อีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ศึกฟุตบอลที่ทั้งโลกรอคอยอย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2018-19 ก็จะเปิดฉากความมันส์ขึ้นแล้ว
เชื่อว่าปีนี้คอลูกหนังส่วนใหญ่น่าจะกำลังตื่นเต้นกันอย่างถึงขีดสุด เพราะนี่คือช่วงเวลาที่เราตั้งความหวังให้กับทีมรักได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นจริงหรือเปล่า เพราะขณะที่เกมการแข่งขันยังไม่เริ่ม ทุกทีมถือว่ามีความหวังเท่ากันหมด เพราะนี่คือโลกแห่งฟุตบอลที่อะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ
อย่างไรก็ตาม เรามาดูกันดีกว่าว่าจากทั้งหมด 20 ทีมบนลีกสูงสุดของประเทศอังกฤษ 5 ทีมไหนที่ได้รับการยกย่องว่ามีโอกาสเป็นแชมป์มากที่สุด เมื่อวัดจากความแข็งแกร่ง และความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน
ส่วนจะตรงใจกันหรือไม่นั้น ก็คงพูดได้คำเดียวว่า “แล้วแต่ !”
เอ้า ถ้าพร้อมแล้วก็ตามไปอ่านกันได้เลย !!
5. ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ส ไม่พูดเวอร์ ปีนี้เธอเอาจริง !
เริ่มกันที่เต็ง 5 ในฤดูกาล 2018-19 นี้ก่อนเลย และก็ต้องบอกว่า ทีมไก่เดือยทองของกุนซือ โปเช็ตติโน นั้นเบียดคู่อริร่วมมหานครลอนดอนตลอดกาลอย่าง อาร์เซนอล ลงไปเป็นเต็ง 6 (ที่เราจะไม่พูดถึง) ได้แบบเฉียบฉิวแค่ปลายนิ้วก้อยเท่านั้น
เหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้ สเปอร์ส มีโอกาสลุ้นแชมป์มากกว่า ปืนใหญ่ ก็เป็นเพราะว่าฟอร์มโดยรวมในช่วงหลายปีหลังมานี้ พวกเขาโดดเด่นสุด ๆ จนคนดูต้องถึงกับเผลอร้องซี๊ดออกมาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
โปเช็ตติโน ปั้นทัพไก่เดือยทองให้ดูดีมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกฤดูกาล จนดูแนวโน้มแล้วมีแววประสบความสำเร็จสูงมาก แถมขุมกำลังก็แน่นมากกว่าเก่าตลอด นักเตะที่มีฟอร์มร้อนแรงค่อย ๆ เติบโตเป็นผู้เล่นระดับท็อปของโลกมากมายหลายคน
เอาจริง ๆ หากวัดขุมกำลัง, ฟอร์ม, กุนซือ แบบหมัดต่อหมัดกับทีมอื่น เผลอ ๆ อาจมีสิทธิ์มากกว่าแค่เต็ง 5 ด้วยซ้ำ แต่เพราะว่าพอเป็น สเปอร์ส ความเชื่อถือก็ต้องลดลงไปค่อนข้างเยอะทีเดียว
4. เชลซี ระวังให้ดี ปีนี้อาจมี “เซอร์ไพร์ส”
ถึงแม้ว่าทีม “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี จะมีผลงานที่ไม่ค่อยสู้ดีนักในซีซั่นก่อนจนกระเด็นหลุดออกจากกลุ่ม Top 4 ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ถ้าให้ไปถามคนทั้งโลกว่าซีซั่นนี้จะไปได้ไกลแค่ไหน ? รับรองว่าไม่มีใครกล้าตัดพวกเขาออกจากสารบบลุ้นแชมป์แน่
