5 เหตุผลชี้ชัดว่า “ทัพแซมบ้า” จะคว้าแชมป์ “ฟุตบอลโลก 2018”
สำหรับโลกแห่งฟุตบอลอันยิ่งใหญ่ใบนี้ เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่า “บราซิล” คือหนึ่งในชาติที่ผลิตผู้เล่นระดับท็อปออกมาประดับวงการได้มากมายตั้งแต่สมัยอดีตโน่นแล้ว
และทุก ๆ ครั้งที่มีการแข่งขันใด ๆ เกิดขึ้น หากมีชื่อของทัพเซเลเซาเข้าร่วมด้วยแล้ว พวกเขามักจะถูกยกให้เป็นเต็งหนึ่งเสมอไม่ว่าฟอร์มโดยรวมในช่วงนั้น ๆ จะเป็นอย่าง ซึ่งถือเป็นการบอกให้รู้ได้ชัดเจนสุด ๆ ว่าถ้าขึ้นชื่อว่า บราซิล แล้ว จะมีความร้ายกาจมากมายขนาดไหน
ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียปีนี้ก็เช่นกัน บราซิล ถูกยกให้เป็นทีมที่น่าจะขึ้นครองบัลลังก์แชมป์ได้มากกว่าใคร แม้นักเตะส่วนหนึ่งจะไม่ค่อยคุ้นหน้าค่าตาสักเท่าไหร่ก็ตาม
ในรอบแบ่งกลุ่มนัดแรก บราซิล เปิดตัวได้ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก เพราะเสมอกับ สวิตเซอร์แลนด์ ไปแบบน่าผิดหวังด้วยสกอร์ 1-1 แต่หลังจากนั้นพวกเขาก็ค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น ฟอร์มของผู้เล่นแต่ละคนเริ่มเจิดจรัสโดดเด่นอย่างมีพัฒนาการ แถมแท็คติกโดยรวมก็แน่นกว่าเดิมทุกแมตช์ด้วย
ล่าสุดพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายแล้ว และคู่ต่อสู้ก็คือ เบลเยียม ที่อุดมไปด้วยแข้งดังระดับท็อปของโลก แถมถ้าผ่านได้ ด่านถัดไปก็ยังมี ฝรั่งเศส หรือไม่ก็ อุรุกวัย รอพบอยู่ แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะทีมระดับนี้ สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ทุกทีมอยู่แล้ว
และนี่ก็คือ 5 เหตุผลที่บ่งชี้ว่า “ทีมชาติบราซิล” ของเราจะสามารถก้าวขึ้นไปเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ได้ในท้ายที่สุด
1. มี “เนย์มาร์”
อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า บราซิล เป็นชาติที่ไม่เคยขาดแข้งดังระดับโลกเลยแม้แต่ยุคสมัยเดียว และวันนี้ เนย์มาร์ ก็เป็นชายผู้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดบนโลกฟุตบอลของชาวแซมบ้า
เขาคือกองหน้าตัวความหวังที่ทั้งกองเชียร์และเพื่อนร่วมทีมอยากให้ลงสนามไปสร้างผลงานบันลือโลกในทุก ๆ เกม
และแน่นอน เราทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วว่า เนย์มาร์ นี่แหละคือ 1 ใน 3 นักฟุตบอลที่เก่งสุดของโลกรองจาก คริสเตียโน โรนัลโด้ และ ลีโอเนล เมสซี มายาวนานหลายปี ฉะนั้นเมื่อสองคนที่ว่าตกรอบกลับบ้านไปก่อนแล้ว
เนย์มาร์ ของเรา ก็จะขอรับหน้าที่เขย่าบัลลังก์แชมป์ในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้ให้เอง !
