อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันเปิดตลาดซื้อขายหน้าหนาวเดือนมกราคมอย่างเป็นทางการแล้ว เชื่อว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เพื่อน ๆ ทุกคนรอคอยอยู่เช่นกัน เพราะเราจะได้เห็นกันแล้วว่าทีมรักมีใครเข้ามาเสริมทีมใหม่ ๆ บ้าง
อย่างไรก็ตาม หากมองกันตามสถิติแล้ว ตลาดซื้อขายหน้าหนาวเป็นอะไรที่ไม่ค่อยจะหวือหวาสักเท่าไหร่นัก เพราะแต่ละสโมสรก็ไม่อยากเสียผู้เล่นสำคัญ ๆ ของตัวเองออกไปให้กับทีมอื่นกลางคันด้วยเช่นกัน
และที่เราจะนำมาเสนอให้กับคุณผู้อ่านในวันนี้ก็คือ 5 สุดยอดแข้งทองที่ย้ายทีมตอนตลาดหน้าหนาว แล้วมีผลงานเปรี้ยงปังมากที่สุดบนโลกนี้
5. เนมานยา มาติช
ย้ายจาก เบนฟิก้า มาอยู่ เชลซี เมื่อปี 2014
สำหรับ มาติช นั้นเป็นนักเตะที่ เชลซี ได้ตัดสินใจขายออกไปอยู่กับ เบนฟิก้า ในลีกโปรตุเกสเองเมื่อปี 2011 และหลังจากที่เจ้าตัว เลเวลอัพ จนเห็นแววแข้งตัวท็อปซ่อนอยู่ โฆเซ มูรินโญ จึงดึงกลับมาอยู่ด้วยในเดือนมกราคมปี 2014
และหลังจากที่ เดอะ สเปเชียลวัน มอบความไว้วางในให้เป็นผู้คอยทำลายเกมรับศัตรู มาติช ก็ไม่เคยเสียตำแหน่งของตัวเองไปเลย พร้อมกับได้รับฉายา “เดอะ มอนสเตอร์” มาครองแบบเท่ ๆ อีกด้วย
โดยทางสตาร์ชาวเซอร์เบีย คนนี้ ใช้เวลาราว 3 ปีครึ่งกับ เชลซี คว้าแชมป์ลีกมากได้ 2 สมัย พร้อมกับ เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ อีกอย่างละ 1 สัยเช่นกัน
4. ฟิลิปเป้ คูตินโญ
ย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน มาอยู่ ลิเวอร์พูล (2013)
ด้วยความที่ คูตินโญ นั้นเป็นดาวรุ่งผู้ถูกดองอยู่บนเก้าอี้สำรองของทีม งูใหญ่ อินเตอร์ มิลาน จนกระทั่ง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ส่งแมวมองไปซุ่มเช็คค่าพลังแฝง ซึ่งพอเห็นว่าสูงมากพอ ก็จัดการซื้อมาอยู่ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 8.5 ล้านปอนด์
แต่แล้วฟอร์มการเล่นของ คูตี้ นั้นดูดีตั้งแต่แมตช์แรก และทำให้แฟน ๆ ต้องถึงกับนั่งเชียร์กันไม่ติดเก้าอี้ ด้วยลีลาการเล่นแบบแซมบ้า รวมถึงการจ่ายทะลุช่องในแบบที่ ลิเวอร์พูล ไม่เคยมีมานานหลายปี
จนถึงตอนนี้เขากลายเป็นหนึ่งนักเตะขวัญใจแฟนบอลที่มีมูลค่าสูงทะลุหลัก 100 ล้านปอนด์ไปเรียบร้อยแล้ว ถือว่าเกินฝันจริง ๆ สำหรับเจ้าพ่อมดน้อยคนนี้
3. เนมานยา วิดิช
ย้ายจาก สปาร์ตัก มอสโกว มา แมนฯ ยูไนเต็ด ปี 2006
