โฆเซ มูรินโญ กุนซือคนปัจจุบันของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือเป็นอีกหนึ่งผู้จัดการทีมที่สร้างสีสันให้กับวงการลูกหนังได้มากที่สุดตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้
เพราะนับตั้งแต่ที่เจ้าตัวพา เอฟซี ปอร์โต คว้าถ้วย ยูฟา แชมเปียนส์ลีก มาครองได้อย่างน่าเหลือเชื่อ ก็ถือเป็นช่วงเวลาขาขึ้นสุด ๆ จนพา เชลซี ก้าวขึ้นเป็นทีมแกร่งสุดของพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อยู่พักใหญ่ ก่อนจะไปผจญภัยกับทั้ง อินเตอร์ มิลาน และ เรอัล มาดริด ซึ่งก็ประสบความสำเร็จทั้งหมด แม้จะโดนปลดก็ตามที
ส่วนอีกหนึ่งความโดดเด่นของเจ้าตัวที่ไม่มีใครเหมือนเลยก็คือ ความปากร้าย ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่าไม่ควรไปต่อล้อต่อเถียงด้วย เพราะจะเป็นฝ่ายโดนกัดจนแผลเหวอะเองทุกรายไป
และวันนี้เราได้หยิบเอา 5 วาทะกรรมของ กุนซือชาวโปรตุเกส คนนี้ที่เคยใช้อ้างหรือกล่าวโทษสิ่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ตัวเอง หลังจากเกิดความผิดพลาดอะไรบางอย่างขึ้น จะเป็นอย่างไร ต้องไปชม
1. โทษแฟนบอล
สมัยที่ จ่ามู คุมทีม เรอัล มาดริด อยู่นั้น วันที่ทีมต้องบุกไปเยือน ราโย บาเยกาโน ถึงถิ่นมีแฟน ๆ ราชันย์ชุดขาวตามมาเชียร์ในสนามเพียงแค่ 300 คนเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวก็กล่าวคำขอบคุณแบบประชดออกไปจนถูกวิจารณ์ตามหลังพอสมควร
จากนั้นในเกมที่เสมอกับ ดอร์ทมุนด์ ด้วยสกอร์ 2-2 ในปี 2012 ก็ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อแบบโทษแฟนบอลอีกว่า “ถ้าคุณอยู่ที่นี่นาน 2 ปีครึ่ง ก็จะต้องเจอบรรยากาศที่เย็นชาจากแฟนบอลแบบที่ผมโดนเหมือนกัน”
และอีกครั้งหนึ่งคือตอนคุม เชลซี เฉือนชนะ คิวพีอาร์ แบบหืดจับด้วยสกอร์ 2-1 ก็กล่าวว่าที่ลูกทีมเล่นไม่ดีเพราะแฟนบอลไม่ยอมส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ จนตัวเองนึกว่าไม่มีคนเข้ามาดูในสนามแล้วเสียอีก
2. โทษไฟสนาม
ต่อเนื่องกันกับข้อก่อนหน้า ในเกมที่ชนะ คิวพีอาร์ 2-1 นั่นเลย ด้วยความที่ เชลซี เล่นได้ไม่ดีในช่วงต้นเกม และไม่มีโอกาสเข้าทำจะแจ้งเท่าไหร่นัก จนกุนซือมาดเครียดเริ่มที่จะหงุดหงิด เขาจึงเก็บเอาเรื่องนี้มาระบายต่อสื่อภายหลังว่า
“ผมไม่รู้นะว่าเจ้าหน้าที่คนที่รับผิดชอบเรื่องไฟสนามนั้นยุ่งอะไรอยู่ แต่เขาคงจะอยู่ในอารมณ์เดียวกันกับแฟน ๆ บนอัฒจรรย์นั่นแหละ ยังไงน่ะเหรอ ? ก็นั่งหลับระหว่างที่ดูทีมตัวเองเล่นยังไงล่ะ”
และที่ว่ามานี่คือเป็นเกมใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ บ้านตัวเองด้วยนะเอากับเฮียเขาสิ !
