แล้ว แต่ก็ยังไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันให้เห็น แถมฝีเท้าก็เหมือนจะหยุดพัฒนาไปดื้อ ๆ เรียกเต็มปากว่าดับสนิทก็คงไม่แย่เกินไปนัก

1. ไซโด้ เบราฮิโน

หากใครยังจำกันได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน กองหน้าดาวรุ่งอย่าง เบราฮิโน นั้นแจ้งเกิดขึ้นมาโด่งดังสุด ๆ กับทีม เวสต์บรอมวิช อัลเบียน จนมีทีมใหญ่ ๆ ตามจีบเทียวไล้เทียวขือทุกวี่วัน

และด้วยฟอร์มการเล่นของเขาในช่วงนั้นทำให้ต้นสังกัดไม่อยากขายออกไป จนตั้งราคาเอาไว้สูงลิ่วระดับ 25-30 ล้านปอนด์เลยทีเดียว และก็ได้ผลซะด้วย เพราะสุดท้ายแล้วไม่มีใครกล้ายื่นซื้อเข้าไปจริง ๆ

จนกระทั่งวันเวลาได้ล่วงเลยผ่านไป เบราฮิโน ก็เล่นฟุตบอลทรง ๆ ไปเรื่อยแบบไม่มีพัฒนาการอะไรให้เห็น กระทั่งทาง เวสต์บรอม สังเกตแล้วว่าเด็กคนนี้เริ่มแย่ เพราะไม่เก่งขึ้นเลยแถมยังประตูไม่ได้ติดต่อกันนานถึง 8 เดือนแล้วจึงตัดสินใจขายทิ้งออกไปให้ สโต๊ค ในราคา 12 ล้านปอนด์

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะหลังจากวันที่ย้ายไปลงหม้อ จนถึงตอนนี้ 14 เดือนเข้าไปแล้ว เบราฮิโน ยังยิงไม่ได้เลยสักเม็ดเดียว บวกกับของเก่าเข้าไปอีกก็ใกล้ครบสองปีเต็มแล้ว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าดับสนิทศิษย์ส่ายหน้ากันเลยทีเดียว