หลังจากที่ปลด อันโตนิโอ คอนเต้ ออกจากตำแหน่งไป เชลซี ก็ได้ เมาริซิโอ ซาร์รี เข้ามารับช่วงต่อทันที ซึ่งครั้งนี้เสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช น่าจะดีใจเป็นพิเศษ เพราะสไตล์การทำทีมคือเน้นบุกให้มันส์ไว้ก่อน แต่ก็จำเป็นต้องได้ 3 แต้มติดมือในทุก ๆ เกมด้วย
ด้วยความที่เพิ่งมีการเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่ ทำให้มีหลายอย่างต้องการเวลาแก้ไขปรับปรุง แต่ถึงกระนั้นก็ได้มิดฟิลด์ตัวรับขั้นเทพอย่าง จอร์จินโญ มาอยู่ด้วยแล้ว
และอย่าลืมว่าปีก่อนหน้าที่ คอนเต้ พาทีมคว้าแชมป์ พวกเขากระโดดกลับมาจากอันดับ 10 โน่นเลยนะ ฉะนั้นหากมันจะเกิดขึ้นได้อีกครั้งหลังเปลี่ยนกุนซือใหม่ ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรอีกแล้วล่ะ โดยเฉพาะหากสามารถรั้ง เอเดน อาซาร์ กับ วิลเลียน ให้อยู่ต่อได้สำเร็จ
3. แมนฯ ยูไนเต็ด ทีเด็ดคือความ “เขี้ยวลากดิน”
ฤดูกาลที่แล้ว โฆเซ มูรินโญ พาทีมจบอันดับสองได้อย่างน่าทึ่ง ทั้ง ๆ ที่ถูกวิจารณ์อย่างหนักในเรื่องของฟอร์มการเล่นว่าน่าเบื่อบ้างล่ะ ดูแล้วไม่มีวี่แววประสบความสำเร็จบ้างล่ะ แต่สุดท้ายก็ยังถือว่าเอาอยู่จนถึงวันสุดท้าย
ปีนี้สื่อและบ่อนหลายเจ้าในอังกฤษยกให้ทีมของจ่ามูเป็นเต็ง 3 ไปก่อน เพราะดูแล้วเหมือนจะยังเตรียมทีมกันไม่เสร็จดีนัก โดยเฉพาะกับการที่เพิ่งมีนักเตะใหม่เสริมทัพเพียงแค่ 2 คนคือ เฟร็ด กับ ดาล็อต แถมไม่รู้อีกด้วยว่า ปีใหม่นี้ จ่ามู จะใช้แท็คติกแบบไหนลงทำศึก
เพราะซีซั่นก่อนขนาดจอดรถบัสอุดแหลกจนถูกแซวไปทั่วยุทธภพยังโกยแต้มมาครองได้เป็นว่าเล่น เกมไหนจะแพ้ ๆ ก็พลิกกลับมาเสมอ หรือชนะได้บ่อยครั้ง
ด้วยความ “เขี้ยวลากดิน” ที่ว่า บวกกับขุมกำลังนักเตะระดับโลกมากมายหลายตำแหน่งทำให้ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีพลังพิเศษดึงดูดความสำเร็จเข้ามาหาอยู่เสมอ แถมยังมี มูรินโญ เป็นกุนซืออีกด้วย ยังไงก็ได้ลุ้นมากกว่าใครเขาเพื่อนอยู่ดี
2. ลิเวอร์พูล ดุกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าทีมที่ไม่เคยจะมีบารมีอะไรกับตำแหน่งแชมป์ลีกมานานมากกว่า 20 ปีนี้จะถูกยกให้เป็นเต็ง 2 ประจำฤดูกาล 2018-19 ไปแบบเอกฉันท์
ทั้งหมดทั้งปวงเป็นเพราะหลายฝ่ายเชื่อว่าพวกเขาจะรักษาฟอร์มการเล่นได้ต่อเนื่องจากฤดูกาลก่อน ที่มีสามประสานแนวรุก ซาลาห์, มาเน, เฟอร์มิโน ช่วยกันถล่มประตูคู่แข่งจนยับเยินแทบทุกสัปดาห์
