เมื่อพูดถึงเรื่องของกีฬาฟุตบอลแล้ว ต้องบอกเลยว่าสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้วงการขับเคลื่อนไปต่อเรื่อย ๆ ได้นั้นก็คือ “พัฒนาการ” ของตัวนักเตะแต่ละคนที่เติบโตขึ้นในแต่ละปี
เพราะเชื่อเถอะว่าแฟนบอลส่วนใหญ่เองก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากพอ ๆ กับชัยชนะและความสำเร็จของทีมเลยก็ว่าได้ เนื่องจากว่า หากนักเตะเก่งขึ้นมากับทีมรักได้แล้วล่ะก็ มันคือความภูมิใจของกองเชียร์ด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มีแข้งพรสวรรค์มากมายที่ไม่สามารถพาตัวเองไปถึงฝั่งฝันทางด้านการพัฒนาฝีเท้าได้ โดยมีสาเหตุหลักมาจากการบาดเจ็บบ่อยครั้งหรือหนักหนาสาหัสมากเกินไป
และนี่ก็คือ 5 นักเตะดังจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ชีวิตพ่อค้าแข้งต้องมาพังเพราะอาการบาดเจ็บ
1. อาบู ดิยาบี
“พี่บี้” ของสาวกทีมปืนใหญ่นั้นเคยได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งสุดยอดมิดฟิลด์ที่มีทักษะสูงส่งมาจนน่าจะก้าวขึ้นไปถึงความเป็นระดับโลกได้เลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม หลังจากถูกคาดหมายเต็มที่ให้เป็นตัวแทนของ ปาทริก วิเอรา เขาก็เริ่มจะได้รับบาดเจ็บรบกวนบ่อยขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งลามหนักข้อไปถึงขั้นพักยาวกันเลยทีเดียว
ที่โหดไปกว่านั้นคือ 4 ฤดูกาลหลังสุด พี่บี้ ได้ลงเล่นให้กับ อาร์เซนอล ไปแค่ 22 เกมเท่านั้น ก่อนจะย้ายกลับฝรั่งเศสไปอยู่กับ โอลิมปิก มาร์กเซย์ ซึ่งโชคชะตาก็เล่นตลกอีกครั้ง โดยทำให้เจ้าตัวบาดเจ็บยาวจนมีโอกาสลงสนามไปแค่ 5 เกมตลอดสองซีซั่น จนต้องยอมแขวนสตั๊ดไปในที่สุด
2. ไมเคิล จอห์นสัน
ในยุคที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนกับทุกวันนี้ การจะมีนักเตะดาวโรจน์ที่พรสวรรค์สูงส่งมาก ๆ แจ้งเกิดขึ้นมาในทีมนั้นถือเป็นเรื่องใหญ่สุดในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ และ จอห์นสัน ก็คือใครคนนั้น
เจ้ามิดฟิลด์มาดหล่อน่ารักคนนี้เริ่มแจ้งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2006 และก็ฉายแสงเจิดจรัสจนคาดว่าหากปั้นกันดี ๆ คงจะโตไปเป็นแข้งเวิร์ลคลาสได้อย่าง สตีเวน เจอร์ราร์ด ของ ลิเวอร์พูล หรือเผลอ ๆ อาจจะเหนือกว่าด้วยซ้ำ
แต่แล้วโชคร้ายก็เข้ามาทำลายอนาคตของ จอห์นสัน เพราะเขาต้องได้รับบาดเจ็บหนักมากจนต้องพักยาวจนแฟน ๆ แทบลืมหน้า และในระหว่างนั้นเอง ความคิดด้านลบก็ครอบงำจิตใจ ทำให้ไม่มีวินัยในการฟื้นฟูตัวเอง ปล่อยให้น้ำหนักเกินจนอ้วนฉุ สุดท้ายก็ออกทะเลไปแบบกู่ไม่กลับจนกระทั่งแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันสมควร
3. เลดลีย์ คิง