ปราการหลังชาว เซอร์เบีย คนนี้ ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนหน้าหนาวปี 2006 ด้วยค่าตัวเพียงแค่ 7 ล้านปอนด์เท่านั้น ก่อนจะยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นขวัญใจแฟนบอลได้สำเร็จ พร้อมคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยม PFA ได้ในฤดูกาลถัดไปอย่างไม่มีใครอยากเชื่อ
นอกจากนี้ การจับคู่ของ วิดิช และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ นั้นถือเป็นหนึ่งคู่หูเซ็นเตอร์แบ็คระดับตำนานของประวัติศาสตร์ทีมปีศาจแดงอีกด้วย เพราะพาทีมคว้าถ้วยแชมป์รายการหลักได้มากถึง 10 ใบ
แถม วิดิช ยังได้เป็นเจ้าของปลอกแขนกัปตันทีมในฐานะ แข้งนอก UK คนที่สองต่อจาก เอริค คันโตนา อีกต่างหาก สมแล้วที่เด็กผีจะรักชายคนนี้กันเป็นพิเศษ
2. มาร์เซโล
ย้ายจาก ฟลูมิเนนเซ มาอยู่ เรอัล มาดริด ปี 2007
สำหรับชาวยุโรป นั้นการย้ายทีมมาในช่วงตลาดรอบสองอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ แต่กับนักเตะที่มาจากลีก บราซิล แล้วถือเป็นเรื่องสุดธรรมดา เพราะมันเป็นช่วงปิดฤดูกาลของลีกพวกเขาพอดี
และ มาร์เซโล เองก็ย้ายจาก ฟลูมิเนนเซ มาแบบที่ว่า ก่อนจะก้าวขึ้นมาเป็นแบ็คซ้ายตัวหลักให้กับทีมราชันย์ชุดขาวได้ในเวลาไม่นาน เรียกว่าเป็นการสืบทอดตำแหน่งโดยตรงจาก โรแบร์โต คาร์ลอส กันเลย
นับตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ก็เข้าสู่ช่วงฤดูกาลที่ 12 ของ มาร์เซโล กับ เรอัล มาดริด แล้ว ถึงแม้จะมีบางครั้งที่ถูกวิจารณ์ว่าไม่เก่งพอจะเล่นในถิ่น เบอร์นาบิว แต่เจ้าตัวก็พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่า ถ้าไม่ใช่ผมแล้วจะเป็นใครได้อีก !!
1. หลุยส์ ซัวเรซ
ย้ายจาก อาแจ็กซ์ มาอยู่ ลิเวอร์พูล ปี 2011
ในช่วงฤดูหนาวปี 2011 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล อยู่ในช่วงที่กำลังวุ่นวายสุด ๆ เพราะพวกเขาเพิ่งเปลี่ยนผู้จัดการทีมจาก รอย ฮอดจ์สัน มาเป็น เคนนี ดัลกลิช และตำนานของสโมสรคนนี้ก็ไปดึง แอนดี้ แคร์โรล กับ หลุยส์ ซัวเรซ เข้ามา ก่อนจะถูก เชลซี ฉกเอา เฟอร์นันโด ตอร์เรส ไปแบบไม่มีใครคาดคิด
อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ เหมือนกับเป็นโชคชะตาที่หมุนให้ทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับวางแผนเอาไว้แล้ว เพราะหลังจากนั้น ซัวเรซ ก็ก้าวขึ้นมาเป็นกองหน้าขวัญใจแฟนบอลที่ยิงประตูถล่มทลาย จนเกือบจะพาทีมคว้าแชมป์ได้ในอีก 2 ปีถัดมา
และถึงแม้เขาจะมีช่วงเวลาค้าแข้งอยู่กับ ลิเวอร์พูล เพียงแค่ 3 ปีครึ่ง แต่ผลงานทั้งหมดที่ฝากเอาไว้ให้ รวมถึงความรัก ความศรัทธาที่มีต่อสโมสรและแฟนบอล ทำให้ถูกยกย่องเป็นหนึ่งตำนานของ แอนฟิลด์ ไปโดยปริยาย