หากไม่นับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ที่เพิ่งก้าวขึ้นมาร้อนแรงได้ในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด ทีมระดับ Top 5 ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั้นก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เชลซี, อาร์เซนอล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยเฉพาะรายหลังนี่เริ่มสถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นตัวท็อปเอาเมื่อราว 6-7 ปีก่อน

แน่นอนว่าด้วยความเป็นทีมชั้นนำของลีกฟุตบอลชั้นยอดที่ใคร ๆ ต่างก็อยากเดินทางมาค้าแข้งด้วย ทำให้มีผู้เล่นเก่ง ๆ ย้ายเข้ามาร่วมทีมอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งหลายคนก็ประสบความสำเร็จ และก็มีอีกส่วนหนึ่งที่ทำผลงานได้ไม่น่าประทับใจจนต้องถูกปล่อยตัวไปในภายหลัง

และนี่ก็คือ 5 กองหน้าที่ต้องรู้สึก “เสียใจ” กับการย้ายเข้ามาเล่นให้ทีมระดับ Top 5 ของพรีเมียร์ลีก

1. ลูคัส เปเรซ – อาร์เซนอล

ย้อนกลับไปในฤดูกาล 2015-16 ตอนที่ เปเรซ เล่นให้กับ เดปอร์ติโว ลา คอรุนญา กันสักหน่อย เพราะฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม พร้อมจำนวนประตูที่ตะบันให้ต้นสังกัดขณะนั้นมากถึง 17 ลูก เป็นเหตุทำให้ อาร์เซน เวนเกอร์ ยอมทุ่มเงิน 17 ล้านปอนด์ เพื่อดึงเขามาอยู่ที่ เอมิเรตส์ สเตเดียม

แน่นอนว่าสิ่งที่ เปเรซ สร้างไว้กับทีมเก่า ส่งผลให้แฟน ๆ ทีมใหม่เกิดความคาดหวังอะไรบางอย่างขึ้นมา แต่น่าเสียดายที่กองหน้าชาวสเปนคนนี้กลับได้รับบาดเจ็บ และเสียตำแหน่งตัวจริงไปอย่างรวดเร็ว

จากนั้นเป็นต้นมาเขาก็ถูกดองจนเค็มยิ่งกว่าอะไร แถมพอวันที่ประกาศว่าอยากจะย้ายทีม เพราะทนอยู่แบบไม่ได้ลงสนามอย่างนี้ไม่ไหว เวนเกอร์ ยังออกมาขอให้ช่วยอยู่ต่ออีก เลือดเย็นจริง ๆ ขงเบ้งเลือดน้ำหอมของเรา

2. อังเดรย์ เชฟเชนโก้ – เชลซี

สำหรับ เชฟเชนโก้ คนนี้ เขามีดีกรีเป็นถึง สไตรเกอร์ที่เก่งกาจสุดของโลกมาแล้ว โดยเฉพาะยุคที่เล่นอยู่กับ เอซี มิลาน นั้นบอกเลยว่าคมสุด ๆ อันตราย ๆ แถมฟอร์มดีสุด ๆ ที่สำคัญเคยคว้ารางวัล บัลลงดอร์ มาครองด้วยตอนปี 2004

และนั่นก็ทำให้ “เสี่ยหมี” โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี ที่สมัยปี 2006 เป็นทีมคลั่งทุ่มเงินซื้อนักเตะระดับโลกมาร่วมทีม จัดการจ่ายให้ มิลาน ที่ 30.8 ล้านปอนด์ จนได้ลายเซ็นของ เชว่า มาครอง

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจในครั้งนี้ของทุกฝ่าย ถือเป็นฝันร้ายที่ดาวยิงชาวยูเครนแทบจะไม่อยากจดจำ เพราะเขาไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้เลยตลอด 2 ฤดูกาลกับทัพสิงห์บลู แถมโอกาสยิงเหน่ง ๆ ก็ไม่คมแบบโดนสวรรค์กลั่นแกล้ง ก่อนจะยอมแพ้ ย้ายทีมออกไปด้วยสถิติสุดย่ำแย่คือ 9 ประตูจาก 77 นัดในลีก