สุดยอดกองหลังผู้ยิ่งใหญ่ของ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส คนนี้ ถือว่ามีพรสวรรค์สูงส่งมาก ๆ จนได้รับการคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นตัวหลักให้กับทีมชาติอังกฤษได้ในอนาคต
แต่แล้ว คิง ก็ต้องโชคร้าย เพราะได้รับบาดเจ็บหนักจนถึงขั้นพักยาวหลายเดือน และหลังจากฟื้นฟูตัวเองกลับมาลงเล่นได้อีกครั้ง ก็มีเดี้ยงเพิ่มเรื่อย ๆ จนเรียกได้ว่ากลายเป็นคนกระดูกบางขึ้นมาทันที
สุดท้ายเขาก็ต้องยอมตัดใจแขวนสตั๊ดไปทั้งๆ ที่มีความสามารถสูงมากจนหาคนมาเปรียบเทียบได้ยากขนาดนี้แล้วแท้ ๆ
4. โอเวน ฮากรีฟส์
เส้นทางการเติบโตของ ฮากรีฟส์ นั้นค่อนข้างจะแตกต่างจากแข้งชาวอังกฤษคนอื่น ๆ อยู่สักหน่อย เพราะเขาเริ่มต้นอาชีพด้วยการเติบโตขึ้นมาจากทีมเยาวชนของ บาเยิร์น มิวนิค ในเยอรมนีโน่นเลย
หลังจากที่ใช้ฝีเท้าของตัวเองสร้างชื่อเสียงขึ้นมาจนโด่งดัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ไปติดต่อขอซื้อมาร่วมทีมด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2007 และนั่นก็เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นฝันร้ายบนเส้นทางลูกหนังของ ฮากรีฟส์ คนนี้
เพราะหลังจากลงเล่นไปได้นิดหน่อย เจ้าตัวก็โดนอาการบาดเจ็บเล่นงานไปเรื่อย ๆ จนถึงขั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดแล้วพักยาวจนหายหน้าหายตาไปเลย โดยเฉพาะ 3 ฤดูกาลหลังสุดในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด นั้นได้ลงเล่นไปแค่ 5 เกมเท่านั้น สุดท้ายก็ย้ายไปเดี้ยงต่อกับ แมนฯ ซิตี้ จนต้องยอมแขวนสตั๊ดในปี 2012
5. ดาเนียล เตอร์ริดจ์
กองหน้าขาแดนซ์ที่สร้างชื่อเสียงโด่งดังสุดขีดได้กับทีม ลิเวอร์พูล คนนี้ มีช่วงเวลอันรุ่งโรจน์ของตัวเองได้เพียงแค่แป๊บเดียวเท่านั้นจริง ๆ เพราะในอดีต ถึงแม้เขาจะถูกยกย่องว่ามีพรสวรรค์สูง แต่ก็ไม่ค่อยจะได้รับโอกาสให้ลงสนามมากเท่าไหร่นัก ไม่ว่าจะเป็นตอนอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ หรือ เชลซี ก็ตาม
แต่หลังจากที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ไปซื้อมาร่วมทัพหงส์แดง แล้วส่งลงเล่นเคียงข้าง หลุยส์ ซัวเรซ เจ้าเต้ยโศกก็กลายเป็นฮีโร่ของเด็กหงส์ขึ้นมาได้ทันทีจนกระทั่งเข้าสู่ช่วงวิกฤติของชีวิตหลังจากท็อปฟอร์มได้ไม่นาน
สเตอร์ริดจ์ ต้องต่อสู้กับอาการบาดเจ็บบริเวณก้นและสะโพกอยู่นานมาก ถึงขนาดต้องบินไปผ่าตัดซ้ำแล้วซ้ำอีกถึงโรงพยาบาลในต่างประเทศ และนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นแข้งกระดูกเปราะที่พอลงเล่นเต็มเกมทีไรจะต้องบาดเจ็บทุกที
โดนแบบนี้บ่อย ๆ พรสวรรค์ที่มีอยู่ก็ต้องหดหายไปอย่างช่วยไม่ได้ แหม.. .เสียดายฝีเท้าจริง ๆ