กลับจากภารกิจทีมชาติกันมาลีกสูงสุดเมืองผู้ดีอย่างเวที พรีเมียร์ ลีก ก็เปิดฉากซัดกันอย่างเมามันด้วยคู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์กันเลยระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ต้องการทวงความยิ่งใหญ่คืนจะเปิดรังเอติฮัด สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของทีมมากประวัติศาสตร์อย่าง ลิเวอร์พูล

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ vs ลิเวอร์พูล
วันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2560
เวลา 18.30 น.
ช่อง : beIN Sport 1

ทั้ง 2 ทีมเป็น 1 ใน 7 ทีมที่ยังไม่พบกับความพ่ายแพ้ในฤดูกาลนี้ โดยปัจจุบัน ทีมเรือใบ อยู่ในอันดับที่ 4 มี 7 คะแนนชนะไป 2 เสมอไป 1 ส่วน หงส์แดง รั้งอยู่ในตำแหน่งรองจ่าฝูงด้วย 7 คะแนนเท่ากันแต่เหนือกว่าด้วยจำนวนประตูได้ที่บวกอยู่ 5 ขณะที่ทีมของเป๊ปบวกอยู่ 3 หากคู่นี้มีผลแพ้ชนะกันก็เท่ากับว่าอันดับในตารางของทั้งคู่จะมีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน

สถิติที่เคยพบกัน 5 นัดหลังสุด
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ ลีก)
ลิเวอร์พูล 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ ลีก)
ลิเวอร์พูล 3-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ ลีก)
ลิเวอร์พูล 1-1 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ลีก คัพ)
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-4 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ ลีก)

สถิติ 5 นัดหลังสุดของแมนเชสเตอร์ ซิตี้
บอร์นมัธ 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-1 เอฟเวอร์ตัน
กิโรน่า 1-0 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ไบรท์ตัน 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 0-3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สถิติ 5 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูล 4-0 อาร์เซนอล
ลิเวอร์พูล 4-2 ฮอฟเฟนไฮม์
ลิเวอร์พูล 1-0 คริสตัล พาเลซ
ฮอฟเฟนไฮม์ 1-2 ลิเวอร์พูล
วัตฟอร์ด 3-3 ลิเวอร์พูล

ความพร้อมของทั้งสองทีม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โจเซป เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ชาวกระทิงดุอาจจะต้องรอเช็คฟิตกองหลังกัปตันทีมอย่าง แวงซองต์ กอมปานี ที่มีปัญหาบาดเจ็บนิดหน่อยจากการไปรับใช้ทีมชาติ ส่วน อิลคาย กุนโดแกน ก็ยังไม่หายเดี้ยงไม่พร้อมสำหรับนัดนี้แน่ ๆ เพียงคนเดียวสำหรับลิสต์นักเตะที่บาดเจ็บ ขณะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง อดีตปีกของหงส์แดงอดเจอทีมเก่าเนื่องจากติดโทษแบนจากการโดนใบแดงในนัดชนะบอร์นมัธนั้นเอง ผู้รักษาประตูจะเป็น เอแดร์สัน จอมหนึบค่าตัวแผง โดยกองหลังข้างหน้า 3 ตัวจะเป็น นิโคลา โอตาเมนดี้, จอห์น สโตนส์ และอีกคนนึงคาดว่าจะเป็น กอมปานี หากฟิตพอที่จะลงสนาม ขณะที่ฟูลแบ็คขวาจะได้ ไคล์ วอล์คเกอร์ พ้นโทษแบนกลับมาประจำการ ส่วนทางด้านซ้ายจะเป็น ดานิโล่ กองกลางตัวรับเป๊ปก็จะยังใช้แข้งผึ้งงานชาวบราซิเลี่ยนอย่าง แฟร์นันดินโญ่ โดยมีตัวรุกเป็น ดาบิด ซิลบา, เควิน เดอ บรอยน์ และมีคู่กองหน้าจากละตินอย่าง กาเบรียล เฆซุส และ เซอร์จิโอ อกูเอโร่ กุน

