เดินทางมาถึงบทสรุปกันแล้วสำหรับ ฟุตบอล ถ้วยคุณหนูอย่าง แคปิตอล วัน คัพ ซึ่งจะเป็นการโคจรมาพบกันระหว่างทีมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล และนัดนี้จะเป็นนัดแรกที่ทั้งสองสโมสรจะได้ลงมาฟาดแข้งกันในนัดชิงชนะเลิศอีกด้วยเพราะตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมาทั้งหงส์แดงและเรือใบสีฟ้าไม่เคยเจอกันในรอบชิงรายการใด ๆ เลยทั้งสิ้น

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – ลิเวอร์พูล
วันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 23.30 น.
แคปิตอล วัน คัพ นัดชิงชนะเลิศ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นแชมป์ถ้วยใบนี้หนล่าสุดเมื่อปี 2014 และเคยคว้าถ้วยใบนี้ไปครองแล้ว 3 สมัยจากการเข้าชิงทั้งหมด 4 ครั้ง หากพวกเขาสามารถเก็บชัยชนะได้ในสัดนี้จะทำให้อย่างน้อยฤดูกาลสุดท้ายของ มานูเอล เปเญกรินี่ ก็จะไม่คว้าน้ำเหลว ส่วนทางด้าน ลิเวอร์พูล เจ้าของแชมป์รายการนี้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ถึง 8 สมัยจากการเข้าชิงทั้งหมด 11 ครั้ง และหากพวกเขาทำได้จะเป็นแชมป์แรกภายใต้การทำทีมของกุนซือหนุ่มอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ อีกด้วย

สถิติที่เคยพบกัน 5 นัดหลังสุด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-4 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ลิเวอร์พูล 2-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
ลิเวอร์พูล 3-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)

สถิติ 5 นัดหลังสุดของแมนฯ ซิตี้
ดินาโม เคียฟ 1-3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เชลซี 5-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-3 เลสเตอร์ ซิตี้
ซันเดอร์แลนด์ 0-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สถิติ 5 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล 1-0 เอาก์สบวร์ก
เอาก์สบวร์ก 0-0 ลิเวอร์พูล
แอสตัน วิลล่า 0-6 ลิเวอร์พูล
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล 2-2 ซันเดอร์แลนด์

ความพร้อมของทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : มานูเอล เปเญกรินี่ เริ่มจะได้ตัวหลัก ๆ กลับมาลงสนามกันได้แล้วก็จะเหลือเพียงแค่ ซาเมียร์ นาสรี่, ฟาเบียน เดลฟ์ และ เควิน เดอ บรอยด์ เท่านั้นที่ไม่พร้อมสำหรับนัดนี้ บาการี่ ซานญ่า และ กาแอล กลิชี่ อดีตสองดาวเตะของอาร์เซน่อลจะออกสตาร์ทในตำแหน่งฟูลแบ็คโดยมีกัปตันทีมอย่างแว็งซองต์ กอมปานี จับคู่กับ นิโคลัส โอตาเมนดี้ ในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง แฟร์นันดินโญ่ และ แฟร์นันโด ดูโอ้บราซิเลี่ยนจะคอยเป็นคู่มิดฟิลด์คุมจังหวะของทีมโดยมี ยาย่า ตูเร่ รับบทบาทหน้าต่ำ ร่วมด้วย ดาบิด ซิลบา และ ราฮีม สเตอร์ลิง อดีตเด็กปั้นหงส์แดงประจำการอยู่ริมเส้น ส่วนหน้าเป้าก็จะใช้ เซอร์จิโอ้ อกูเอโร่ กุน นั่นเอง

ลิเวอร์พูล : เจอร์เก้น คล็อปป์ นั้นมีปัญหาในเรื่องการจัดตัวผู้เล่นลงสนามมากพอสมควรโดยเฉพาะในรายของกองหลังเพราะ มาร์ติน สเคอร์เทล และ เดยัน ลอฟเรน นั้นไม่พร้อมลงสนามในนัดนี้เพราะยังเจ็บอยู่ส่วนนายของ สตีเว่น คอลเกอร์ ก็ติดคัพไททำให้อาจจะต้องถอย ลูคัส เลว่า มิดฟิลด์ชาวแซมบ้ามายืนคู่กับ มามาดู ซาโก้ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แดนกลาง เอ็มเร่ ชาน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ เจมส์ มิลเนอร์ จองพื้นที่ตัวจริงแน่นอน ขณะที่สามตำแหน่งในเกมรุกก็เดาได้ง่าย ๆ เลยว่ามันจะต้องเป็นโอกาสของ โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ และ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ขณะที่ตัวสแตนบายในเกมรุกข้างสนามก็จะไม่มี อดัม ลัลลาน่า เช่นเดียวกันเพราะยังเจ็บอยู่

ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจ ฮาร์ท – บาการี่ ซานญ่า, นิโคลัส โอตาเมนดี้, แว็งซองต์ กอมปานี, กาแอล กลิชี่ – แฟร์นันดินโญ่, แฟร์นานโด – ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ยาย่า ตูเร่, ดาบิด ซิลบา – เซอร์จิโอ้ กุน อกูเอโร่

ลิเวอร์พูล : ซิมง มิโญเล่ต์ – นาธาเนียล ไคลน์, ลูคัส เลว่า, มามาดู ซาโก้, อัลเบร์โต้ โมเรโน่ – เอ็มเร่ ชาน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, เจมส์ มิลเนอร์ – โรแบร์โต้ เฟอร์มิโน่, ฟิลิปเป้ คูตินโญ่, ดาเนียล สเตอร์ริดจ์

ทรรศนะ
ด้วยความที่เป็นนัดชิงคงไม่มีทีมไหนเลือกที่จะบุ่มบ่ามบุกเข้าใส่เป็นแน่แท้ แถมทั้งสองทีมก็เพิ่งจะมีภารกิจลงเตะบอลยุโรปเมื่อกลางสัปดาห์มา โดย หงส์แดง ได้พักน้อยกว่าหนึ่งวันแต่ เรือใบสีฟ้า นั้นต้องบินไปเตะไกลถึงยูเครนเรียกได้ว่าไม่ค่อยได้เปรียบเสียเปรียบกันมากเท่าไหร่นะในจุดนี้ ส่วนสำคัญเลยคือประสบการณ์นัดใหญ่ของหงส์แดงชุดนี้ค่อยข้างน้อยผิดกับ แมนฯซิตี้ แถมตัวหลักในแนวรับของทีมดังย่านเมอร์ซี่ไซด์ยังเจ็บอยู่ทั้งสเคอร์เทลและลอฟเรน ทำให้การถอยลูคัส เลว่า ไปยืนอาจจะเป็นจุดบอดก็ได้เพราะเกมรุกของซิตี้มีแต่ตัวอันตราย ๆ และเร็ว ๆ ด้วยกันทั้งสิ้น

โอกาสชนะ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โอกาสชนะ 45%
โอกาส เสมอ 25%
ลิเวอร์พูล โอกาสชนะ 30%

ราคาแฮนดิแคป
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ราคาเสมอ 1.66 (แทง 100 ได้ 166 บาท)
ลิเวอร์พูล ราคาเสมอ 2.35 (แทง 100 ได้ 235 บาท)

ดูราคาคู่ แมนฯ ซิตี้ vs ลิเวอร์พูล แบบเต็ม คลิกที่นี่!