สำหรับวงการลูกหนังแล้ว การซื้อขายย้ายทีมนั้นเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้เล่นทุกคน (เรียกว่าคนไม่เคยย้ายทีมนั้นน้อยจนแทบนับนิ้วได้เลยดีกว่า)
และก็มีอยู่อีกมากมายที่เติบใหญ่ขึ้นมาจนกลายเป็นผู้เล่นระดับตำนานของสโมสรตัวเอง ก่อนจะย้ายออกไปค้าแข้งที่อื่นตามวิถีของอาชีพนักฟุตบอล
ซึ่งในจำนวนนั้นเราจะเห็นว่ามีบางคนที่ได้รับโอกาสกลับคืนสู่บ้านเดิมอันแสนอบอุ่นของตัวเอง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม แต่มันทำให้แฟน ๆ มีความสุขกันจนแทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แน่ กับการได้เห็นคนที่พวกเขารักสวมชุดแข่งของทีมอีกครั้ง ทั้งที่ไม่คิดว่าจะมีวันนีอีกแล้ว
และนี่ก็คื 5 ตำนานผู้หวนคืนสู่สโมสรรักของตัวเอง
1. เฟอร์นันโด ตอร์เรส
คอลูกหนังรุ่นหลัง ๆ อาจจะคุ้นเคยกับภาพของ ตอร์เรส ในชุดแข่งทีม ลิเวอร์พูล ที่เจ้าตัวระเบิดฟอร์มเทพอยู่นาน 3 ปีครึ่งจนกลายเป็นกองหน้าระดับโลก
เพราะถึงจะรู้ว่าน้องตอร์เคยอยู่กับ แอตเลติโก มาดริด มาก่อน แต่ก็ไม่ค่อยได้เห็นฟอร์มการเล่น หรือไม่เคยดูเลยก็มี ซึ่งก็จะทำให้ไม่สามารถรับรู้ได้ว่าดาวยิงแก้มแดงคนนี้ก็เคยเป็นถึงตำนานของทัพตราหมีมาแล้วเช่นกัน
จุดเริ่มต้นของความเป็นสัญลักษณ์สโมสรนั้นเริ่มตั้งแต่วันที่เขาก้าวขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ของ แอตฯ มาดริด แล้วแถมยังได้เป็นกัปตันตั้งแต่อายุ 19 ปี ซึ่งแฟนบอลภาคภูมิใจกันมาก
ที่สำคัญคือหลังจากเจ้าตัวย้ายไป เชลซี แล้วชีวิตก็ตกอับลากยาวนานหลายปี ฉะนั้นพอเขากลับไปที่ กัลเดรอน อีกครั้ง แฟน ๆ จึงประทับใจมากเป็นพิเศษ เพราะทุกคนต้องการปลอบประโลมอดีตตำนานคนนี้ว่า แม้จะบอบช้ำจากที่ไหนมาก็ตาม บ้านหลังนี้ยังคงมีความรักมอบให้เสมอ
2. เธียร์รี อองรี
สำหรับ อองรี กับ อาร์เซนอล แล้ว เขาคือชายผู้เป็นตำนานอันดับหนึ่งของประวัติศาสตร์ทีมอย่างแท้จริง เพราะตลอดระยะเวลา 8 ฤดูกาลแรกของเจ้าตัวนั้นพาทีมประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่มากมาย แถมยังเป็นคนสำคัญในทีมชุดไร้พ่ายอีกด้วย
จากนั้น สตาร์ชาวฝรั่งเศส ก็ตัดสินใจย้ายออกไปอยู่กับ บาร์เซโลนา ท่ามกลางความเศร้าเสียใจของแฟน ๆ เพราะไม่มีใครคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม หลังผ่านไปอีก 3 ซีซั่น อองรี พาตัวเองไปใช้ชีวิตบั้นปลายของเส้นทางค้าแข้งที่ เมเจอร์ลีก สหรัฐอเมริกา กับสโมสร นิวยอร์ก เรดบูล ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เจ้าตัวได้กลับมาสวมชุดแข่งของทีมปืนใหญ่อีกครั้งในฤดูกาล 2011-12 นั่นเอง ซึ่งถึงแม้จะเป็นเพียงแค่การยืมตัวมาช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ความซาบซึ้งจะตราตรึงอยู่ในใจของเด็กปืนไปอีกยาว
3. ดิดิเยร์ ดร็อกบา
ในปี 2004 ดิดิเยร์ ดร็อกบา ย้ายเข้ามาอยู่กับ เชลซี ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์ ตามคำเชิญชวนของ โฆเซ มูรินโญ ก่อนที่ทั้งคู่จะช่วยกันพาสโมสรก้าวขึ้นครองความยิ่งใหญ่ จนได้กลายเป็นทีมระดับท็อปติดลมบนมาจนถึงทุกวันนี้
