ความไม่แน่นอนนั้นถือว่าเป็นสิ่งปกติสามัญของโลกใบนี้ เพราะมันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกสถานการณ์ กับคนทุกผู้ทุกนาม ไม่เว้นแม้แต่นักกีฬาฟุตบอลชื่อดังที่มีชื่อเสียงก้องโลก
เพราะพวกเขาเหล่านี้คือนักเตะดังที่ใคร ๆ ต่างก็ยกย่องในฝีเท้าว่าคือระดับท็อปของโลก ณ เวลานั้น จึงถูกซื้อไปอยู่กับต้นสังกัดใหม่ด้วยค่าตัวที่ไม่สูงจนสามารถเรียกได้เต็มปากว่า “บิ๊กดีล” แต่สุดท้ายแล้วกลับไม่สามารถทำผลงานได้ตามที่ถูกคาดหวังไว้จนล้มเหลวไปอย่างไม่มีใครอยากเชื่อ
และ 5 คนที่กำลังจะได้เห็นต่อไปนี้ คือ “แข้งดังที่ย้ายทีมแบบสะเทือนวงการ แต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า” ซะอย่างนั้น
1. โรบินโญ – แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ในอดีต โรบินโญ นั้นเคยถูกยกย่องว่าเป็นกองหน้าชาวบราซิลที่มีโอกาสก้าวขึ้นไปเป็นตำนานของโลกได้อย่าง โรนัลโด้ หรือ โรนัลดินโญ แต่น่าเสียดายที่การตัดสินใจย้ายทีมพาตัวเองมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นั้นถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้กราฟชีวิตของเขาบนเส้นทางลูกหนังต้องถดถอยลง
แมนฯ ซิตี้ ซื้อ โรบินโญ มาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 32 ล้านปอนด์ตอนปี 2008 และตลอด 2 ฤดูกาลภายใต้ชุดแข่งสีฟ้าอ่อนนั้นเขาได้ลงเล่นทั้งหมด 53 เกม ยิงได้ 16 ประตู พร้อมฟอร์มที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย แต่ระยะหลัง ๆ นั้นจัดว่าออกไปทางแย่
จากนั้นอดีตแข้งเทพคนนี้ก็ได้ย้ายไปอยู่ เอซี มิลาน, ทีมเก่าอย่าง ซานโต๊ส, กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ และ แอตเลติโก มิเนย์โร ในปัจจุบัน แต่ไม่มีที่ไหนที่เขาจะทำผลงานได้โดดเด่นอีกเลย หรือง่าย ๆ ก็คือดับสนิทนั่นเอง
2. โจนาธาน วู้ดเกต – เรอัล มาดริด
อดีตปราการหลังมาดเท่คนนี้ แจ้งเกิดขึ้นมาบนวงการลูกหนังได้อย่างสวยหรูกับทีมสุดร้อนแรงอย่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด ตั้งแต่ช่วงปี 1998 จนกระทั่งย้ายไปเล่นให้ นิวคาสเซิล ในปี 2003 แต่นั่นไม่ใช่การตัดสินใจที่ผิดพลาด เพราะเขาก้าวขึ้นไปเป็นขวัญใจแฟนบอลสาลิกาดงได้อย่างรวดเร็ว แม้จะได้รับบาดเจ็บยาวบ่อยครั้งก็ตาม
แต่หลังจากที่ เรอัล มาดริด มาดึง วู้ดเกต ไปอยู่ที่ เบอร์นาบิว แบบเซอร์ไพร์สคนทั้งโลกเพราะไม่หายเดี้ยงนั่นแหละ คือจุดเปลี่ยนสำคัญของเขา ไม่ว่าจะเป็นการโดนใบแดงตั้งแต่เกมแรก (แม้จะยิงได้) รวมถึงฟอร์มที่แย่สุด ๆ แถมไม่เคยฟิตสมบูรณ์เลยแม้แต่วันเดียว
ตลอด 2 ฤดูกาลที่ สเปน อดีตแข้งเทพยูงทองได้ลงสนามเพียง 14 นัดเท่านั้น จนต้องกลับมาอังกฤษแบบสะบักสะบอม และไม่เคยก้าวขึ้นเป็นตัวท็อปได้อีกเลย
3. อัลแบร์โต อควิลานี – ลิเวอร์พูล
