ตอนนี้คอลูกหนังทั้งโลกคงทราบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ยอดสไตรเกอร์ชาวสวีเดนผู้เป็นตำนานของวงการลูกหนังนั้นได้เซ็นสัญญาค้าแข้งกับทีม แอลเอ กาแล็คซี ในศึกเมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา เป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปเมื่อเดือนก่อน
และที่เจ๋งไปกว่านั้นก็คือ ซลาตัน ของเราระเบิดฟอร์มสุดยอดออกมาได้ตั้งแต่เกมเปิดตัว พร้อมแสดงให้โลกเห็นว่าเขายังเตะปี๊บดังอยู่ด้วยการตะบันไกลครึ่งสนามเข้าไปอย่างสวยสดงดงาม แม้อายุอานามจะปาเข้าไป 36 ปีแล้ว
แต่ขณะที่แฟน ๆ กำลังรอคอยให้ อิบรา สร้างประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ในเวทีลีกอเมริกาอยู่นั้น หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าในอดีตมีนักเตะเชื้อสายยุโรปอยู่หลายต่อหลายคนที่เคยไปเล่นฟุตบอลที่นั่นมาก่อน อาทิ แฟรงค์ แลมพาร์ด, อันเดรีย ปิร์โล, สตีเวน เจอร์ราร์ด ฯลฯ
อย่างไรก็ตาม เราขอยกเอา 5 คนที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมที่สุดจนจัดได้ว่าแทบจะสร้างตำนานขึ้นที่ เมเจอร์ลีก กันเลยทีเดียว มีใครบ้าง เดากันออกมั้ยพี่น้อง !!
1. เซบาสเตียน จิโอวินโก : โตรอนโต เอฟซี
ย้อนกลับไปในอดีตเมื่อหลายปีก่อน จิโอวินโก้ นั้นถือว่าเป็นหนึ่งในแข้งระดับท็อปของสโมสรชั้นนำอย่าง เจ้าม้าลาย ยูเวนตุส และทีมชาติอิตาลี เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าหากหลายคนยกให้เขาเข้าใกล้ความเป็นเวิร์ลคลาสสุด ๆ แล้วเช่นกัน
แต่ในขณะที่อะไร ๆ กำลังจะไปได้สวย อยู่ ๆ เจ้าดาวเตะพลังมดตะนอยคนนี้ก็ตัดสินใจพาตัวเองย้ายออกไปอยู่กับ โตรอนโต เอฟซี ที่ สหรัฐอเมริกา แบบไม่มีใครอยากเชื่อ เพราะในยุคนั้น ไม่มีผู้เล่นดาวดังยุโรปคนไหนคิดถึงการเล่นที่ เมเจอร์ลีก เลยหากยังไม่ถึงช่วงบั้นปลายเส้นทางอาชีพ
อย่างไรก็ตาม จิโอวินโก้ ก็พิสูจน์ให้เราเห็นแล้วว่า การเลือกตามความฝันแบบสโลว์ไลฟ์นั้นก็ไม่ใช่ทางที่ผิดอะไร หากคุณพอใจกับจุดที่ตัวเองยืนอยู่ ซึ่งจนถึงวันนี้เขาคือหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งสุดของลีกอย่างเป็นเอกฉันท์
2. เดวิด เบ็คแฮม : แอลเอ กาแล็คซี
สำหรับชายผู้ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับโลกทั้งวงการลูกหนังและวงการบันเทิงนี้ ถือได้ว่าเป็นนักฟุตบอลยุโรปคนแรก ๆ ที่ย้ายไปเล่นใน อเมริกา แล้วได้รับการจับตามองอย่างมากจากแฟน ๆ จนแทบจะเป็นการเปิดประตูให้เกมลีกทั้งสองทวีปเชื่อมต่อกันลึกซึ้งขึ้น
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ เบ็คแฮม ทำนั้นไม่ใช่แค่เรื่องของการช่วยโปรโมทวงการซอคเกอร์ของ อเมริกา แต่ยังเอาเพลงแข้งอันยอดเยี่ยมไปแสดงให้ผู้คนบนดินแดนแห่งเสรีภาพได้เห็นอีกด้วยว่า “นักเตะระดับตำนาน” ของแท้เขาเล่นกันอย่างไร