3. หมออีวา คาร์เนโร
เรื่องราวที่อื้อฉาวใหญ่โตสุด ๆ ของ โฆเซ มูรินโญ บนเส้นทางการทำงานกุนซือ นั้นก็น่าจะเป็นการมีเรื่องมีราวกับ อีวา คาร์เนโร คุณหมอสุดสวยประจำทีมนั่นเอง
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวมีต้นเรื่องคือ หมออีวา พยายามรักษาอาการบาดเจ็บของ เอเดน อาซาร์ ในสนาม เกมเสมอกับ สวอนซี 2-2 จนทำให้เสียเวลาไปหลายนาที ซึ่ง จ่ามู ไม่รู้อารมณ์เสียมาจากไหน ตำหนิว่า ถ้าหมอไม่ไปจุ้นในสนาม คงใช้เวลาที่หายไปนั้นยิงประตูชัยมาได้แล้ว
ซึ่งภายหลัง หมออีวา ก็โดนไล่ออกจาก เชลซี ไปจนเป็นที่มาของคดีความใหญ่โตภายหลังนั่นเอง
4. ก็ลมมันแรง
ช็อตนี้เพิ่งจะเกิดขึ้นไปหมาด ๆ เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมสุดแกร่ง ณ เวลานั้น ต้องพลาดท่าพ่ายให้กับน้องใหม่อย่าง ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ ไปอย่างน่าเหลือเชื่อด้วยสกอร์ 2-1
และหลังเกมอันน่าผิดหวัง โฆเซ มูรินโญ ก็ไม่ได้โทษลูกทีม ไม่ได้โทษแผนการเล่น ไม่ได้โทษคู่แข่ง ไม่ได้โทษผู้ตัดสินเลยแม้แต่น้อย พร้อมยอมรับความพ่ายแพ้อย่างเต็มใจ
แต่แล้วไม่ทราบว่ามันอดไม่ได้หรืออะไร เขาจึงหลุดพูดออกมาว่า
“ในช่วงครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มเล่นดีขึ้นแล้วนะ แต่ปัญหาใหญ่ก็คือเราต้องเล่นโต้กับลมที่แรงสุด ๆ มันน่าผิดหวังนิดหน่อย เพราะผมคิดว่าเราควรได้แต้ม แต่สุดท้ายเล่นได้แค่นี้ ก็ต้องแพ้ไปตามเนื้อผ้านั่นแหละเหมาะสม”
5. โทษผู้ตัดสิน
เรื่องการให้สัมภาษณ์กล่าวโทษผู้ตัดสินหลังเกมที่ผลการแข่งไม่เป็นใจนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้จัดการทีมทุกคน ซึ่งเรามักจะเห็นเป็นปกติอยู่แล้วหากมีใบแดงหรือจุดโทษเกิดขึ้นแบบไม่น่าได้
แต่สำหรับ เดอะ สเปเชียล วัน นั้นต้องบอกว่าเป็นกรณีพิเศษ เพราะมีบ่อยเหลือเกินที่เขาออกมาวิจารณ์การทำงานของเชิ้ตดำในวันที่ผิดหวัง ซึ่งก็เห็นกันตลอดตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเลยทีเดียว
“เกมนี้เป็นแมตช์สำคัญของ ไมเคิล โอลิเวอร์ นะ แต่น่าเสียดายที่เขาทำลายมันเองด้วยการตัดสินพลาดในจุดสำคัญ ๆ หลายครั้ง” มูรินโญ ให้สัมภาษณ์หลังแมตช์แพ้ แมนฯ ซิตี้ 2-1 เมื่อวันอาทิตย์
“อย่างตอน เอร์เรรา ล้มเนี่ยคือโดนทำฟาวล์ชัดเจน แต่ก็ปล่อยผ่านไปเฉย ปีก่อน มาร์ค แคลตเทนเบิร์ก ก็ทำกับเราแบบนี้ ตอน บราโว ฟาวล์ รูนีย์ แต่ก็นะ เชิ้ตดำก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งก็พลาดกันได้”
“แต่น่าเสียดายที่เกมดี ๆ ต้องมาพังเพราะน้ำมือของคน ๆ เดียว แย่หน่อยนะ โอลิเวอร์ นายทำพลาดแล้ว”
;