ลิเวอร์พูล : เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือชาวเยอรมันจะยังมีตัวเจ็บหน้าเดิมๆอย่าง นาธาเนียล ไคลน์, แดนนี่ อิงส์ และ อดัม ลัลลาน่า ขณะที่ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพลเมกเกอร์ตัวเก่งหายเจ็บกลับมาแล้ว และก็ลงเล่นให้ทัพแซมบ้าไปแล้วในศึกคัดบอลโลกน่าจะกลับมามีชื่อในเกมนี้อีกครั้งในบทบาทตัวสำรองหลังจากที่ คูตี้ ใจสลายอดย้ายไปอยู่กับทาง บาร์เซโลน่า ผู้รักษาประตูเกมนี้จะใช้ ซิมง มินโญเลต์ หลังจากที่นัดก่อนเจ้าตัวถูกดร็อปไปดื้อ ๆ แผงหลัง 4 คนจะใช้ โจ โกเมซ เป็นแบ็คขวาโดยมี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เป็นแบ็คทางด้านซ้าย ส่วนคู่เซ็นเตอร์แบ็คเนื่องจากไม่สามารถคว้าตัว เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ มาจากทีมนักบุญได้ทำให้ คล็อปป์ ก็ยังคงต้องใช้ เดยัน ลอฟเรน ยืนคู่กับ โจเอล มาติป ต่อไป บริเวณกลางสนามจะยังใช้ตัวเดิมจากนัดเปิดบ้านอัดปืนใหญ่4-0ทั้งหมดทั้งเอ็มเร่ ชาน,จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม และกัปตันทรงผมเนี๊ยบอย่างจอร์แดน เฮนเดอร์สัน เฉกเช่นเดียวกับพวกตัวรุกข้างหน้า 3 ตัวที่จะยังใช้ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่

ผู้เล่น 11 ตัวจริงที่จะลงสนาม
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : เอแดร์สัน – แวงซองต์ กอมปานี, จอห์น สโตนส์, นิโคลา โอตาเมนดี้ – ไคลน์ วอร์คเกอร์, ดานิโล่, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา, เควิน เดอ บรอยน์ – เซอร์จิโอ อกูเอโร่, กาเบรียล เฆซุส

ลิเวอร์พูล : ซิมง มินโญเลต์ – โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, โจเอล มาติป, เดยัน ลอฟเรน – เอ็มเร่ ชาน, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน – ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ เฟอร์มิโน่

ทรรศนะ
หากดูที่สภาพตัวผู้เล่นอย่างเดียวชื่อชั้นของ ทีมเรือใบสีฟ้า ดูดีกว่าเยอะ แต่หากดูจากผลงานช่วงหลังที่เจอกันคงต้องบอกว่าทีมของ หงส์แดง ทำได้ดีกว่า ผลงานนัดล่าสุดที่เจอกับอาร์เซนอล ขอบอกเลยว่าลูกทีมของ คล็อปป์ เกมรุกโคตรจะโหดไม่ธรรมดาเลย ส่วนเกมรับที่เป็นปัญหาก็ต้องมาเจอกับตัวรุกสายโหดของเรือใบสีฟ้า และการเข้าทำสไตล์ของเป๊ปเรียกได้ว่าคู่นี้ผลที่ออกมาอาจจะออกได้ทั้ง 3 หน้าแต่สกอร์คงสูงน่าดูหากวัดจากชื่นตัวรุกของทั้ง 2 ทีม

โอกาสชนะ
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : โอกาสชนะ 30%
โอกาสเสมอ 40%
ลิเวอร์พูล : โอกาสชนะ 30%

ราคาแฮนดิแคป
แมนฯ ซิตี้ ต่อ -0.5 ราคา 1.84
(แทง 100 ได้ 184 บาท)
*ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

ดูราคาคู่ แมนฯ ซิตี้ vs ลิเวอร์พูล คลิกที่นี่!