3. ราดาเมล ฟัลเกา – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, เชลซี

ก่อนที่ สไตรเกอร์พลังเสือคนนี้จะย้ายเข้ามาค้าแข้งให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 2014 เขาคือยอดดาวยิงที่มีสถิติการพังประตูถล่มทลายมากที่สุดคนหนึ่งของลีกฟุตบอลในทวีปยุโรปเลยก็ว่าได้

และถึงแม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้มาแบบยืมตัว แต่ก็ต้องจ่ายเงินให้กับต้นสังกัดเป็นค่าสินไหมราว 10 ล้านปอนด์ พร้อมแบกค่าเหนื่อยมหาศาลแบบที่พอรู้ตัวเลขแล้วต้องถึงกับอึ้ง ซึ่งคนที่อึ้งสุดก็เห็นจะเป็น หลุยส์ ฟาน กัล เพราะเจ้าหัวเสือยิงได้แค่ 4 ลูก จากการลงเล่น 29 นัดเท่านั้นเอง

ยัง ! ยังไม่พอ เพราะหลังหมดสัญญากับ ปีศาจแดง กองหน้าชาวโคลอมเบีย ก็กลับมาพรีเมียร์ลีก อีกครั้งในฤดูกาลถัดมา โดยมี “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี เป็นผู้ลองของ โดยเจ้าตัวเองก็หวังจะกู้หน้าคืนกลับมาจากปีก่อน แต่สุดท้ายก็พังอยู่ดี (ลง 12 ยิงได้ 1 ประตู)

4. โรแลนโด้ เบียงคี – แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สำหรับทีมเรือใบสีฟ้า เราขอย้อนกลับไปไกลหน่อย เพราะคนที่ย้ายมาแล้วไม่ค่อยเวิร์คในยุคใหม่ ๆ อย่าง เซโก้ หรือ โบนี นั้นยังไม่ถึงกับต้องเสียใจมากเท่าไหร่นัก เมื่อเทียบกับความคาดหวังที่ได้รับ

แต่สำหรับ เจ้าหนุ่มรูปหล่อชาวอิตาลีอย่าง เบียงคี นั้นเขาเคยถูกยกย่องว่าจะได้ก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในกองหน้าระดับโลกแน่ หากดูจากค่าพลังแฝง ฟอร์มการเล่นก่อนหน้า รวมถึงพัฒนาการต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นตอนอยู่ เรจจินา

และในปี 2007 ก็เป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ปาดหน้าทีมใหญ่ ๆ ทั้งในอิตาลี และทั่วยุโรป สอยเอา เบียงคี เข้ามาอยู่ด้วยได้สำเร็จ ก่อนที่จะทำพังคามือไปอย่างไม่มีใครอยากเชื่อ จากนั้นชื่อเสียงของอดีตวันเดอร์คิดคนนี้ก็ค่อย ๆ เงียบหายไปและไม่มีใครพูดถึงอีก

5. คริสเตียน เบนเทเก้ – ลิเวอร์พูล

ในตอนที่ คริสเตียน เบนเทเก้ ยังเล่นให้กับ แอสตัน วิลลา อยู่นั้น เชื่อว่าคอบอลพรีเมียร์ลีกทุกคนคงจะยอมรับในฝีเท้าของดาวยิงร่างถึกคนนี้กันอย่างเป็นเอกฉันท์ เพราะเขาเจ๋งสุด ๆ ยามอยู่ในกรอบเขตโทษและลูกกลางอากาศ

แต่หลังจากที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ฟันฝ่าทุกอุปสรรคจนสามารถคว้ามาอยู่ด้วยที่ ลิเวอร์พูล สำเร็จ เจ้าเบนเทน ที่เคยมีพลังจากต่างดาว กลับกลายร่างเป็นแมวน้อยไร้พิษสงใด ๆ จนโดนวิจารณ์ โดนล้อเลียนอย่างหนักจากรอบด้าน ก่อนจะต้องย้ายหนีไปอยู่ คริสตัล พาเลซ ภายหลัง

แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะหลังจากนั้นเจ้าตัวออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล เลยแม้แต่น้อย เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือผมไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้อย่างเคยเท่านั้นเอง”

เบนเทเก้ นายไม่เสียใจก็ได้ แต่ถามแฟนหงส์ด้วยว่าเสียใจกับนายแค่ไหน !!