2. แข้งแซมบ้า คมยกเซต
นอกจากแข้งดังระดับซูเปอร์สตาร์ที่คอบอลทั้งโลกฝากความหวังไว้อย่าง เนย์มาร์ แล้ว บราซิล ก็ยังอุดมไปด้วยผู้เล่นชั้นยอดมากมาย
ไล่มาตั้งแต่ผู้รักษาประตูนี่คือ อลิสสัน เบคเกอร์ จากทีมโรมา ที่ตอนนี้ถูกยกย่องว่ามีความเหนียวทะลุสู่ระดับโลกไปเรียบร้อยแล้ว และน่าจะกลายเป็นเจ้าของสถิติโกล์ค่าตัวสูงสุดในปฐพีหลังเสร็จศึกบอลโลกอีกด้วย
กองหลังก็สุดแสนจะแข็งแกร่ง เพราะทั้ง มิรันด้า และ ซิลวา นั้นถือเป็นคู่หูที่ประสานงานกันดีเยี่ยมทุกจังหวะ แถมแบ็คซ้ายยังเป็นคนเก่งสุดของโลกอย่าง มาร์เซโล อีก พอชายตามองไปที่ขุมกำลังสำรองก็พบว่ามี มาร์ควินญอส, ฟิลิเป้ หลุยส์, เรนาโต้ อกุสโต้, ดานิโล รอโอกาสอยู่
แผงมิดฟิลด์นี่แน่นตั้งแต่มี กาเซมิโร ยืนเป็นตัวรับแล้วให้ เปาลินโญ คอยเชื่อมเกมจากหลังไปหน้า จากนั้น คูตินโญ จะสร้างสรรค์จังหวะเข้าทำสู่พื้นที่สุดท้าย เพื่มอบหน้าที่ต่อให้ เนย์มาร์, กาเบรียล เฆซุส และ วิลเลียน เป็นผู้จบสกอร์
นี่ยังไม่ได้พูดถึงคนที่ ติเต้ มีไว้ใช้งานเป็นทางเลือกอย่าง โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน, เฟร็ด, แฟร์นานดินโญ ไปจนถึง เอแดร์สัน เลยนะ เทพทุกจุดซะขนาดนี้ปัญหาหนักแค่ไหนก็เอาอยู่หมดนั่นแหละ ฟันธง !!
3. เกมรับจัดว่าเด็ด
ในข้อที่ผ่านมาเราได้พูดไปแล้วว่าแนวป้องกันของ บราซิล ชุดนี้ มีผู้เล่นชั้นยอดประจำการอยู่ครบทุกตำแหน่ง ถึงแม้ว่าทางแบ็คขวาจะเป็น ฟากเนอร์ ที่เราไม่ค่อยคุ้นหน้าค่าตาสักหน่อย แต่ดาวดังจาก โครินเธียนส์ คนนี้ก็ทำผลงานได้โดดเด่นไม่แพ้ใครเหมือนกัน
แล้วอะไรคือตัวการันตีว่า บราซิล ชุดนี้ มีแนวรับแข็งแกร่งจริงอย่างที่เคลมไว้ ?
คำตอบชัดเจนอยู่แล้วคือ ตลอด 4 นัดในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านพ้นไป (3 เกมรอบแบ่งกลุ่ม 1 เกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย) ทัพเซเลเซา โดนคู่ต่อสู้เจาะตาข่ายไปแค่ครั้งเดียวจากแมตช์แรกที่เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ และจากนั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็ไม่พลาดท่าให้ใครอีกเลย
ไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมสถิติการป้องกันประตูถึงได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้ เพราะพอไล่ดูไปตามแต่ละตำแหน่งแล้วคือมีทั้ง อลิสสัน, ซิลวา, มิรันด้า, มาร์เซโล, ฟากเนอร์ แถมมิดฟิลด์ 2 คนอย่าง กาเซมิโร กับ เปาลินโญ ก็คอยช่วยงานป้องกันอยู่เบื้องหลังอีก
หากจะเคลมว่า บราซิล มีเกมรับแน่นสุดในทัวร์นาเมนต์นี้ก็คงไม่ใช่เรื่องเกินจริงเท่าไหร่นัก ใช่ไหมใช่พี่น้อง !