ตลอดเส้นทางค้าแข้งของ ดร็อกบา ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ นั้นเจ้าตัวเล่น 341 นัด ยิงได้ 157 ประตูจากทุกรายการ แถมยังคว้าแชมป์ลีก เอฟเอคัพ ลีกคัพ ยูฟา แชมเปียนส์ลีก มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่รวมแล้ว 12 ใบโน่นเลย
และหลังจบฤดูกาล 2011-12 ดร็อกบา ก็ตัดสินใจย้ายออกไปอยู่กับ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ในลีกจีน ตามด้วย กาลาตาซาราย ที่ ตุรกี จนกระทั่งปี 2014 โฆเซ มูรินโญ ที่ได้กลับมาเป็นกุนซือสิงห์บลูในคำรบสอง ก็ตามเอา ดร็อกบา กองหน้าคู่ขวัญคนนี้กลับมาสวมชุดแข่งสีน้ำเงินคราม ทำงานร่วมกันอีกครั้งท่ามกลางความปิติยินดีของแฟน ๆ
4. ร็อบบี ฟาวเลอร์
ถ้าถามสาวกหงส์แดงที่เชียร์ทีมกันมาตั้งแต่ยุค 90 เชื่อเถอะว่าร้อยทั้งร้อยจะต้องรัก ศูนย์หน้าพลาสเตอร์ยา ร็อบบี ฟาวเลอร์ คนนี้กันสุดหัวใจแน่นอน
ด้วยความที่มีทักษะการทำประตูเฉียบคมสุด ๆ ชอบยิงประตูสวย ๆ ให้ เดอะ ค็อป ได้เฮกันตลอด โดยเฉพาะยามเจอคู่อริอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด และใจที่มีความรักต่อสโมสรและแฟนบอลมากที่สุดขนาดที่จนถึงตอนนี้ก็ยังหาใครมาเทียบได้ยาก (เจอร์ราร์ด กับ คาร์ราเกอร์ เกือบถึงแล้วแต่ยังดูขาดหน่อย ๆ) ทำให้ในวันที่เขาถูกขายออกไปให้กับ ลีดส์ ด้วยค่าตัวแค่ 13 ล้านปอนด์นั้น มีหลายคนถึงกับต้องเสียน้ำตา
อย่างไรก็ตาม ราฟาเอล เบนิเตซ กุนซือผู้พา ลิเวอร์พูล คว้าถ้วย ยูฟา แชมเปียนส์ลีกสมัยที่ 5 มาครอง ก็ทำให้ฝันของ เดอะ ค็อป ทั้งโลกเป็นจริงด้วยการเซ็นสัญญาดึงตัว ร็อบบี ฟาวเลอร์ กลับมาสวมชุดแข่งสีแดงเพลิงที่ แอนฟิลด์ อีกครั้ง และนั่นก็ทำให้มี เดอะ ค็อป มากมายกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เช่นกัน
5. พอล สโคลส์
สำหรับ สาวกปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มิดฟิลด์ตัวรุกผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของพวกเขาคงจะเป็นใครไปไม่ได้อีกแล้วนอกจากชายผู้มีเจ้าของฉายาเท่ ๆ ว่า “มัจจุราชผมแดงเพลิง” พอล สโคลส์ คนนี้นี่เอง
สโคลส์ ใช้เวลาทั้งชีวิตในฐานะนักฟุตบอลมอบให้กับสโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงเท่านั้น และด้วยฝีเท้าอันฉกาจฉกรรจ์แบบหาตัวจับยาก โดยเฉพาะในเรื่องของการวางบอลขึ้นหน้า และสอดขึ้นมาสร้างจังหวะอันตรายจากแถวสองนี่ เรียกได้ว่าเป็นเลิศติดอันดับท็อปของโลกเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม สโคลส์ ไม่ได้ย้ายทีมหนีแฟนผีแดงไปอยู่ไหน แต่ในปี 2011 เจ้าตัวได้ประกาศแขวนสตั๊ดไปแล้ว เพราะอายุอานามก็มากถึง 37 ปีเข้าไปแล้ว
แต่หลังจากพักไปได้แค่ปีเดียว เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ไปตามตัว เฮียลูกหยีศิษย์คนโปรดกลับมาสวมชุดแข่งของทีมลงเล่นอีกครั้ง ก่อนจะเลิกจริง ๆ ในอีกหนึ่งปีหลังจากนั้น แต่การกลับมาของ สโคลส์ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็สร้างผลกระทบในด้านบวกต่อทั้งกับแฟน ๆ และเพื่อนร่วมทีมสูงมากจริง ๆ