แถมกุนซือ เจอร์เกน คล็อปป์ ยังตัดสินใจ “ใช้เงินแก้ปัญหา” ซื้อแข้งระดับท็อปค่าตัวแพงหูฉี่มาเสริมทัพรัว ๆ ทั้ง นาบี เกอิต้า, ฟาบินโญ, เซอร์ดาน ชากิรี รวมไปถึงตำแหน่งสำคัญอย่างผู้รักษาประตูที่ได้ อลิสสัน เบคเกอร์ ของโรมา มาด้วยค่าตัว 66.8 ล้านปอนด์ แพงเป็นสถิติโลกนายทวารเลยทีเดียว
เมื่อลองสอดส่องมองไปที่ขุมกำลังดั้งเดิมแล้ว ก็ต้องบอกว่าตอนนี้ หงส์แดง ดุดันมากอย่างแท้จริง ทั้งเรื่องการซื้อตัว ทั้งการทำทีมของ คล็อปป์ ไปจนถึงรูปแบบการเล่นในสนามที่อาจจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นมาประดับวงการลูกหนังเลยก็ได้เช่นกัน
1. แมนฯ ซิตี้ ศักดิ์ศรีแชมป์เก่า “จ้าวบัลลังก์”
หลังจากที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา พาทัพนักเตะเรือใบสีฟ้าคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ในฤดูกาลที่แล้ว ทีมของเขาก็ถูกยกย่องให้กลายเป็นเต็งหนึ่งแบบที่มีระดับความแข็งแกร่ง+ความเป็นไปได้ทิ้งห่างเต็ง 2 ไปแบบขาดลอย เรียกว่าทั้งสื่อทั้งบ่อนหลายเจ้าในอังกฤษแทบจะการันตีว่ายังไงก็ชนะเลิศต่อเนื่องอีกสมัยแน่ ๆ
ฟังทีแรกอาจดูเหมือนเวอร์ แต่หากมองลึกลงไปถึงรายละเอียดต่าง ๆ แล้วก็ต้องบอกว่าคำชื่นชมเหล่านั้นไม่ได้อยู่ห่างไกลความเป็นจริงเลยแม้แต่น้อย เพราะหากเป็นทีมของ เป๊ป ณ เวลานี้แล้วเขาสามารถทำให้เกิดขึ้นได้อีกจริง ๆ
เริ่มจากแท็คติกการเล่นเกมรุกอันสวยงามดุดัน โดยไม่สนว่าคู่แข่งจะแก้ทางมายังไง ขอแค่ฝ่ายตัวเองดาหน้าบุกเอาประตูมาให้ได้ เดี๋ยวก็มีสามแต้มติดมือหลังจบเกมเอง ซึ่งกุนซือชาวสเปน ประสบความสำเร็จบนแนวทางนี้มาแล้วทั้งใน ลาลีกา สเปน, บุนเดสลีกา เยอรมนี รวมถึง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ขุมกำลังต่าง ๆ ก็เรียกว่าเพียบพร้อม นักเตะทุกคนอยู่ในช่วงที่ฟอร์มการเล่นดูดีต่อเนื่อง ไล่ไปตั้งแต่นายทวาร เอแดร์สัน ปราการหลังอย่าง กอมปานี, โอตาเมนดี, วอล์คเกอร์, โรส
ขึ้นมาถึงแผงมิดฟิลด์ แฟร์นานดินโญ, ดาบิด ซิลบา, เควิน เดอ บรอยน์ แถมยังมีตัวเทพอย่าง ริยาด มาห์เรซ เข้ามาเพิ่มอีกหนึ่ง
บรรดากองหน้าถึงแม้ ราฮีม สเตอร์ลิง กับ กาเบรียล เฆซุส จะไม่โดดเด่นในบอลโลก แต่พอเล่นให้ แมนฯ ซิตี้ กลับระเบิดฟอร์มเทพออกมาได้ทุกที พร้อม กุน อเกวโร ผู้คอยทำหน้าที่หลักในการล่าตาข่ายอยู่อีกหนึ่ง
นี่เรายังไม่พูดถึงตัวสำรองที่สามารถทดแทนการขาดหายไปของเหล่าตัวจริงได้แบบแทบไร้รอยต่อ ซึ่งพอไล่ดูคุณภาพจนครบทุกส่วนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า นี่แหละเต็งหนึ่งของจริงไม่ต้องอ้างอิงเรื่องไหนเลยแม้แต่นิเดียว