และถึงแม้จะถูกส่งไปให้ เอซี มิลาน ยืมใช้งาน 2 ครั้ง 2 ครา แต่ทุกอย่างที่พ่อรูปหล่อเท้าชั่งทองคนนี้สร้างเอาไว้ ก็ต้องบอกว่าเป็นผลงานระดับมาสเตอร์พีซเช่นกัน
3. ดาบิด บีญา : นิวยอร์ก ซิตี้ เอฟซี
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า หลังจากที่ ดาบิด บีญา ออกจาก บาร์เซโลนา ไปเมื่อตอนปี 2013 คอบอลส่วนหนึ่งอาจจะรู้ว่าบ้านหลังใหม่ของเขาคือ แอตเลติโก มาดริด แต่เชื่อเถอะว่าคงไม่มีใครจำได้ว่าผลงานเป็นอย่างไรกันบ้าง เรียกว่าแทบจะถูกลืมกันไปเลยทีเดียว
แต่แล้วอยู่ ๆ ชื่อของ บีญา ก็ถูกพูดถึงขึ้นมาอีกครั้งแบบสร้างความเซอร์ไพร์สว่าเจ้าตัวกำลังค้าแข้งอยู่ใน เมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา แถมทำผลงานแจ่มด้วยการตะบันได้มากมายในแต่ละซีซั่นอีกด้วย
จนถึงตอนนี้ เป็นเวลา 4 ฤดูกาลแล้วที่ บีญา เล่นอยู่กับทีม นิวยอร์ค ซิตี้ อีกทั้งยังยิงไปมากถึง 66 ประตูจากการลงเล่น 101 เกมอีกต่างหาก
4. เธียร์รี อองรี : นิวยอร์ก เรดบูลส์
อองรี คือหนึ่งในกองหน้าระดับตำนานที่มีความยิ่งใหญ่มากสุดของวงการลูกหนังอังกฤษ เพราะตลอดระยะเวลา 8 ฤดูกาลที่เล่นอยู่กับ อาร์เซนอล เขาพาต้นสังกัดคว้าถ้วยแชมป์มาครองได้มากมาย รวมถึงสร้างตำนาน “ไร้พ่าย” ขึ้นมาได้อย่างสุดทึ่งอีกด้วย
นอกจากจำนวนประตู 226 ลูกจาก 369 นัดนั้นก็ไม่ใช่ธรรมดา ฉะนั้นจึงไม่แปลกใจเลยที่คอลูกหนังเกือบทั้งโลกแอบเซอร์ไพร์สกันจนหงายหลังเมื่อเห็นเขาไปเล่นให้ เรดบูลส์ ในปี 2010 ทันทีที่ย้ายออกจาก บาร์เซโลนา
อย่างไรก็ตาม ตลอดเวลาที่โลดแล่นในเมืองลุงแซม อองรี ของเราก็ไม่ได้ไปเล่น ๆ แต่โชว์ฟอร์มโดดเด่นจนถูกยกให้เป็นหนึ่งแข้งขวัญใจแฟนบอลตลอดกาลเลยทีเดียวแม้จะยิงประตูไม่ได้มากมายเหมือนตอนอยู่อังกฤษก็ตาม
5. ร็อบบี คีน : แอลเอ กาแล็คซี
เจ้าคีนน้อย ก็น่าจะเป็นแข้งดังจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกคนหนึ่งที่สร้างความประหลาดใจให้แฟนบอลมากว่า เห้ย พี่เขาไปเล่นอยู่ที่ เมเจอร์ลีก ตั้งแต่เมื่อไหร่ ซึ่งหลาย ๆ คนเพิ่งมารู้เอาตอนที่ สตีเวน เจอร์ราร์ด ย้ายไปเป็นลูกทีมเมื่อปี 2015 เลยด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ตาม คีน นั้นได้เข้ามาอยู่กับทีม แอลเอ กาแล็คซี มาตั้งแต่เมื่อปี 2011 โน่นแล้ว และเขาก็ทำผลงานยอดเยี่ยมจนเป็นตัวหลักที่จะขาดไม่ได้ในทุก ๆ เกม จนกระทั่งถูกยกปลอกแขนกัปตันทีมให้ครอบครองตอนปี 2013
และตลอดระยะเวลา 5 ปีกับทีมในเมเจอร์ลีก คีน ลงเล่นทุกรายการรวม 165 นัด ยิงได้ทั้งหมด 104 ประตู จนถูกจารึกชื่อให้เป็นตำนานของสโมสรไปแบบไร้เสียงคัดคาน ก่อนจะย้ายออกจากทีมอยู่ที่ อินเดีย เมื่อปี 2016 นั่นเอง