มาถึงนัดชี้ชะตาซะแล้วสำหรับรอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดที่ 2 ของเวที ยูโรป้า ลีก ระหว่างสองยักษ์หลับเมืองผู้ดีอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล ศึก แดงเดือด ในบอลยุโรปถ้วยเล็ก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด – ลิเวอร์พูล
วันพฤหัสบดีที่ 17 มีนาคม 2559 เวลา 3.05 น.
ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ 2
(นัดแรก ลิเวอร์พูล 2-0 แมนฯ ยูฯ)

นัดแรกเป็นทีมสัตว์ปีกอย่าง หงส์แดง ที่เปิดรัง แอนฟิลด์ เอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่าง ปีศาจแดง ของอาจารย์ หลุยส์ ฟาน กัล ไปได้ 2-0 โดยที่ ปีศาจแดง แทบจะเรียกได้ว่าสู้ไม่ได้เลยทีเดียว โดยนัดนี้หากลูกทีมของอาจารย์หลุยส์จอมจดหวังจะเข้ารอบละก็ต้องยิงอย่างน้อย 2 ลูกเพื่อต่อเวลาและไม่เสียประตูในรูปแบบอเวย์โกลอีกด้วย

สถิติที่เคยพบกัน 5 นัดหลังสุด
ลิเวอร์พูล 2-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก)
ลิเวอร์พูล 0-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ลิเวอร์พูล 1-2 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-0 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

สถิติ 5 นัดหลังสุดของแมนฯ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เวสแฮม ยูไนเต็ด
ลิเวอร์พูล 2-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 1-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 วัตฟอร์ด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-2 อาร์เซนอล

สถิติ 5 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล 2-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คริสตัล พาเลซ 1-2 ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล 3-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ลิเวอร์พูล 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ลิเวอร์พูล 1-0 เอาส์บวร์ก

ความพร้อมของทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : หลุยส์ ฟาลกัล ตัวเจ็บของทีมก็มีแต่หน้าเดิม ๆ อาทิ เวย์น รูนี่ย์, ลุค ชอว์ ส่วนอันโตนิโอ วาเลนเซีย และ แอชลี่ย์ ยัง สามารถกลับมาลงซ้อมได้บ้างแล้วแต่ยังไม่พร้อมสำหรับทีมชุดใหญ่ ส่วน บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ พร้อมจะกลับมาลงสนามเป็นตัวจริงให้กับทีมได้แล้ว ดาบิด เด เคอา จะลงเฝ้าเสาพร้อมช่วยชีวิตเพื่อน ๆ อีกทั้งสิบคน โดยมี คริส สมอลลิ่ง ยืนเป็นปราการหลังตัวกลางคู่กับ เดลี่ย์ บลินด์ ส่วนแบ็คขวา กิเยร์โม บาเรล่า ยังคงได้รับโอกาสก่อน มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน บาสตี้ ชไวน์สไตเกอร์ จะเป็นกองกลางร่วมกับ มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน โดยมี มารูยาน เฟลไลนี่ รับบทกลางรุกเพื่อจะใช้แผนโยนบอมเข้าไป ด้านซ้ายจะเป็น ฆวน มาต้า อีกฝั่งจะเป็น เจสซี่ ลินการ์ด ส่วนหน้าเป้าจะได้แก่ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ส่วนเจ้าหนู มาร์คัส แรชฟอร์ด จะถูกดร็อปเป็นตัวสำรองในนัดนี้

ลิเวอร์พูล : เจอร์เก้น คล็อปป์ นายหัวเมืองเบียร์จะยังไม่สามารถใช้งาน มาร์ติน สเคอร์เทล รวมไปถึง โจ อัลเลน ในนัดนี้ได้ เดยัน ลอฟเรน และ มามาดู ซาโก้ จะรับบทบาทเป็นพาร์ทเนอร์คู่กันในตำแหน่งกองหลังตัวกลาง ส่วนแบ็คซ้ายเจ้าหมูน้อยอย่าง อัลแบร์โต้ โมเรโน่ จะยังคงได้ลงสนามเป็นตัวจริงต่อไป จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เอ็มเร่ ชาน จะเป็นคู่มิดฟิลด์ตัวกลางให้กับทีม ส่วนกลางรุกจะเป็นโอกาสของ โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ อดัม ลัลลาน่า ส่วน เจมส์ มิลเนอร์ น่าจะมีชื่อเป็นแค่ตัวสำรองเพราะน่าจะยังไม่ฟิตเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ขณะที่กองหน้าตัวเป้าจะเป็นใครอื่นไม่ได้เลยนอกจากดาวยิงจอมเซิ้งชาวอังกฤษอย่าง แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์

ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : ดา บิด เด เคอา – กิเยร์โม บาเรล่า, คริส สมอลลิ่ง, ดาลี่ย์ บลินด์, มาร์กอส โรโฮ – มอร์แกน ชไนเดอร์ลิน, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ – เจสซี่ ลินการ์ด, ฆวน มาต้า, มารูยาน เฟลไลนี่ – อองโตนี่ มาร์กซิยาล

ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ – นาธาเนียล ไคลน์, เดยัน ลอฟเรน, มามาดู ซาโก้, อัลแบร์โต้ โมเรโน่ – เอ็มเร่ ชาน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, อดัม ลัลลาน่า – ดาเนียล สเตอร์ริดจ์

ทรรศนะ
มันก็ชัดเจนล่ะว่านัดนี้ หงส์แดง คงไม่เน้นเปิดเกมบุกเข้าใส่มากแน่นอนเพราะนัดที่แล้วตุนสกอร์ไว้อย่างสบายแฮร์ 2-0 แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อยู่ที่ปรัชญาที่ลุงอ้วนชาวฮอลแลนด์วางไว้ให้กับลูกทีม ปีศาจแดง ด้วยว่าจะกล้าได้กล้าเสียมากมายขนาดไหนเพราะด้วยตัวผู้เล่นไม่ได้ด้อยไปกว่าเลยแถมได้เล่นในบ้านอีก ถ้ายังคิดมากอยู่ดีไม่ดีอาจถึงแพ้ด้วยซ้ำเพราะหงส์แดงยุคคล็อปป์เป็นทีมที่เน้นเกมเพรสซิ่งและตัวรุก 3-4 คนในแดนหน้าความสามารถเฉพาะตัวสูง ๆ กันด้วยกันทั้งนั้นอีกด้วย

โอกาสชนะ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โอกาสชนะ 30%
โอกาส เสมอ 45%
ลิเวอร์พูล โอกาสชนะ 25%

ราคาแฮนดิแคป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ราคาเสมอ 1.88 (แทง 100 ได้ 188 บาท)
ลิเวอร์พูล ราคาเสมอ 2.04 (แทง 100 ได้ 204 บาท)

ดูราคาคู่ แมนฯ ยูฯ vs ลิเวอร์พูล แบบเต็ม คลิกที่นี่!