เชื่อเถอะว่าวันที่ ราฟาเอล เบนิเตซ ชูเสื้อ ชูผ้าพันคอร่วมกับ อควิลานี หลังซื้อจาก โรมา ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ตอนปี 2009 เด็กหงส์เกือบทั้งโลกนั้นโห่ร้องกึกก้องด้วยความดีใจสุด ๆ กันแน่ เพราะมิดฟิลด์ตัวรุกหน้าหล่อมากคนนี้ถือเป็นหนึ่งแข้งเทพที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงใหล่เคียงข้าง ฟรานเชสโก ต็อตติ ที่อิตาลี มาอย่างยาวนาน
แต่แล้วโชคชะตาก็เล่นตลกเมื่อ อควิลานี ต้องประสบกับปัญหาอาการบาดเจ็บบ่อยมากถึงมากที่สุด จนมีโอกาสได้ลงเล่นนิด ๆ หน่อย ๆ รวมตัวจริงตัวสำรองไป 18 นัด และยิงได้แค่ 1 ลูกเท่านั้น
จนสุดท้าย เมื่อใช้งานไม่ได้ สภาพร่างกายก็พังตลอดเวลา ทีมจึงต้องยอมปล่อยให้ ยูเวนตุส ยืมใช้งานต่อ ก่อนย้ายไปอยู่กับ เอซี มิลาน แบบถาวรในท้ายที่สุด
4. อังเคล ดิ มาเรีย – แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สำหรับซูเปอร์สตาร์ชาว อาร์เจนตินา คนนี้ เขาถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในแข้งระดับโลก มาจากการระเบิดฟอร์มแจ่มต่อเนื่องให้ เรอัล มาดริด มานานหลายปี จนกระทั่ง หลุยส์ ฟาน กัล ทุ่มเงินสูงถึง 59.7 ล้านปอนด์จนเป็นสถิติของพรีเมียร์ลีก ณ เวลานั้น เพื่อเอามาร่วมงานด้วยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด
ตอนนั้นคอบอลทั้งโลกต่างรู้สึกว่านี่คือดีลที่มีความน่าเกรงขามมากที่สุดของทัพปีศาจแดงในรอบหลายปี โดยเฉพาะเด็กผีนั้นแอบคิดกันไปไกลเลยด้วยซ้ำว่า ดิ มาเรีย นี่แหละจะพาทีมกลับไปเป็นแชมป์ลีกได้อีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย
แต่หลังจากที่ออกสตาร์ทได้สวยหรูเพียงไม่กี่นัด เจ้าด็อบบี้ ก็ได้รับบาดเจ็บจนอดลงเล่นไปพักใหญ่ พอกลับมาเท่านั้นแหละ รู้เรื่อง !! ฟอร์มดิ่งลงเหว มีปัญหากับผู้จัดการทีม จนไม่สามารถอยู่ได้อีกต่อไป
และในซีซั่นถัดมา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ก็มาซื้อต่อ ซึ่ง ดิ มาเรีย ไประเบิดฟอร์มเทพในลีกเอิงได้อย่างน่าสะพรึงกล้วอีกครั้ง…อ้าว !!
5. อังเดร เชฟเชนโก้ – เชลซี
เอซี มิลาน ในยุคสมัยที่ครอบครองความยิ่งใหญ่ในวงการลูกหนังไปทั่วโลก ทั้งผืนแผ่นดินยุโรปต้องครั่นคร้ามไปกับความแข็งแกร่งของพวกเขา คนที่จะมาเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าให้ทีมระดับนี้ได้ ต้องถือว่าไม่ธรรมดา และชายคนนั้นก็คือ “อังเดร เชฟเชนโก้” คนนี้นี่เอง
และความเก่งกาจของ เชว่า ก็ไปเข้าตา “เสี่ยหมี” โรมัน อับราโมวิช เจ้าของทีม เชลซี ที่ชอบทุ่มเงินสูง ๆ เพื่อดึงนักเตะดังมาอยู่ในทีม ก็จัดให้แฟน ๆ ได้เฮกันลั่นในปี 2006 ด้วยค่าตัวสูงถึง 30 ล้านปอนด์
แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ จากคนที่เคยคมกริบจนเคยเป็นเจ้าของบัลลงดอร์อย่าง เชฟเชนโก้ กลับทื่อไปซะเฉย ๆ กับต้นสังกัดใหม่ เพราะจากตลอด 47 นัดที่ได้ลงเล่นเขาทำไปได้เพียงแค่ 9 ประตูเท่านั้น แถมยังพลาดโอกาสทองมากมายจนไม่มีใครอยากเชื่ออีกด้วย