4. เกมรุกเผ็ดกว่าพริกขี้หนูทั้งสวน
ขณะที่ทีมชาติฝรั่งเศสและอังกฤษ อุดมไปด้วยแข้งวัยรุ่นเลือดร้อน แรงกระหายในชัยชนะสูง กลับกันทีมชาติบราซิลชุดนี้ ดูมีความนิ่ง สุขุมนุ่มลึกและกลมกล่อมกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ทั้งนี้อาจเป็นเพราะนักเตะส่วนใหญ่ผ่านความผิดหวังอันรุนแรงสุดของชีวิตมาในศึกฟุตบอลโลกเมื่อ 4 ปีก่อน (โดน เยอรมนี ถล่มเละ 7-1)
ครั้งนี้พวกเขาเติบโตมากขึ้น เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น สภาวะจิตใจแข็งแกร่งมากขึ้น เรียกว่าพร้อมทุกกระบวนท่[าแล้วสำหรับการครองบัลลังก์แชมป์ปีนี้
โดยความยอดเยี่ยมทั้งหมดที่กล่าวถึงไปในย่อหน้าเมื่อกี้ ถูกแสดงออกมาผ่านการเล่นอันยอดเยี่ยมเนียนตา ทุกจังหวะจะโคนสอดประสานเข้าหากันได้อย่างลงตัว อาจมีพวกอายุน้อย ๆ บางคนที่ดูจะเค้นฟอร์มสุดยอดออกมายังไม่ได้อย่างเช่น กาเบรียล เฆซุส แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา
เพราะว่าทัพนักเตะบราซิลชุดนี้ มีผู้เล่นอายุน้อยกว่า 25 ปี เพียงแค่ 3 คนเท่านั้น ส่วน 2 คนที่อายุ 25 พอดีเป๊ะก็คือเทพอย่าง อลิสสัน และ เฟร็ด (แข้งใหม่ แมนฯ ยูไนเต็ด) อีกด้วย
เก๋ากลมกล่มขนาดนี้ ไม่ต้องสืบเลยว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน !
5. บราซิล แชมป์แน่นอน !!!
ข้อสุดท้ายของบทความเรานี้หลายคนเห็นแล้วอาจจะมองว่า โอ้โห พี่จะอวยกันอะไรขนาดนี้ แต่ขอบอกเลยว่าที่พูดนี้ไม่ได้เวอร์เกินจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะเรามักจะได้ยินเรื่องทำนองนี้มาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ กันแล้ว ซึ่งก็มีที่มาจากความแข็งแกร่งตามขีดจำกัดสายเลือดของเหล่าแข้งแซมบ้านี่แหละ
พวกเขาคือกลุ่มนักเตะที่มีทักษะลีลาการเล่นโดดเด่นเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจมากที่สุดในโลก
พวกเขาคือชาติที่ประสบความสำเร็จเป็นแชมป์รายการนี้มากกว่าใครในประวัติศาสตร์
เมื่อไหร่ก็ตามที่พูดถึงนักเตะบราซิล ทุกคนตระหนักรู้ขึ้นมาทันทีเลยว่า ฝีเท้าจะต้องร้ายกาจมากแค่ไหน และอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่ประกอบกันขึ้นมาจนกลายเป็นคำพูดสุดฮิตติดปากว่า “บารมีแชมป์” นั่นแหละ ดูได้จากแชมป์ 5 สมัย (ปี ค.ศ.1958, 1962, 1970, 1994, 2002) และหากครั้งนี้ได้ก็จะเป็นสมัยที่ 6 ทันที
ฉะนั้นหากจะบอกว่าพวกเขาคู่ควรกับตำแหน่งแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 มากที่สุดเพราะ “บราซิล ก็คือ บราซิล” คงถือว่าไม่ใช่เรื่องโอเวอร์หรือไร้เหตุผลเลยแม้แต่น้อย จริงไหมล่ะ ?